เล่มที่ 24 เล่มที่ 24 ตอนที่ 719 อู๋จุน เจ้าพอได้แล้ว

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ซูจิ่นซีกำลังอับจนหนทาง ทันใดนั้น น้ำเสียงเบิกบานใจและคุ้นเคยก็ดังขึ้น

“แม่นางพิษน้อย หากไม่รู้ก็ถามข้าได้! พี่จุนรู้! ”

เมื่อสิ้นเสียงพูด อู๋จุนในชุดสีแดงที่งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ พลันเหาะเข้ามาดั่งดอกท้อที่บานสะพรั่งและร่อนลงเบื้องหน้าซูจิ่นซี

“แม่นางพิษน้อย พี่จุนพูดแล้วว่าหากกำจัดถังเสวี่ย เด็กน้อยผู้นั้นเรียบร้อยแล้วจะกลับมาหาเจ้า ครั้งนี้ข้ากลับมาหาเจ้าตามคำสัญญา! เจ้าจะตกรางวัลให้พี่จุนอย่างไร? ”

ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของอู๋จุน ฝ่ามือพิฆาตเย็นยะเยือกของเยี่ยโยวเหยาก็โจมตีไปที่เขาทันที

เช่นนั้น อู๋จุนคนทะเล้นจะมีเวลาให้พูดจาไร้สาระได้อย่างไร?

เขาหลบการโจมตีของเยี่ยโยวเหยา ทว่ายังถูกฝ่ามือของเยี่ยโยวเหยาซัดเข้าอย่างจัง จนกระเด็นออกไปนอกประตู

ซูจิ่นซีพูดเสียงเข้ม “เยี่ยโยวเหยา ท่านทำอันใด? ”

เยี่ยโยวเหยาชักสีหน้าเย็นชา พลางไพล่สองมือไว้ด้านหลัง “ผู้ที่คิดหยอกเย้าสตรีของข้า ต้องตาย! ”

ซูจิ่นซีกุมขมับอย่างช่วยไม่ได้ “เขารู้จักวัสดุของอาคมกำไลปี่อั้น! ”

ท่านตบเขาจนกระเด็นเช่นนี้ จะทราบคำตอบจากปากเขาได้อย่างไร?

โดยไม่คาดคิด เยี่ยโยวเหยากลับไม่สนใจแม้แต่น้อย ทั้งใบหน้ายังปรากฏความเย็นชาสุดขีด “ต่อให้เขารู้ก็ไม่ได้! ”

ซูจิ่นซีอยากจะพุ่งชนกำแพงให้รู้แล้วรู้รอด

“โยวอ๋อง ท่านอย่าดื้อรั้นนักเลย! โลกใบนี้มีผู้คนอยู่มากมาย ท่านคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนท่านที่ทั้งหยิ่งยโส บ้าอำนาจ โหดร้าย บ้าคลั่ง อยากขัดใจผู้ใดก็ขัดใจได้ เช่นนั้นหรือ? ”

เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย ทว่าดวงตายังฉายแววดุดันโหดเหี้ยม เขาเดินตามหลังซูจิ่นซีไปหาอู๋จุนที่ถูกซัดกระเด็นออกไป

ครึ่งชั่วยามต่อมา ในจวนโยวอ๋อง

ห้องปีกข้างในเรือนชิงโยว มีอู๋จุนที่ใบหน้าเขียวช้ำนอนตะแคงอยู่บนเตียง

“แม่นางพิษน้อย พี่จุนหิวแล้ว! ”

ซูจิ่นซีส่งสายตาให้ลวี่หลี นางจึงรีบนำขนมมาวางตรงหน้าอู๋จุน

อู๋จุนหยิบเข้าปากหนึ่งชิ้น พลางเคี้ยวอย่างมีความสุข

“อืม รสชาติไม่เลว ทว่า… ยังแย่กว่าที่แม่นางพิษน้อยทำอยู่เล็กน้อย! แม่นางพิษน้อย พี่จุนอยากทานขนมที่เจ้าเป็นคนทำ”

ซูจิ่นซียืนกอดอกด้วยใบหน้าเย็นชาอยู่ด้านข้าง เห็นได้ชัดว่านางไม่อยากสนใจอู๋จุน

ทว่าลวี่หลีกลับรู้สึกประหม่า

นางเหลือบมองซูจิ่นซีที่แสดงท่าทางเอือมระอา และเหลือบมองเยี่ยโยวเหยาที่นั่งจิบชาอยู่ที่โต๊ะหินด้านนอกอย่างระมัดระวัง สุดท้าย สายตาของนางก็หยุดลงบนใบหน้าของอู๋จุน หัวคิ้วพลันขมวดมุ่น

ไม่พูดไร้สาระได้หรือไม่?

