น้ำเสียงของซูหย่ามีความขอร้องวิงวอนอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ยังไงนางก็ต้องตายอย่างแน่นอน ถ้าทิ้งนางไว้ เยี่ยนปู้กุยก็อาจจะมีโอกาสรอด แต่ถ้ายังอยู่ เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
ซูหย่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของนางในตอนนี้ไม่สามารถทนการต่อสู้ใดๆได้เลย นางไม่มีแรงจะหนีด้วยซ้ำ กับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ นางก็เป็นได้แค่ภาระ นางไม่มีโอกาสรอดแล้ว เยี่ยนปู้กุยควรทิ้งนางซะ
เยี่ยนปู้กุยกัดฟัน ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้เขาเกือบหมดสติไปหลายครั้ง แต่คนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาทำให้เขารักษาสติของตนไว้ได้ เลือดไหลออกจากปากเขาเป็นจำนวนมาก เลือดสดๆที่ไหลลงมาตามคางหยดลงบนร่างของซูหย่าจนเปียกชุ่ม เป็นเลือดที่ร้อนเหลือเกิน ทั้งร้อนและสิ้นหวัง
“ข้าไม่มีวันปล่อยมือจากเจ้า ไม่มีวัน……” เยี่ยนปู้กุยเค้นคำพูดออกมาด้วยเสียงขาดๆหายๆ เขารู้ว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองพวกนี้ ทำได้เพียงใช้กำลังของตนเองปกป้องหญิงที่รักเอาไว้ เขาอาจจะแข็งแกร่งไม่พอ แต่เขาไม่อยากเป็นคนขี้ขลาดตาขาวอีกแล้ว
ต่อให้ต้องตาย เขาก็ไม่มีวันปล่อยมือจากนาง!
“ขอโทษ……ขอโทษ……ที่ให้เจ้าต้องรอมาหลายปี คับแค้นใจมาหลายปี……ข้าอยาก……ชดเชยให้เจ้า……แต่ข้าอ่อนแอเกินไป ไร้ความสามารถ……ข้าขอโทษ……หย่าเอ๋อร์……ข้าขอโทษ……” ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่อง เยี่ยนปู้กุยสั่นไปทั้งตัวด้วยความเจ็บปวดรุนแรงจนแทบขาดใจ แต่สองมือของเขายังคงกอดร่างของซูหย่าเอาไว้แน่น เขาพยายามระงับอาการสั่นของร่างกายอย่างสุดกำลัง เพราะไม่อยากให้ซูหย่าเห็นความเจ็บปวดของเขา แต่มันเจ็บปวดมากเกินไป……เจ็บมากจนริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่ไม่ว่าเขาจะกัดฟันแน่นแค่ไหน ก็ไม่สามารถหยุดอาการสั่นได้เลย
เยี่ยนปู้กุยรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ากระดูกสันหลังของเขาหัก เขาทนได้อีกไม่นานแล้ว……
เขาอาจจะเป็นขยะไร้ความสามารถ แต่เขาไม่ยอมเป็นคนขี้ขลาดตาขาวเด็ดขาด!
ต่อให้มีโอกาสเพียงหนึ่งในหมื่นก็ยังดี เขาจะใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อแลกกับโอกาสที่นางจะมีชีวิตอยู่ต่อไป แม้มันจะเป็นเพียงความหวังเล็กๆ แต่เขาก็เต็มใจ!
จวินอู๋เสียเห็นโศกนาฎกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ความเร็วของผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตามทัน พวกเขาทำการสังหารหมู่ต่อไปอย่างไร้ความปราณี
อย่างที่ลั่วชิงเฉิงได้พูดเอาไว้ นอกจากจวินอู๋เหยา คนที่เหลือพวกเขาจะฆ่าให้หมด!
การเคลื่อนไหวของผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองรวดเร็วเกินไป ขณะที่จวินอู๋เสียและคนอื่นๆล้วนบาดเจ็บกันหมด การพักฟื้นแค่ไม่กี่วันย่อมไม่เพียงพอ…… novel-lucky
“เสี่ยวอู๋เสีย พอได้โอกาสเจ้าต้องหนีไปทันที! วันนี้เจ้าต้องหนี เจ้าไม่สามารถโจมตีพวกเขาได้ เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา!” เหรินหวงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับจวินอู๋เหยา เขาโจมตีพวกคนชุดดำที่รุมล้อมเข้ามาให้ถอยกลับไปคนแล้วคนเล่า แต่จำนวนของคนชุดดำกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานเขาก็ตกอยู่ในสภาพจนมุม
สิ่งที่เหรินหวงมองเห็นมีแค่พวกคนชุดดำเท่านั้น เขามองไม่เห็นสถานการณ์นอกวงล้อมเลย
แต่ถึงจะมองไม่เห็น เหรินหวงก็รู้แก่ใจดีตั้งแต่ตอนที่ลั่วชิงเฉิงออกคำสั่งแล้วว่าคนพวกนี้จะไม่ยั้งมืออย่างแน่นอน
จวินอู๋เสียยังคงนิ่งเงียบ นางใช้หน้ากากภูติไม้เพื่อต่อสู้กับผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองพวกนั้น นางยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ จึงไม่สามารถรับมือกับคนพวกนั้นตรงๆได้ ทำได้เพียงพึ่งพาหน้ากากภูติไม้เพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีที่รุนแรงและอันตรายถึงตาย
นางกวาดตามองไปทั่วสนามรบ และนางมองไม่เห็นร่างของจวินอู๋เหยาแล้ว สิ่งเดียวที่นางเห็นคือวงล้อมที่แน่นหนา