เฉินตงหวาพูดห้าม “เข่อเอ๋อร์ หุบปาก!”
เฉินเข่อเอ๋อรเบ้ปาก เมินหน้าหนี ไม่สนใจเฉินหวาตงเลย
“ที่แท้คุณเฉินผู้ลึกลับที่ดูแลเฉินเข่อเอ๋อร์คนนั้น ก็คือเฉินโม่!” หลังจากที่เฉินเข่อเอ๋อร์พูดแบบนี้ คนบางส่วนถึงได้เข้าใจ
เฉินกั๋วเหลียงไม่ได้สนใจเฉินเข่อเอ๋อร์ หันมาคารวะมู่หรงเค่อ จินโจงรุ่นและคนอื่นๆแล้วกล่าว “ขอบคุณสำหรับความรักของทุกท่าน แต่ว่าตระกูลเฉินรับไม่ไหวจริงๆ เสี่ยวโม่ยังเด็ก หากมีตรงนี้ที่ทำไม่ถูก ขอให้ทุกท่านโปรดอภัย!”
มู่หรงเค่อและคนอื่นก็รีบลุกขึ้น “มิกล้า มิกล้า!”
เฉินกั๋วเหลียงนั้นไม่เข้าใจสถานะของเฉินโม่ที่อยู่ต่อหน้าของพวกมู่หรงเค่อเลย แต่ว่ามู่หรงเค่อและคนอื่นกลับไม่กล้าชะล่าใจเลยแม้แต่นิดเดียว ให้พวกเขาอภัยเฉินไต้ซือ อย่าล้อเล่นเลย พวกเขายังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนาน
คนหนานซูที่มีอำนาจบารมีในท้องถิ่นที่มาสวัสดีปีใหม่ตระกูลเฉิน แต่ละคนต่างตกตะลึง วันนี้ถือว่าได้เปิดโลกทัศน์ของพวกเขาแล้ว
คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนฉลาด โดยรู้ว่าโอกาสในวันนี้มีเพียงครั้งเดียวในรอบพันปี ไม่เช่นนั้นด้วยสถานะของพวกเขาอยากจะเจอพวกมีอิทธิพลอย่างมู่หรงเค่อ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้ได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ในการสร้างมิตรภาพ
อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นไม่มีทางลืมคำพูดเมื่อกี้ของมู่หรงเค่อ ในใจของพวกเขานั้นรู้ดี คุณเฉินถึงจะเป็นคนที่พวกเขาควรจะประจบมากที่สุด
“ผู้นำเฉิน ยินดีด้วยครับ ตระกูลเฉินมีคนหนุ่มที่มีความสามารถเช่นนี้!”
อย่างไรเสียเฉินโม่ก็เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง พวกเขาบางคนยังไม่สามารถถอดหน้าเพื่อไปเคารพเฉินโม่ได้ ทำได้เพียงไปแสดงความเคารพต่อเฉินกั๋วเหลียง
เฉินกั๋วเหลียงจะไม่รู้ความหมายนี้ได้อย่างไร หัวเราะแล้วกล่าว “ทุกท่านเกรงใจไปแล้ว”
ผู้คนก็ได้มาแสดงความยินดีอีกครั้ง และในขณะนี้ ด้านนอกประตูก็ดังขึ้นด้วยเสียงรายงาน “นายกฯจ้าวมาครับ!”
คนในห้องโถงอึ้งไปครู่หนึ่ง
เฉินตงซุ่นขมวดคิ้วถาม “นายกฯจ้าว?”
เฉินตงเยว่นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถาม “นายกฯจ้าวคนไหน?”
เฉินตงหวายิ้มและพูดอย่างตื่นเต้น “ยังจะเป็นนายกฯจ้าวคนไหนได้อีก? ก็ต้องเป็นนายกฯจ้าวที่อยู่เมืองหานอย่างแน่นอน!”
“ห๊า ได้ยินมาว่านายกฯจ้าวคนนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะเข้าตำแหน่งในมณฑลอย่างมาก อีกอย่างปีนี้อายุแค่สามสิบปีเอง เป็นคนตระกูลจ้าวในหลิ่งหนาน อนาคตก้าวไกล!” เฉินฉงซานพูดอย่างถอนหายใจ
“เพียงแต่ว่านายกฯจ้าวคงไม่ใช่มาเพราะเฉินโม่อีกคนมั้ง?” เฉินฉงซานที่ตกใจทันที มองเฉินตงหวาแล้วถาม
เฉินตงหวาวิเคราะห์อย่างใจเย็น “ไม่หรอก นายไม่เห็นคนที่มาหาเฉินโม่เหรอ พวกเขาล้วนมีจุดที่เหมือนกัน?”
เฉินฉงซานและคนอื่นมองเฉินตงหวาอย่างสงสัย ถามอย่างไม่เข้าใจ “จุดที่เหมือนกัน?”
เฉินตงหวาหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉู่เหวินสงกับเถ้าแก่เจี่ยที่กลับไปก่อนหน้านี้ และพวกของมู่หรงเค่อในตอนนี้ พวกเขาไม่มีอำนาจของหน่วยงานรัฐเลย อีกอย่างธุรกิจของพวกเขาจะมากจะน้อยต้องความเกี่ยวข้องกับใต้ดิน ฉันสงสัยว่าสถานะของเฉินโม่……”
เฉินตงหวาพูดถึงตรงนี้ ก็หยุดทันที แต่ความหมายนั้นชัดเจนมาก
เฉินตงเยว่มีสีหน้าที่ประหลาดใจ “ความหมายของนายคือ สถานะของเฉินโม่นั้นผิดกฎหมาย ดังนั้นเขาเลยจงใจปกปิด หากคนพวกนี้ไม่มา เขาต้องปิดมันต่อไป”
เฉินตงหวาพยักหน้า “นายคิดดู ถ้าหากไม่ผิดกฎหมาย แล้วทำไมเขาต้องปิดบังคนในครอบครัวตัวเองด้วย?”
เฉินฉงซานและคนรอบข้างคิดถึงท่าทางของเฉินจิงเย่ ก็พยักหน้าพร้อมกันอย่างไม่มีความสงสัย เฉินตงหวาวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง
การคุยกันของพวกเขานั้นไม่ได้เบาเสียงเลย ดังนั้นมีคนมากมายที่ได้ยินมันแล้ว ทุกคนก็รู้สึกว่าเฉินตงหวาพูดได้มีเหตุผล
เฉินกั๋วเหลียงขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเฉินตงหวาไปแวบหนึ่ง แล้วมองเฉินโม่ไปแวบหนึ่ง แล้วไม่ได้พูดอะไร หันหน้ามองไปทางเฉินตงซุ่น “ตงซุ่น นายออกไปต้อนรับ!”
“ครับ!” เฉินตงซุ่นรีบก้าวเท้าเดินออกไป
เพียงครู่เดียว เฉินตงซุ่นก็ได้พาชายวัยกลางคนที่ดูสง่างามในชุดสูทเข้ามาในห้องโถง
“คุณท่านเฉิน ไม่เจอกันนานเลย คนรุ่นหลังมาสวัสดีปีใหม่ท่าน!” นายกๆจ้าวก้าวเท้ายาวเดินไปตรงหน้าเฉินกั๋วเหลียง คารวะกล่าว
เฉินกั๋วเหลียงหัวเราะพูด “หลานชายเกรงใจไปแล้ว เชิญนั่ง!”