แม้แต่ท่านอ๋องยังไม่เคยทานขนมที่คุณหนูทำเลย แล้วท่านที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอันใด เคยทานตั้งแต่เมื่อไร?

จะพูดจาไร้สาระก็ไม่เป็นอันใด ทว่าพูดจาไร้สาระเสียงดังให้พระพุทธรูปองค์ใหญ่ด้านนอกได้ยิน ท่านไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?

ท่านไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ก็ไม่เป็นอันใด แต่อย่าลากคุณหนูของพวกเรามาเกี่ยวด้วยสิ!

หากท่านอ๋องเชื่อคำพูดของท่าน คุณหนูจะต้องตายอย่างอนาถเป็นแน่!

ไม่สิ ท่านอ๋องไม่มีทางปล่อยให้คุณหนูตาย ท่านอ๋องจะทำให้คุณหนูอยู่อย่างทรมาน จะตายก็ไม่ได้

เมื่อนึกถึงตอนที่ท่านอ๋องเคย ‘ลงโทษ’ คุณหนูจนลุกจากเตียงไม่ได้สองสามวัน ลวี่หลีก็รู้สึกสันหลังเย็นวาบแทนคุณหนู

นางเป็นห่วงซูจิ่นซีจริงๆ !

อย่างไรก็ตาม อู๋จุนไม่ได้สนใจท่าทีของลวี่หลีแม้แต่น้อย ทั้งเขายังไม่รู้เรื่องอันใด!

“แม่นางพิษน้อย พี่จุนกระหายน้ำ! ”

ซูจิ่นซีส่งสายตาอีกครั้ง ลวี่หลีรีบวางจานขนมในมือและรินน้ำชายื่นให้อู๋จุน

อู๋จุนดื่มไปได้อึกเดียวก็พ่นออกมา “นี่มันคืออันใด? ใช่ชาแน่หรือ? แม่นางพิษน้อย พี่จุนอยากดื่มชาเข็มเงินจวินซานที่เจ้าชงด้วยตนเอง! ”

ซูจิ่นซีกัดฟันอย่างเอือมระอา ทว่านางยังคงเดินไปที่โต๊ะเพื่อชงชา และยื่นให้อู๋จุนด้วยตนเอง

อู๋จุนรับชามาดื่มอึกหนึ่ง โดยไม่ได้สนใจว่ามันคือชาเข็มเงินจวินซานอย่างที่เขาจงใจตะโกนออกมาเสียงดังหรือไม่

“แม่นางพิษน้อยชงชาได้อร่อยยิ่งนัก ความเข้มข้นของชาเปรียบดั่งมิตรภาพของเจ้ากับพี่จุน แม่นางพิษน้อย เจ้าดีกับพี่จุนจริงๆ ข้ารักเจ้าที่สุด! ”

ลวี่หลีเหลือบมองออกไปด้านนอกด้วยร่างกายสั่นเทา และพบว่าใบหน้าของท่านอ๋องดำทะมึนยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก

เม็ดเหงื่อของนางผุดขึ้นมาแทนอู๋จุนและซูจิ่นซี

“แม่นางพิษน้อย พี่จุนเจ็บไหล่ เจ้านวดให้พี่จุนได้หรือไม่! ”

ให้ตายเถิด!

