บทที่ 2618 หวนคืน 3 / บทที่ 2619 หวนคืน 4

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2618 หวนคืน 3

‘ฟุ่บ!’ เงาแสงสายหนึ่งวาบเข้าไป เงือกตนนั้นหายไปจากใต้กระบอกปืน…

คนผู้นั้นตะลึงงัน

เพื่อนร่วมงานของเขาอุทานขึ้นมาแล้ว

“เป็นแกะสองขาตัวนี้ที่เล่นเล่ห์!”

ผู้ที่ช่วยเหลือชาวเงือกย่อมเป็นกู้ซีจิ่ว ยามนี้เธอยืนสง่าอยู่บนดาดฟ้าเรือแล้ว มือซ้ายจับเงือกตนนั้นไว้ ปากกระบอกปืนวาววับกว่าสิบกระบอกจ่ออยู่ที่เธอ เธอไม่แยแสเลย กวาดตามองฝูงชนแวบหนึ่ง กำลังจะเอ่ยถามว่านี่คือยุคไหน สถานที่ใด

คาดไม่ถึงว่าเงือกตนนั้นที่เธอช่วยไว้จะมองเธอแล้วตะโกนขึ้นมา

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์?!”

น้ำเสียงเต็มไปด้วยประหลาดใจระคนยินดี ซ้ำยังเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อด้วย

กู้ซีจิ่วผงะไปเล็กน้อย

“ท่านคือท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่?! ผู้น้อยจำวิชาเคลื่อนย้ายของท่านได้! ท่านต้องเป็นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์แน่ๆ!”

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์! ท่านกลับมาแล้ว! โปรดช่วยพวกเราด้วย…”

ชาวเงือกอีกสองตนก็ร้องขึ้นมาแล้ว ปิติยินดีจนเสียงแทบหลงแล้ว

เดี๋ยวก่อนนะ พวกเขาเรียกเธอว่าเทพศักดิ์สิทธิ์…

หรือว่าเธอจะกลับมายังทวีปซิงเยวี่ย มีใช่ทะลุไปยังอนาคต?

ทวีปซิงเยวี่ยมีเผ่าเงือกอยู่ แถมเผ่าเงือกยังมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกู้ซีจิ่วด้วย หลังจากตี้ฝูอีดับขันธ์ไป กู้ซีจิ่วในฐานะเทพศักดิ์สิทธิ์ได้รวมเผ่าสมุทรให้เป็นหนึ่ง ในบรรดานั้นมีเผ่าเงือกรวมอยู่ด้วย…

สายตากู้ซีจิ่วกวาดผ่านร่างของชาวเงือกทั้งสามรอบหนึ่ง เงือกสามตนนี้แต่งกายเหมือนประชาชนชาวเงือกของทวีปหลานเฟิงจริงๆ ด้วย

“พวกเจ้าเป็นราษฎรของหลานเหยากวง?”

กู้ซีจิ่วถามประโยคหนึ่ง

“ใช่ ใช่แล้ว ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์! พวกเราคือประชาชนของทวีปหลานเฟิง นายท่านของพวกเราตั้งตารอท่านหวนคืนเสมอมา ขอท่านได้โปรดช่วยเหลือทุกคนด้วยเถิด…”

“ปวงเรามากมายถูกพวกเขาจับไปแล้ว…”

ชาวเงือกทั้งสามค้อมหัวทำความเคารพต่อเธอ

เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว!

ถ้างั้นที่นี่ก็ไม่ใช่โลกอนาคตแล้ว

แล้ว ‘ยานอวกาศ’ ‘กองกำลังพิเศษ’ ที่อยู่ตรงหน้านี้คืออะไรกัน?

“เทพศักดิ์สิทธิ์? ที่แท้เธอก็คือเทพศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาพร่ำพูดถึงอยู่ไม่ขาดปากสินะ?”

“ฮ่าๆ ที่แท้เทพศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาก็เป็นสาวน้อยคนหนึ่ง!”

“สาวน้อยคนนี้สวยมาก สาวน้อยเทพศักดิ์สิทธิ์ เธอใส่ชุดนี้แล้วสวยมากเลย แต่ถ้าเธอไม่ใส่เสื้อผ้าเลยจะสวยกว่านะ มาเถอะ ให้พี่ชายลูบหน่อยนะ จะได้กอดเธอ…”

ชายคนหนึ่งที่สวมหูฟังไว้บนหูหัวเราะฮ่าๆ พูดจากักขฬะหยาบโลน ยื่นมือออกมาหมายจะลูบแก้มของกู้ซีจิ่ว

เขายังคงระแวดระวังนัก มือหนึ่งยื่นมาลวนลาม มือหนึ่งกุมปืนไว้แน่น ขึ้นไกแล้วกึ่งหนึ่งแล้ว ปากกระบอกปืนจ่อใส่กู้ซีจิ่ว…

ขอเพียงกู้ซีจิ่วตอบโต้สักนิด เขาก็จะเหนี่ยวไก!

