บทที่ 2040 – นิกายทองแดงวนาลี การประลองแรก ชายชราจากตระกูลอวี้

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 2040 – นิกายทองแดงวนาลี การประลองแรก ชายชราจากตระกูลอวี้
  ชิงสุ่ยไม่ถามว่าใครเป็นคนวงการ มันคงไม่มีใครอื่นแล้วนอกจากตระกูลหลิว ตั้งแต่นั้นมาทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบ ชิงสุ่ยออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะอีกทีนึงก็ตอนเช้า
  ในวันนี้ ภัตตาคารยังคงเปิดให้บริการโดยปกติ แล้วยังคงอยู่ในช่วง 3 วันที่ให้ลูกค้าทดลองชิมฟรี
  ส่วนเรื่องราคาอาหารแต่ละจานก็ถูกตั้งไว้ค่อนข้างสูง แต่เดิม จุดประสงค์หลักของภัตตาคารที่เธอสร้างขึ้นเพื่อดึงเงินมาจากคนรวย
  ในวันนี้ไม่เพียงแต่อวี้ติงเหอเท่านั้น ผู้คนมากมายจากตระกูลอวี้ รวมถึงอวี้ติงซานก็ได้มาเยี่ยมชมภัตตาคาร สิ่งต่างๆรอบตัวกำลังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในอดีตคนในตระกูลอวี้เคยดูถูกอวี้ติงเหอ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเปลี่ยน
บทที่ 2040 – นิกายทองแดงวนาลี การประลองแรก ชายชราจากตระกูลอวี้
  ชิงสุ่ยไม่ถามว่าใครเป็นคนวงการ มันคงไม่มีใครอื่นแล้วนอกจากตระกูลหลิว ตั้งแต่นั้นมาทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบ ชิงสุ่ยออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะอีกทีนึงก็ตอนเช้า
  ในวันนี้ ภัตตาคารยังคงเปิดให้บริการโดยปกติ แล้วยังคงอยู่ในช่วง 3 วันที่ให้ลูกค้าทดลองชิมฟรี
  ส่วนเรื่องราคาอาหารแต่ละจานก็ถูกตั้งไว้ค่อนข้างสูง แต่เดิม จุดประสงค์หลักของภัตตาคารที่เธอสร้างขึ้นเพื่อดึงเงินมาจากคนรวย
  ในวันนี้ไม่เพียงแต่อวี้ติงเหอเท่านั้น ผู้คนมากมายจากตระกูลอวี้ รวมถึงอวี้ติงซานก็ได้มาเยี่ยมชมภัตตาคาร สิ่งต่างๆรอบตัวกำลังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในอดีตคนในตระกูลอวี้เคยดูถูกอวี้ติงเหอ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป มันเป็นเพราะอวี้ซีหยวนหรืออีกนัยหนึ่งก็เพราะความช่วยเหลือจากชิงสุ่ย
  ถ้าหากว่าจะพูดว่าทุกคนในตระกูลอวี้มีสัมพันธ์ที่ดีกับชิงสุ่ย มันก็คงจะโกหกเกินไป มีคนอีกมากมายเกลียดชิงสุ่ย หากชิงสุ่ยไม่ปรากฏตัว อวี้ซีหยวนก็จะลงเอยด้วยการแต่งงานกับตระกูลหลิว เหตุการณ์ร้ายๆก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ทว่าทุกอย่างสายเกินไปแล้ว พวกเขาจึงทำได้เพียงแค่อธิษฐานหวังให้ชิงสุ่ย ชนะกำจัดตระกูลหลิว
  หากเอาชนะตระกูลหลิวได้ ไม่เพียงแต่เหตุการณ์ทั้งหมดจะจบลง สถานะของพวกเขาก็จะพุ่งสูงขึ้นไปแทนที่ตระกูลหลิว
  ความเสี่ยงอาจจะสูงแต่ผลตอบแทนก็สูงไม่แพ้กัน
  ในตอนเที่ยง คนของตระกูลหลิวมาเพื่อยื่นจดหมายท้าประลอง และลงชื่อทำสัญญา หากใครละเมิดสัญญา จะต้องรับผิดชอบบทลงโทษอันแสนทุกข์ทรมานร่วมกันทั้งตระกูล
  ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาที่ชิงสุ่ยจะลงนามในสัญญาโดยไม่ลังเล วันพรุ่งนี้เช้าถูกกำหนดให้เป็นวันฉลอง การต่อสู้ที่เกิดขึ้นบนสังเวียนใหญ่บริเวณถนนเมฆามรกต
  ……………..
