เล่มที่ 24 เล่มที่ 24 ตอนที่ 720 เอาตัวเข้าแลก

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

เมื่อตระหนักได้ว่าเป้าหมายไม่ถูกต้อง เยี่ยโยวเหยาจึงเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศ และซัดฝ่ามือไปที่กำแพงด้านข้างอย่างแรง

‘ครืน’ เกิดเสียงดังสนั่น กำแพงตรงหน้าพังทลาย

ตามมาด้วยเสียงดังกึกก้อง หลังคาครึ่งหนึ่งพลันถล่มลงมา

ฝุ่นฟุ้งกระจายตลบอบอวล ซูจิ่นซีค่อยๆ หลับตาพลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ลวี่หลีที่อยู่ด้านข้างตกใจกลัวจนขาอ่อนล้มลงกับพื้น

องครักษ์เงาที่คุ้มกันอยู่ด้านนอกได้ยินเสียงผิดปกติจึงรีบเข้ามา ทว่าพอเห็นสถานการณ์ในห้องจึงถอยออกไปอย่างเงียบงัน

ซูจิ่นซีมือสั่นเทา อู๋จุนฉวยจังหวะจากการโจมตีของเยี่ยโยวเหยา เพื่อจ้องมองไปที่เขา “เยี่ยโยวเหยา เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ? ”

เยี่ยโยวเหยากำหมัดแน่น ดวงตาเย็นชาราวกับคมกระบี่หยุดอยู่บนร่างของอู๋จุน “รนหาที่ตาย! ”

อู๋จุนไม่ได้กลัวเยี่ยโยวเหยาอยู่แล้ว ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด เขาถึงตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นแววตาของเยี่ยโยวเหยา น้ำเสียงที่พูดออกไปจึงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

“ข้าเพียงล้อเล่นกับแม่นางพิษน้อย เจ้าจะกังวลอันใด? ข้าไม่แย่งชิงภรรยาของเจ้าหรอก! ”

ลวี่หลีอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ

ท่านเทพโอสถ หากท่านไม่คิดแย่งชิง แล้วท่านพูดจาส่งเดชเช่นนั้นเพื่ออันใด?

ท่านไม่รู้หรือว่าการพูดจาส่งเดชอาจทำให้ตายได้?

เยี่ยโยวเหยากำหมัดแน่นยิ่งขึ้น หากเขาไม่รู้ว่าซูจิ่นซีตั้งใจปกป้องอู๋จุน หมัดของเขาคงตกไปอยู่บนร่างของอู๋จุนแล้ว

หลังจากอดกลั้นอยู่ครู่หนึ่ง แววตาเย็นชาของเยี่ยโยวเหยาก็มองไปที่ซูจิ่นซีเพื่อเป็นการเตือน

ซูจิ่นซีรู้สึกสันหลังเย็นวาบอย่างเห็นได้ชัดเจน ทันใดนั้น ภาพ ‘การทรมาน’ ก็ปรากฏเข้ามาในความคิด นางสามารถจินตนาการได้เลยว่าเยี่ยโยวเหยาจะ ‘ลงโทษ’ นางอย่างไร

เมื่อคิดได้ว่าอีกไม่กี่วันหลังจากนี้ นางต้องถูกเยี่ยโยวเหยาทรมานจนคางเหลือง จนอาจลุกจากเตียงไม่ได้ไปอีกหลายวัน ภายในใจของซูจิ่นซีก็เดือดดาล

ทันทีที่ตระหนักได้ว่าผู้ต้องหาอยู่ตรงหน้า นางจึงโยนความผิดทั้งหมดไปให้อู๋จุน

ซูจิ่นซีบีบคออู๋จุนอย่างรุนแรง “อู๋จุน เจ้าจะพูดหรือไม่? ”

อู๋จุนถูกบีบคอจนหายใจไม่ออก ใบหน้าพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ทว่าภายใต้หน้ากากเย็นชานั้น ซูจิ่นซีกลับมองไม่เห็นสิ่งใด นางเห็นเพียงใบหน้าทะเล้นอย่างหาผู้ใดเปรียบไม่ได้และดวงตาที่กลอกกลิ้งไปมาไม่หยุด

