จากนั้นมู่เฉียนซีได้ชักกระบี่มังกรเพลิงออกมา!

นางได้รวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดที่มีไว้ที่ยอดกระบี่และพุ่งขึ้นไปบนอากาศ มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “บัวแดงพิฆาต!”

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่น ดอกบัวสีแดงเพลิงบานสะพรั่งขึ้นกลางอากาศ

ทุกคนล้วนแต่ตะลึงงัน “สาวน้อยผู้นั้นไม่เป็นอะไร ทำไมนางถึงได้โจมตีไปที่กลางอากาศ?”

“นางเป็นเพียงจักรพรรดิแห่งภูตตัวเล็ก ๆ ผู้หนึ่ง เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยเช่นนี้มิใช่ว่ารนหาที่ตายหรือ?”

“…….”

ฟึ่บ!

เปลวเพลิงได้ไปเผายาพิษทำให้เกิดหมอกควันสีดำสนิทลอยออกมา จากนั้นมันก็ได้ลงมาครอบคลุมพวกเขาเอาไว้ และบดบังการมองเห็นของพวกเขา

“บ้าจริง มันมีพิษ!”

“หุบเขาหมอเทวดาช่างไร้ยางอายเสียจริง กลับกล้าใช้ยาพิษ!”

“……”

มีคนจำนวนไม่น้อยเริ่มกร่นด่าสาปแช่ง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีพลังความสามารถที่แข็งแกร่ง แต่ทว่าหมอกพิษนี้ก็สร้างผลกระทบต่อพวกเขาไม่น้อย

“สุ่ยจิงอิ๋ง!” มู่เฉียนซีกล่าว

ในตอนนี้ ชิ้นส่วนของสุ่ยจิงอิ๋งชิ้นหนึ่งที่อยู่กลางอากาศก็ได้ตั้งใจบินไปทางที่นางอยู่!

มู่เฉียนซีกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ นางกลับสามารถเอามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งไม่อาจจะสัมผัสได้มาได้อย่างง่ายดาย

มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านหัวหน้าหุบเขา ข้าได้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว อย่างไรเสียพวกเรารีบกลับไปหุบเขาหมอเทวดา และนำมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์มอบให้แก่ท่านผู้เฒ่ากันเถอะ!”

เมื่อกล่าวจบ มู่เฉียนซีก็ได้มุ่งไปทางรอบนอกของป่าหัวใจเพลิง และแน่นอนว่าจวินโม่ซีนั้นก็ยังติดตามนางไป

ด้วยความสามารถของเขาแล้ว แน่นอนว่าพิษของมู่เฉียนซีมิอาจที่จะทำอะไรเขาได้

จวินโม่ซีรู้สึกสับสน การที่จะเอามหาวัตถุศักดิสิทธิ์เทพกลับไปหุบเขาหมอเทวดาและมอบให้ไอ้เฒ่านั่น สาวน้อยไม่ได้กินยาผิดขวดไปแน่หรือ?

ถึงต่อให้นางกินยาผิดไป ก็มิอาจที่จะปล่อยให้สาวน้อยไปก่อเรื่องเพียงลำพังได้

บึ้ม!

คนของหุบเขาหมอเทวดาเป็นคนกลุ่มแรกที่รู้สึกตัวขึ้นมา เพราะพวกเขาเป็นนักปรุงยาพิษจึงเกิดผลกระทบต่อพวกเขาน้อยที่สุด

ผู้อาวุโสเหล่านั้นกล่าวขึ้น “หัวหน้าหุบเขา ท่านรีบคุ้มกันเจ้าสองคนนั้นกลับหุบเขาเร็วเข้า ข้าจะถ่วงเวลาไว้ให้เอง ขอแค่เพียงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ไปถึงหุบเขาหมอเทวดาของพวกเรา มีท่านผู้เฒ่าอยู่ ไม่มีใครที่สามารถจะแย่งชิงมันไปได้”

หัวหน้าหุบเขาพุ่งออกไป เขาจะต้องตามตัวเด็กสาวนั่นให้ทัน

เขาสงสัยว่าสาวน้อยนั่นมิได้จะเอามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพกลับไปที่หุบเขาหมอเทวดา นางแค่เพียงพูดเอ่ยไปก็เท่านั้น

จะให้เด็กสาวผู้นั้นหนีไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด เขากล่าวขึ้น “ถ่วงเวลาพวกเขาเอาไว้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ข้าจะไปตามไล่ล่าพวกเขาทั้งสอง!”

“ขอรับ!”

“จะให้พวกหุบเขาหมอเทวดาทำสำเร็จไม่ได้ พวกเราตามไป!”

“…….”

ตูม!