  ชิงสุ่ยต้องมองท้องฟ้าสีคราม บางครั้งฝูงนกบินผ่านตา ต้นไม้ใบหญ้าพริ้วไหวไปตามสายลม เวลาล่วงเลยไปตามเสียงร้องของนก นี่คือโลกอันแสนสวยงาม ความมหัศจรรย์ของชีวิต
  วันพรุ่งนี้ก็มาถึง
  ชิงสุ่ย อวี้ซีหยวนและคนตระกูลอวี้ต่างทยอยกันไปที่ถนนเมฆาคราม
  ชายชราตระกูลอวี้สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ไม่มีความกังวลในการประลองที่กำลังจะเกิดขึ้นแม้แต่น้อย ชิงสุ่ยได้แต่ตกใจ ดูเหมือนชายชราคนนี้จะมั่นใจในตัวเองมาก
  สนามประลองขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นใกล้กับบริเวณจัตุรัสกลางของถนนเมฆาคราม ทั้งตระกูลอวี้และตระกูลหลิวต่างก็ทยอยเข้าสู่บริเวณรอบข้าง ขุมกำลังใหญ่มากมายเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ภายในเวลาเพียงแค่วันเดียว ผู้คนเกือบทั้งเมืองรู้ข่าวเกี่ยวกับตระกูลหลิวที่ตั้งใจจะไปลองกับเด็กหนุ่มปริศนา พวกเขายังพบอีกว่าชายหนุ่มคนนี้ได้เข้าช่วยเหลือตระกูลอวี้ และเป็นผู้ลงมือสังหารนายน้อยที่สามแห่งตระกูลหลิว
  พื้นที่ข้างลานประลอง ถูกสงวนสิทธิ์ให้กับกลุ่มตระกูลอวี้และตระกูลหลิว ยังมีเวลาเหลือเล็กน้อยก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มต้น
  สักขีพยานสำคัญที่สุดในการต่อรองครั้งนี้ก็คือนิกายทองแดงวนาลี นิกายทองแดงวนาลีคือนิกายที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองรุ้งคราม มีเพียงกลุ่มคนจากนิกายทองแดงวนาลีที่ได้รับการฝึกฝนจนมีร่างกายคล้ายมนุษย์โบราณ พวกเขามีความคล้ายคลึงกับพระสงฆ์จากโลกไปก่อน ทั้งยังปฏิเสธไม่เข้าร่วมกับการต่อสู้ในๆ ดังนั้นทุกคนในเมืองรุ้งครามจึงให้เกียรตินิกายทองแดงวนาลีมาก
  ชายชราในชุดสีเขียวยืนอยู่ใจกลางลานประลอง เขามีรูปร่างที่สูงใหญ่ใบหน้าบึ้งตึง ดวงตาดูจริงใจ ถึงแม้ว่าจะมีภาพลักษณ์เหมือนคนชรา แต่ใบหน้าก็ไม่ได้ดูแก่ ชายคนนั้นกล่าวกับผู้คนรอบข้างว่า “นี่คือการต่อสู้ระหว่างตระกูลหลิวและคุณชายชิง ข้าน้อยยินดีเข้าร่วมเพื่อเป็นสักขีพยาน ตัวข้าไม่ได้ข้องเกี่ยวกับตระกูลอวี้ ดังนั้น ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่าย”
  “ผู้อาวุโสอวี้ อยากจะกล่าวอะไรบ้างหรือไม่?”ชายชราชำเลืองมองชายชราอีกคนที่อยู่ไม่ไกล
  “ไม่จำเป็น ผู้อาวุโสเถี่ย มั่นใจได้เลยว่าตระกูลอวี้ของข้าจะไม่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่รอบข้างเล่นสกปรก”
  ชายชราเถี่ยยิ้มและเรียกให้ชิงสุ่ยกับ ชายชราตระกูลหลิวขึ้นไปบนเวทีประลอง
  ชายชราจากตระกูลหลิวจ้องมองชิงสุ่ย “การประลอง 3 ครั้ง ผู้ชนะจะต้องชนะ 2 ใน 3 ตัวแทนประลองจะไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”   “ไม่มีปัญหา แล้วใครจะขึ้นไปบนเวทีประลองก่อน”ชิงสุ่ยยิ้ม
  “การขึ้นไปบนเวทีประลองจะสลับกัน ถ้าหากตระกูลหลิวขึ้นก่อน การต่อสู้ครั้งต่อไปก็จะเป็นฝ่ายของเจ้า ส่วนวิธีตัดสินก็ตัดสินกันด้วยการจับฉลาก “