“พูด… พูด… พูด! พี่จุนจะพูดทุกอย่างแล้ว! แม่… แม่นางพิษน้อย เจ้ารีบปล่อย เจ้าจะฆ่าพี่จุนแล้ว! ”

ซูจิ่นซีเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองใช้แรงมากเกินไป จึงปล่อยมือจากอู๋จุนด้วยท่าทางขุ่นเคือง “ยังไม่พูดอีก! ”

อู๋จุนสูดอากาศเข้าเต็มปอด ทว่าใบหน้ายังคงปรากฏรอยยิ้ม

“แม่นางพิษน้อย พี่จุนกระหายแล้วจริงๆ พี่จุนอยากดื่มน้ำ! ”

ซูจิ่นซีมองลวี่หลี ลวี่หลีจึงรีบลุกขึ้นไปหยิบน้ำมาให้อู๋จุน ทว่าครั้งนี้อู๋จุนไม่ได้มากเรื่องอีกต่อไป

หลังจากดื่มน้ำจนชุ่มคอ อู๋จุนไม่ได้รีบพูดในทันที ทว่าเขาไล่เยี่ยโยวเหยาออกไปอย่างดึงดัน

“เยี่ยโยวเหยา สิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนี้ ข้าจะพูดให้แม่นางพิษน้อยฟัง เจ้าไม่มีสิทธิ์ ออกไป! ”

ทั่วร่างของเยี่ยโยวเหยายังคงมีไอสังหารและความกดดันปรากฏอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของอู๋จุน

ซูจิ่นซีรีบส่งสัญญาณไม่ให้อู๋จุนทำเกินไป โดยเฉพาะตอนที่อยู่ต่อหน้าเยี่ยโยวเหยา

แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ยามที่อู๋จุนพบกับเยี่ยโยวเหยา พวกเขาก็เหมือนปลายเข็มที่พบข้าวสาลี ต้องกะเทาะกันจนตาย

อู๋จุนกระชากเสียงเย็นชาใส่เยี่ยโยวเหยา พลางกอดอกนอนอยู่บนเตียง

ทั้งยังปิดตาทั้งสองข้างราวกับหมูไม่กลัวน้ำร้อน

“หึ ไม่อยากออกไปก็ช่างเถิด ต่อให้เจ้าจะฆ่าข้า แต่ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ที่นี่ ข้าก็จะไม่พูด! ไม่พูดก็คือไม่พูด! ”

ซูจิ่นซียอมแพ้คนพวกนี้จริงๆ …

อย่างไรก็ตาม นางรู้นิสัยเยี่ยโยวเหยาดี เวลานี้ เยี่ยโยวเหยาจะก้มศีรษะและถอยออกไปได้อย่างไร เขาจะหลบออกไปตามคำร้องขอของอู๋จุนได้อย่างไร?

ให้เขาฆ่าอู๋จุนให้ตาย ยังง่ายกว่าทำเรื่องแบบนั้น

ทว่าซูจิ่นซีไม่อาจปล่อยให้เยี่ยโยวเหยาฆ่าอู๋จุนได้!

ซูจิ่นซีครุ่นคิดอย่างฉับไว ก่อนจะคิดวิธีได้อย่างรวดเร็ว นางเดินไปยังข้างกายเยี่ยโยวเหยา และจับแขนของเยี่ยโยวเหยาไว้

“ท่านอ๋อง ท่านช่วย… ออกไปก่อนได้หรือไม่? ”

เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อยและกวาดสายตาเพื่อตักเตือน ซูจิ่นซีเม้มริมฝีปาก นางเขย่าแขนเยี่ยโยวเหยาด้วยท่าทางนิ่มนวลและงดงาม

“หม่อมฉันรู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ได้หรือไม่เพคะ? ทว่าท่านอ๋อง พวกเราไม่ควรกระทบกระทั่งกันเพราะเรื่องเพียงเท่านี้! รอถามให้รู้ความแน่ชัดแล้ว หม่อมฉันจะไปยอมรับโทษกับท่านอ๋องดีหรือไม่? ”