กู้ซีจิ่วไม่ได้ตอบโต้ เธอเพียงไหวกายแวบหนึ่ง เบื้องหน้าชายคนนั้นพลันพร่าเลือน ยังไม่ได้ทันได้เหนี่ยวไกปืน ข้อมือก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที เกิดเสียงดังกร็อบ ข้อมือของเขาหักทันที! แถมปืนในมือของเขาก็ถูกคนฉกไปด้วย!

คนที่เหลือมองด้วยความตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเคยชินกับการสังหารจู่โจมคน รีบเหนี่ยวไกยิงใส่กู้ซีจิ่วทันที!

ปืนกว่าสิบกระบอกยิงลำแสงออกมา แสงเจิดจ้าทรงอานุภาพ ทิศทางทั้งหมดที่ยิงออกไปล้วนพุ่งเข้าหากู้ซีจิ่วที่เพิ่งร่อนลงสู่พื้น

พวกเขาเห็นสาวน้อยผู้บอบบางเพิ่งร่อนลงสู่พื้นชัดๆ กลับคาดไม่ถึงว่าจะหายไปในชั่วพริบตา และวินาทีต่อมา ข้อมือของพวกเขาก็เสมือนถูกดาบฟัน ปืนกว่าสิบกระบอกผลัดผู้ถือครองทันที…

รอจนปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเขากลับมาอีกครั้ง สองมือก็ว่างเปล่าแล้ว…

‘ซืด ซืด! ฉึก! ฉึก!’

เสียงคล้ายยิงปืนระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กองกำลังพิเศษกว่าสิบคนนั้นล้วนร้องโหยหวน

‘กองกำลังพิเศษ’ ทุกคนล้วนถูกปืนของตนยิงทะลุข้อมือและข้อเท้า ทรุดลงไปคุกเข่าอยู่บนพื้น

และตรงข้ามกับพวกเขา กู้ซีจิ่วยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเยือกเย็น โยนปืนกองหนึ่งลงที่แทบเท้า เป็นปืนที่เธอเพิ่งชิงมา ในมือของเธอก็ควงเล่นอยู่กระบอกหนึ่งด้วย

————————————————————————————-

บทที่ 2619 หวนคืน 4

‘กองกำลังพิเศษ’ กว่าสิบคนนี้มองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ มองดูปืนที่หมุนติ้วอยู่ในฝ่ามือเธอ

“เธอใช้ปืนเป็น?!”

“ตอนที่ผู้ทรงสิทธิ์อย่างข้าหัดเล่นปืนพวกเจ้ายังใส่กางเกงเปิดเป้าเล่นโคลนอยู่ที่ไหนไม่รู้ด้วยซ้ำ!”

กู้ซีจิ่วตอบกลับอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด

อำนาจบนกายเธอทรงอานุภาพนัก เอ่ยถามอย่างเย็นชายิ่ง

“ตอนนี้เป็นตาผู้ทรงสิทธิ์อย่างข้าถามพวกเจ้าบ้างแล้ว พวกเจ้ามาจากไหน? เหตุใดจึงมาข่มเหงราษฎรของผู้ทรงสิทธิ์อย่างข้า?!”

กว่าสิบคนนั้นมองหน้ากันเหลอหลา มองเห็นความเหลือเชื่อจากแววตาของอีกฝ่ายได้

พวกเขากระจ่างแจ้งยิ่งนักว่าผู้คนของโลกนี้เป็นวิชาคาถาส่วนหนึ่ง แต่วิชาคาถาเหล่านั้นในสายตาของทหารที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์อันล้ำสมัยอย่างพวกเขาแล้วไม่นับว่าเป็นอันใดเลย…

กลับคาดไม่ถึงว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนของโลกนี้พร่ำเรียกหาอยู่ไม่ขาดปากจะใช้ปืนเป็นด้วย! แถมยังเป็นนักแม่นปืนอีก…

พวกเขาวางอำนาจอยู่ในทวีปนี้จนชินแล้ว ถึงแม้จะบาดเจ็บทว่าไม่ยอมสยบ ยังคิดจะพูดข่มขู่อยู่

กู้ซีจิ่วคร้านจะพูดจาไร้สาระกับพวกเขาแล้ว จึงยกมือยิงทิ้งไปคนหนึ่ง

จากนั้นก็กวาดตามองแวบหนึ่ง

“ข้าผู้ทรงสิทธิ์ถามสิ่งใดพวกเจ้าก็ตอบสิ่งนั้นเสีย มิเช่นนั้นจะเป็นเหมือนสหายของพวกเจ้า”

ให้ตายเถอะ ผู้หญิงคนนี้โหดเกินไปแล้ว!