  ชิงสุ่ยพยักหน้า “ผู้ที่อยู่บนเวทีประลองจะต้องรักษาชีวิตของตัวเอง การต่อสู้สามารถใช้ทุกอย่างก็ได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นยาพิษ สัตว์อสูร หรืออาวุธลับ”
  ชายชราคิดชั่วครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ตกลง เช่นนั้นเรามาวาดฉลากกัน”
  ขั้นตอนการจับฉลากง่ายมาก ในฉลากเขียนอยู่เพียงแค่ 2 คำ คือคำว่าก่อนและหลัง น่าเสียดายที่ชิงสุ่ยจับฉลากได้คำว่า”ก่อน”
  ชายชราจากตระกูลอวี้กล่าวทันทีว่า “รอบแรกให้เป็นหน้าที่ของข้า”
  “ท่านปู่ ข้าคิดว่าคนแรกให้เป็นหน้าที่ของข้าดีกว่า”อวี้ซีหยวนกล่าวแทรก  “ข้าขอเป็นคนแรก ข้ากลัวว่าข้าจะไม่มีโอกาสได้สูงอีกแล้ว ปู่ของเจ้าคนนี้อายุมากเกินจะสู้ ขอให้ปู่ได้สู้เป็นครั้งสุดท้าย”ชายชราไปปรากฏตัวอยู่บนเวทีประลองทันที
  ………………
  “ดูนั้นสิ นั่นมันชายชราจากตระกูลอวี้”
  “ใช่แล้วล่ะ ในอดีตเขาเคยมีชื่อเสียงโด่งดังมาก แต่ช่างน่าเสียดายที่เขาต้องอายุสั้นเพราะความเจ็บปวด หลังจากนั้นอิทธิพลของตระกูลอวี้ก็เริ่มถดถอยลง ดูเหมือนพวกเขาจะหาผู้สืบทอดที่มีคุณสมบัติเหมาะสมไม่ได้เลย”
  “พี่สาม ท่านคิดว่าตระกูลหลิวจะส่งใครขึ้นไป?”ชายชราคนหนึ่งถามชายชราอีกคนที่อยู่ข้างๆ
  ชายชราที่เป็นคนพูดสวยชุดคลุมสีม่วงทอง เขามีรูปร่างที่ค่อนข้างเพียวบางในขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยเพลงอายที่ดูสูงส่ง
  “อาจจะเป็นผู้อาวุโสห้า? เขามีพลังมากพอจะเอาชนะชายชราตระกูลอวี้ได้ น้องหกเจ้าคิดว่าวันนี้ผู้ชนะจะเป็นตระกูลหลิวหรือตระกูลอวี้?”
  “จากที่ดู ข้าคิดว่าน่าจะเป็นตระกูลหลิว”ชายชราอีกคนหนึ่งกล่าว
  ชายที่ถูกเรียกว่าพี่สามเป็นเพียงแค่ชายชราสวมชุดธรรมดา แต่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสง่างาม พร้อมจะทำให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกถึงความรัก
  “ก่อนหน้านี้ ตระกูลหลิวบอกกันว่าชายหนุ่มคนนี้พยายามจะวาดเสือให้วัวกลัว เขาไม่มีแม้แต่ขุมกำลังคอยปกป้อง แต่จากสิ่งที่เห็น มันไม่สำคัญอีกแล้วว่าเขาจะมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งคอยช่วยเหลือหรือไม่ สิ่งที่ข้าเห็นคือความกล้าหาญที่เขามี ตระกูลหลิวเป็นตระกูลที่มีอำนาจมาก แต่ดูเหมือนพวกเขาจะละเลยส่วนหนึ่งไป “
  “ละเลยอะไรกัน?”
  “ละเลยความสามารถของชายหนุ่มคนนี้ไง ตระกูลหลิวคงไม่รู้นะว่าชายหนุ่มผู้นี้เพียงแค่คนเดียวก็สามารถกำจัดตระกูลหลิวให้หายไปทั้งหมดได้”ชายชราผู้มีความสง่างามกล่าวอย่างเชื่องช้า
  “พี่สาม มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย พวกเราเองก็รู้ถึงพลังของตระกูลหลิว ท่านคิดว่าชายหนุ่มเพียงคนเดียวจะกวาดล้างตระกูลใหญ่ได้จริงๆหรือ?”ชายชราอีกคนกล่าวด้วยน้ำเสียงแปลกๆ
  “ข้าเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของข้า คอยดูไปเถอะ แล้วทุกอย่างจะกระจ่างแจ้งเอง”ชายชราที่มีความสง่างามกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น