การต่อสู้ในป่าหัวใจเพลิงยังไม่สงบลง

และในที่สุดจวินโม่ซีก็ไล่ตามมู่เฉียนซีได้ทัน เขาถามขึ้นว่า “สาวน้อย พวกเราจะกลับไปหุบเขาหมอเทวดาจริง ๆ หรือ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “การกลับไปหุบเขาหมอเทวดาในครั้งนี้จะต้องมีอันตรายอย่างแน่นอน ในตอนนี้เจ้าควรกลับไปที่หอหมอปีศาจเสียเดี๋ยวนี้”

“ข้าไม่กลับไปหรอก! พูดกันไว้แล้วนี่ว่าพวกเราจะรับมือกับพวกหุบเขาหมอเทวดาด้วยกัน เจ้าจะทิ้งข้าไปเช่นนี้ ไม่มีทางหรอก!”

ไม่ง่ายเลยกว่าที่พวกเขาจะหนีมาได้ถึงรอบนอกของป่าหัวใจเพลิง ส่วนหัวหน้าหุบเขาซือคงเองก็ได้ตามมาจนทันเสียแล้ว

เขาตะโกนขึ้น “สาวน้อย เจ้าหยุดนะ!”

มู่เฉียนซีกล่าว “หัวหน้าหุบเขา ตอนนี้มิใช่เวลาที่จะมาคิดบัญชีกับข้า หากแต่ควรรีบกลับไปที่หุบเขาหมอเทวดา!”

นางหันมองไปทางที่มีการต่อสู้เกิดขึ้นแล้วกล่าว “อีกไม่นานนักพวกเขาก็จะตามมาทันแล้ว หากว่าพวกเรามาเสียเวลาอยู่ มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์โดนชิงไป เมื่อถึงเวลาท่านเองก็ยากที่จะพูดคุยกับท่านผู้เฒ่าได้!”

หัวหน้าหุบเขาซือคงตะลึงงัน “เจ้าจะกลับไปที่หุบเขาหมอเทวดาจริงหรือ?”

หรือว่าการคาดเดาของเขาเมื่อก่อนหน้านี้มันผิดพลาดไปจริง ๆ เป็นเขาที่คิดมากเกินไป

มู่เฉียนซีพยักหน้าแล้วกล่าว “นั่นแน่นอน พวกเรารีบไปจากป่าหัวใจเพลิง ขี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์บินกลับหุบเขาหมอเทวดากันเถอะ!”

หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าว “เช่นนั้นก็ไปเร็ว!”

ไม่ว่านางจะใช่มู่เฉียนซีหรือไม่ ไปถึงหุบเขาหมอเทวดาก่อนแล้วค่อยว่ากัน!

เมื่อถึงเวลานั้นนางหนีไม่รอดอย่างแน่นอน

“โฮก!”

ผู้แข็งแกร่งจากร้อยสำนักใหญ่คิดที่จะตามมู่เฉียนซีกับหัวหน้าหุบเขาซือคงไป แต่นึกไม่ถึงเลยว่าพยัคฆ์อัคคีจะโจมตีอีกครั้งหนึ่ง!

ทั้งป่าหัวใจเพลิงได้เกิดความโกลาหลไปทั่วทั้งผืน และนั่นจึงเป็นการให้เวลาแก่พวกมู่เฉียนซีหนีไป

รอจนเมื่อร้อยสำนักใหญ่ฝ่ามาได้ มู่เฉียนซี จวินโม่ซี และหัวหน้าหุบเขาซือคงก็ได้ขี่สัตว์ศักดิสิทธิ์ล่องนภาออกไปเสียแล้ว

พวกเขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก “รีบตามไป! ขอแค่เพียงพวกนั้นยังไม่ได้เข้าไปในหุบเขาหมอเทวดา พวกเราก็ยังมีโอกาสอันใหญ่หลวง!”

“นั่นมันมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์! ไม่ว่าอย่างไรก็จะปล่อยไปไม่ได้!”

“……”

เมื่อขี่อยู่บนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่บินได้ อาถิงได้ส่งเสียงถึงมู่เฉียนซี “นางผู้หญิงบ้า ข้านั้นจะไม่ไหวแล้ว จะต้องหลับใหลไปช่วงเวลาหนึ่ง”

มู่เฉียนซีตอบ “เจ้าหลับไปเถอะ!”

“เจ้าแน่ใจว่าไม่มีปัญหา?”

ถึงแม้ว่าเขาจะเดาไม่ออกว่าผู้หญิงบ้านางนี้จะทำอะไร

แต่หลังจากที่เข้าไปในหุบเขาหมอเทวดาแล้ว จะต้องเกิดเรื่องอะไรที่ไม่ดีขึ้นอย่างแน่นอน!

มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าวางใจเถอะ!”

นางรู้ดีเป็นอย่างมากว่าครั้งนี้เขาสูญเสียพลังไปมากมายเพียงใด ซึ่งไม่อาจที่จะทนได้ไหวอีกต่อไปอย่างแน่นอน

อาถิงกล่าวตอบ “ได้! แต่ข้าจะบอกเจ้าเอาไว้ว่า ไม่ได้รับการอนุญาตจากข้า ห้ามเจ้าตายเป็นอันขาด!”

มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “วางใจเถอะ! ข้านั้นดวงแข็ง!”

หลังจากนั้นก็ไร้ซึ่งเสียงของอาถิง มู่เฉียนซีสัมผัสได้ว่าเขานั้นได้เข้าสู่สภาวะหลับใหลไปเรียบร้อยแล้ว

สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ได้บินพาพวกเขาไปยังด้านนอกของหุบเขาหมอเทวดาอย่างปลอดภัย มันไม่ได้บินตรงเข้าไปยังด้านในของหุบเขาหมอเทวดา หัวหน้าหุบเขาซือคงให้มันบินลงไปกลางป่าที่ด้านนอกหุบเขาหมอเทวดา

มู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีกระโดดลงจากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์บินได้ จากนั้นพวกนางก็มองไปทางหัวหน้าหุบเขาซือคงแล้วกล่าวถามขึ้น “หัวหน้าหุบเขาซือคง ท่านให้บินลงที่นี่หมายความอย่างไร?”

หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “หมายความว่าอย่างไร?”

หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าวต่อ “เดิมทีข้าสงสัยว่าเจ้าเป็นศัตรูของข้าที่ชื่อว่ามู่เฉียนซี แต่ว่าเจ้าก็ได้นำมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์กลับมายังหุบเขาหมอเทวดาอีก ข้าก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธตัวตนของเจ้าได้ อย่างไรเสียก็คงไม่มีใครที่มารนหาที่ตายเช่นนั้นหรอก”

มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “สิ่งที่ท่านกล่าวมาเหมือนจะถูกต้องเป็นอย่างมาก ในเมื่อท่านไม่คิดว่าข้าเป็นศัตรูของท่าน เช่นนั้นท่านนำสัตว์ศักดิ์สิทธิ์บินได้มาลงที่นี่นั้นหมายความเช่นไร?”

“ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่มู่เฉียนซี แต่ก็เป็นผู้ที่ทำให้บุตรชายของข้าต้องตาย ทันทีที่เข้าไปในหุบเขาหมอเทวดา เจ้ามิเพียงแต่เป็นศิษย์คนสนิทของท่านผู้เฒ่า อีกทั้งเจ้ายังมีความดีความชอบในการแย่งชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์มาอีก ท่านผู้เฒ่าจะต้องปกป้องเจ้าอย่างแน่นอน เช่นนั้นหากข้าคิดจะแก้แค้นมันก็มิอาจเป็นไปได้เลย แต่ว่าในตอนนี้…..”

“ท่านต้องการที่จะล้างแค้นให้บุตรชายใช่หรือไม่?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วถาม

“แน่นอน รับความตายเสียเถอะ!” หัวหน้าหุบเขาซือคงร้องตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ลมที่รุนแรงสายหนึ่งได้พัดไปทางมู่เฉียนซี

เงาร่างสีขาวเงาหนึ่งได้แวบเข้ามาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ามู่เฉียนซี

บึ้ม!

จวินโม่ซีได้ปัดป้องเอาไว้ แต่ก็กลับถูกหัวหน้าหุบเขาซือคงทำให้บาดเจ็บเข้าเสีย

มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมาเป็นสาย “สาวน้อย เจ้ารีบหนีไป!”

หัวหน้าหุบเขาซือคงเตรียมจะลงมืออีกครั้ง กระบวนท่าที่เขาใช้ในตอนนี้ล้วนแต่เป็นท่าโจมตีที่รุนแรงถึงแก่ชีวิต แน่นอนว่ามู่เฉียนซีไม่อาจที่จะปล่อยให้จวินโม่ซีแสร้งทำตัวแข็งแกร่งต่อไปได้อีก

“ชิงอิ่ง ฆ่าเจ้าหมอนี่เสีย!”

เงาร่างสีเขียวปรากฏขึ้นเบื้องหน้ามู่เฉียนซีและพุ่งไปทางหัวหน้าหุบเขาซือคงราวกับสายฟ้าแลบ

เมื่อหัวหน้าหุบเขาซือคงได้เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย ม่านตาของเขาก็หดตัวลงอย่างฉับพลัน ดวงตาของเขาเบิกกว้างมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความเหลือเชื่อแล้วกล่าว “เจ้า…เจ้า….”

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่เขาได้เคยสงสัยไปนั้น มันได้พลิกกลับมาทำให้เกิดความสงสัยแก่ตัวเขาอีกแล้ว

แล้วมาในตอนนี้ มู่เฉียนซีก็ได้เผยหลักฐานที่แน่นหนาเอาไว้ตรงหน้าของเขา

คนผู้นี้คือองค์รักษ์ของมู่เฉียนซี มาตอนนี้กลับมาปรากฏกายขึ้นข้างตัวนาง ปกป้องนาง ทั้งหมดนี่มิจำเป็นต้องกล่าวก็กระจ่างชัด