เยี่ยโยวเหยายังแสดงออกว่าไม่ยอมรับข้อตกลง

ดวงตาดำขลับงดงามของซูจิ่นซีกะพริบไปมา แผนการในสมองวิ่งกันวุ่น

“ท่านอ๋อง จิ่นซีได้ยินมาว่าหอสุราตู้คังนอกเมือง นำสุราดีมาไม่น้อย เมื่อกลับไป จิ่นซีพาท่านไปชิมดีหรือไม่? ”

“…”

“ท่านอ๋อง ได้ยินมาว่าเขาหลีซานนอกเมืองมีโรงน้ำชาเปิดใหม่ ทั้งยังปลูกชาแดงหนานซานที่หายากยิ่งนัก ช่วงบ่ายจิ่นซีไปกับท่านดีหรือไม่? ”

“…”

ทุกอย่างยอมได้ อำนาจก็ยอมได้ ทรัพย์สินเงินทองยอมได้ แม้แต่แผ่นดินก็ยอมได้ ทว่าเรื่องสตรี… เยี่ยโยวเหยาไม่มีวันยอมแน่นอน!

ไม่ว่าซูจิ่นซีจะพูดอันใดหรือหลอกล่ออย่างไร เยี่ยโยวเหยาก็ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

ดวงตาเย็นชาของเขาจับจ้องอู๋จุนโดยไม่ละสายตา

ซูจิ่นซีครุ่นคิดทุกวิถีทางแล้วจริงๆ …

ในที่สุด บางอย่างก็ปรากฏขึ้นมาในความคิด

ทว่าเมื่อนึกถึงสถานการณ์ตรงหน้า ซูจิ่นซีก็เกิดความลังเลเล็กน้อย

ทว่าไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้ว!

ท้ายที่สุด หลังจากต่อสู้กับตัวเองในใจอย่างหนักหน่วง แววตาของซูจิ่นซีก็เปลี่ยนเป็นแน่วแน่ นางเม้มริมฝีปากและเขย่งปลายเท้าเพื่อแนบริมฝีปากสีอิงเถาของตนกับริมฝีปากของเยี่ยโยวเหยา

อยากตายเสียจริง…

ลวี่หลีเบิกตากว้าง แก้มพลันแดงก่ำอย่างชัดเจน ทว่าปฏิกิริยาแรกของนางคือการพุ่งไปปิดตาทั้งสองข้างของอู๋จุน

อู๋จุนอยากดึงมือลวี่หลีออกใจแทบขาด ทว่าลวี่หลีกลับเอาร่างของตนมาขวางเตียง บดบังการมองเห็นทั้งหมดของอู๋จุน

เมื่ออู๋จุนผลักมือลวี่หลีออก ซูจิ่นซีก็ผละออกจากเยี่ยโยวเหยาแล้ว ดวงตาของนางกะพริบราวกับปีกผีเสื้อ พลางหลุบสายตามองต่ำอย่างพอดี และเขย่าแขนของเยี่ยโยวเหยา

ซูจิ่นซีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม “ท่านอ๋อง ท่านวางใจจิ่นซีเถิด! จิ่นซีไม่มีวันทำเรื่องที่ผิดต่อท่าน! ”

ร่างกายแข็งทื่อของเยี่ยโยวเหยาค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ ดวงตาดำขลับเลื่อนไปมองสบตาของซูจิ่นซีอย่างเชื่องช้า และเหลือบไปมองอู๋จุนด้วยสายตาตักเตือน

หลังจากนั้นจึงหันหลัง… เดินออกไป!

ลวี่หลีไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น

ซูจิ่นซีถอนหายใจอย่างโล่งอก

นางรู้ดีว่าเมื่อเผชิญหน้ากับเยี่ยโยวเหยา ย่อมไม่มีช่องว่างให้ต่อรองมากนัก ตราบใดที่นางเอาตัวเข้าแลก เยี่ยโยวเหยาต้องยอมจำนนโดยไม่มีข้อแม้

อู๋จุนค่อยๆ กลับมาได้สติจากอาการตกตะลึง เขามองซูจิ่นซีและถามด้วยรอยยิ้ม “แม่นางพิษน้อย ความจริงแล้ว เพียงเจ้าจูบข้า ไม่ว่าเรื่องใดข้าล้วนตอบตกลงเจ้าทั้งสิ้น เจ้าจะ… ลองดูหรือไม่? “