ในที่สุดสิบกว่าคนนั้นก็หุบปากแล้ว แต่คนหนึ่งในกลุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาค่อยๆ ล้วงมือเข้าไปในรองเท้าของตัวเอง ในนั้นยังมีปืนพกกระบอกหนึ่งซุกซ่อนอยู่…

แต่การล้วงครั้งนี้ของเขากลับคลำไม่พบ จึงคลำดูอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ สองมือยังคงว่างเปล่าอยู่

“เจ้าหาสิ่งนี้อยู่หรือ?”

กู้ซีจิ่วใช้เท้าเตะปืนสีทองกระบอกหนึ่งออกมา เล็กจิ๋วเหมือนลิปสติกแท่งหนึ่ง

นายกองคนนั้นหน้าซีดแล้ว

คนอื่นๆ ก็พากันคลำจุดซ่อนปืนพกของตนแล้วเช่นกัน ไม่มีกรณีพิเศษ ล้วนหายไปหมดแล้ว…

คนเหล่านี้แทบจะล้มตึง!

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนแล้ว!

ฉกปืนไปจากมือของพวกเขาได้ก็แล้วไปเถอะ ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่ปืนพกที่เก็บซ่อนไว้อย่างมิดชิดแบบนั้นก็ยังขโมยไปได้หมดเลย! นี่มันความสามารถผีหลอกอันใดกัน!

“พวกเรามาจากปีศักราชสองพันสามร้อยสี่สิบแปด ได้รับคำสั่งให้มาบุกยึดทวีปนี้”

“สาวน้อย ฉันว่าเธอก็น่าจะมาจากอนาคตเหมือนกันใช่ไหม? ทักษะปืนยอดเยี่ยมมาก ไม่ธรรมดาเลย! ไม่สู้มาเข้าร่วมกับพวกเราดีกว่า! ความสามารถของเธอยอดเยี่ยมขนาดนี้หัวหน้าของพวกเราจะต้องให้ค่าเธอแน่ ทำไมเธอต้องขายชีวิตเพื่อคนชั้นต่ำที่นี่ด้วยล่ะ?”

“สาวน้อย ฉันขอเกลี้ยกล่อมให้เธอปล่อยพวกเราไปดีกว่า ไม่งั้นถ้าไปยั่วโทสะท่านจอมพลของพวกเราเข้า เธอจะต้องได้รับผลกระทบที่ตามมานะ!”

“สาวน้อย ฉันจะบอกเธอให้นะ ประชาชนของทวีปนี้ส่วนใหญ่ล้วนถูกพวกเราพิชิตได้หมดแล้ว ถึงจะยังเหลือพวกหัวแข็งต่อต้านอยู่บ้าง แต่ถึงยังไงพวกเขาอยู่ห่างจากความล่มสลายไปไม่ไกลแล้ว เข้าใจสถานการณ์คือคนฉลาด เธออย่ามีเรื่องกับพวกเราจะดีกว่า!”

กู้ซีจิ่วฟังพวกเขาพูดกันอย่างเจ้าคำข้าคำอยู่เงียบๆ เมื่อปัดคำพูดไร้สาระเหล่านั้นของพวกเขาทิ้งไปแล้ว เธอก็สรุปความได้สามสี่ข้อ

หนึ่ง คนพวกนี้มาจากอนาคตจริงๆ และยกโขยงกันมาเป็นกองทัพเหมือนหนึ่งปีก่อน เรือที่ดูคล้ายยานอวกาศที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ก็คือพาหนะเดินทางชนิดหนึ่งของพวกเขา

สอง ผู้บัญชาการสูงสุดของพวกเขาคือคนที่ถูกเรียกว่าจอมพล เป้าหมายสูงสุดคือสยบพิชิตทวีปซิงเยวี่ย ทำให้ชาวทวีปซิงเยวี่ยกลายเป็นข้าทาสของพวกเขา

สาม พวกเขาเป็นทหารระดับต่ำที่สุด อาวุธก็ย่ำแย่ที่สุด ไม่ได้เข้าร่วมทัพจับศึก แต่ได้รับคำสั่งให้มาจับชาวเงือก เนื่องจากน้ำตาของชาวเงือกคือไข่มุก เนื้อก็เลิศรส ผู้บังคับบัญชาเบื้องสูงของพวกเขาล้วนชอบกิน และน้ำมันชาวเงือกก็เป็นเชื้อเพลิงชั้นดีชนิดหนึ่ง

หนึ่งปีมานี้ ชาวเงือกที่ถูกพวกเขาจับไปฆ่าแกงต่อให้ไม่ถึงหมื่นก็มีอยู่แปดพันแล้ว ชาวเงือกที่อยู่รอบนอกใกล้จะสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว…

สี่ ส่วนผู้คนบนบก บ้างก็ถูกสังหาร บ้างก็ถูกจับกุม คนที่ถูกจับไปจะกลายเป็นทาส ไม่มีอิสระใดๆ บุรุษถูกใช้แรงงานทั้งวันทั้งคืน สตรีต้องกลายเป็นนางบำเรอ ให้ทหารทั้งกองทัพได้เล่นสนุก…