ลวี่หลีไม่อาจยืนหยัดได้อีกต่อไป เท้าของนางสั่นเทาไม่หยุด นางส่งสัญญาณบอกซูจิ่นซีว่าใบหน้าของท่านอ๋องดุดันอย่างมาก ทั้งยังส่งสัญญาณบอกให้อู๋จุนพอได้แล้ว

น่าเสียดายที่อู๋จุนไม่แม้แต่จะมองลวี่หลี ส่วนซูจิ่นซียิ่งมองไม่เห็น เพราะใบหน้าของนางดำทะมึนยิ่งกว่าเยี่ยโยวเหยาเสียอีก

ซูจิ่นซีส่งสัญญาณให้ลวี่หลีลงมือนวดแทน ทว่าอู๋จุนปฏิเสธทันทีที่ลวี่หลีก้าวไปข้างหน้า

“แม่นางพิษน้อย พี่จุนอยากให้เจ้าช่วยนวด! ”

ซูจิ่นซีกัดฟันกรอด นางเดินไปยืนด้านข้างอู๋จุน และกำหมัดต่อยไปที่ไหล่ของอู๋จุนทีละหมัดเหมือนกำลังทุบเนื้อหมู

แต่ปรากฏว่าบางคนบนโลกนี้ แม้จะกลืนเข็ม ทว่าเข็มนั้นก็ยังมีรสชาติของรังนกและหอยเป๋าฮื้อ

ใบหน้าอู๋จุนดูมีความสุข เขาตั้งใจแหกปากตะโกนไปทางด้านนอก “แม่นางพิษน้อย ข้ารู้ดีว่าเจ้าดีกับข้าที่สุด! อืม… สบาย… สบายจริงๆ ลงล่างหน่อย ลงล่างอีกนิด! ใช่ แบบนั้น ลงล่างอีกนิด! ”

มุมปากของซูจิ่นซีกระตุกอย่างแรง นางประทับหมัดลงบนใบหน้าของเขาได้หรือไม่?

ช่างไร้ยางอาย ไร้ยางอายที่สุด!

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ซูจิ่นซีจะมีเวลาให้ครุ่นคิดเรื่องอื่น นางก็รู้สึกได้ถึงลมเย็นยะเยือกที่ข้างใบหู ทันใดนั้น การโจมตีอันดุดันและคุ้นเคยก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ไม่ต้องหันไปมอง ซูจิ่นซีก็รู้ได้ทันทีว่าทางด้านหลังของนางเกิดอันใดขึ้น

ก่อนที่เงาร่างดำทะมึนของเยี่ยโยวเหยาจะปรากฏเบื้องหน้า ซูจิ่นซีก็คว้าคออู๋จุน นางกัดฟันกรอดและพูดว่า “อู๋จุน เจ้าพอได้แล้ว! ”

คำพูดที่กำลังจะออกจากปากพลันติดอยู่ที่คอ ใบหน้าของอู๋จุนเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที

ขณะเดียวกัน เยี่ยโยวเหยาที่มีวิชายุทธจิ่วเซียวขั้นเจ็ดก็เตรียมพร้อมโจมตีอย่างเต็มกำลัง เพียงซัดพลังไปยังร่างของอู๋จุน เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ซูจิ่นซีรับรู้ได้ถึงพลังฝ่ามือดุดันทางข้างหลัง มือที่บีบคออู๋จุนออกแรงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เล็บยาวจมลงไปในลำคอของอู๋จุนจนเลือดไหลซึม

ในเวลาเดียวกัน ซูจิ่นซีบดบังร่างของอู๋จุนเอาไว้เพื่อขวางฝ่ามือพิฆาตของเยี่ยโยวเหยา นางปกป้องร่างของอู๋จุนโดยไม่ตั้งใจ

ฝ่ามือพิฆาตของเยี่ยโยวเหยาไม่อาจฟาดลงมาที่ร่างของซูจิ่นซีได้

เมื่อตระหนักได้ว่าเป้าหมายไม่ถูกต้อง เยี่ยโยวเหยาจึงเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศ และซัดฝ่ามือไปที่กำแพงด้านข้างอย่างแรง

‘ครืน’ เกิดเสียงดังสนั่น กำแพงตรงหน้าพังทลาย

ตามมาด้วยเสียงดังกึกก้อง หลังคาครึ่งหนึ่งพลันถล่มลงมา

ฝุ่นฟุ้งกระจายตลบอบอวล ซูจิ่นซีค่อยๆ หลับตาพลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ลวี่หลีที่อยู่ด้านข้างตกใจกลัวจนขาอ่อนล้มลงกับพื้น