บทที่ 2041 – การต่อสู้รอบแรกพ่ายแพ้ การต่อสู้รอบที่สองเริ่มต้น

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 2041 – การต่อสู้รอบแรกพ่ายแพ้ การต่อสู้รอบที่สองเริ่มต้น
  หลังจากชายชราตระกูลอวี้ขึ้นไปบนเวทีประลองไม่นาน ชายชราอีกคนก็มาปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของเขา โดยที่ชายชราคนนี้มีร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเลยนะ และดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าชายชราตระกูลอวี้
  “ผู้อาวุโสห้าจริงๆด้วย”ชายชราที่ถูกเรียกว่าพี่สามยิ้มขณะกล่าว
  “ท่านคิดว่าผู้อาวุโสห้าจะฆ่าชายชราจากตระกูลอวี้ได้หรือไม่?”ชายชราที่ถูกเรียกว่าน้องหกในชุดคลุมม่วงทองจ้องมองขึ้นไปบนเวที
  “ผู้อาวุโสอวี้ พวกเราต่อสู้กันเองมานานเหลือเกิน แต่ไม่มีสักครั้งเลยที่ท่านเอาชนะข้าได้ และครั้งนี้ก็คงไม่ต่างจากครั้งอดีต ท่านจะยอมแพ้หรือไม่?”ผู้อาวุโสห้าแห่งตระกูลหลิวหัวเราะลั่น
  “แม้ว่าในอดีตข้าอาจจะเคยพ่ายแพ้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าครั้งนี้ข้าจะต้องพ่ายแพ้ท่านอีก ซึ่งตอนนี้ข้าก็รู้ว่าข้าเอาชนะท่านได้อย่างแน่นอน”ชายชราจากตระกูลอวี้หยิบกระบี่ยาวออกมาหลังจากกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
  “เอาล่ะ ในเมื่อพวกเราต่างฝ่ายก็อายุมากแล้ว เรามาทำให้การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ พวกเราจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ควรค่าแก่การยืนอยู่บนเวทีประลอง ซึ่งข้ามั่นใจมากว่าตระกูลอวี้ของท่านมันจะต้องสิ้นชื่อ”ผู้อาวุโสห้าแห่งตระกูลหลิวกล่าว
  “บางทีอนาคตของตระกูลหลิวอาจจะไม่ได้อยู่เหนือกว่าตระกูลอวี้ของข้า”ชายชราจากตระกูลอวี้กล่าวอย่างมั่นใจ
  “เราไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ มาสู้กันเถอะ”
  ผู้อาวุโสห้าจากตระกูลหลิวหยิบดาบคมเดียวออกมา จากนั้นก็พยักหน้าบอกสัญญาณเริ่มการต่อสู้กับผู้อาวุโสอวี้
  ชิงสุ่ยรู้แล้วว่าการต่อสู้กำลังจะเกิดขึ้นเขายังสังเกตเห็นลักษณะบนเวทีประลองที่มีความเฉพาะตัว หินที่อยู่บนฐานสร้างขึ้นจากโลหะประหลาด มันปลดปล่อยพลังงานที่ไม่จำกัดออกมา เขาเองก็เคยเห็นหินพวกนี้มาก่อน แต่น่าเสียดายที่มันไม่อาจเอามาสร้างเป็นศาสตราวุธและชุดเกราะได้ การใช้งานของมันมีขีดจำกัด จึงถูกนำมาสร้างเป็นตัวอาคารเท่านั้น
  แต่ตัวอาคารที่สร้างขึ้นจากมัน จะแข็งแกร่งทนทานต้านทานการโจมตี และมีความสามารถพิเศษในการดูดซับแรงสั่นสะเทือน
  ทั้งสองฝ่ายพุ่งเข้าโจมตีกันด้วยความเร็วที่สูงมาก ชิงสุ่ยตระหนักว่าทั้งคู่กำลังตัดสินกันด้วยความเร็ว และกระบี่ของผู้อาวุโสอวี้ก็คมกริบ และว่องไว
  ดาบของผู้อาวุโสห้าตระกูลหลิวมีขนาดค่อนข้างสั้นและเบา ด้วยทางทฤษฎีแล้วมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเน้นความเร็ว ฉะนั้นทั้งสองฝ่ายจึงแลกเปลี่ยนกระบวนท่านับสิบได้ภายในการปะทะเพียงแค่ครั้งแรก เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วพื้นที่ลานประลอง
  แม้ว่าผู้อาวุโสอวี้จะแข็งแกร่ง แต่ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสห้าแห่งตระกูลหลิว ก็มากกว่าเขาอยู่เล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายต้องใช้เวลาการต่อสู้พอสมควรเพื่อจะตัดสินผู้ชนะ และยิ่งการต่อสู้ยาวนานปริมาณพลังงานที่ถูกดูดกลืนก็ยิ่งทวีคูณ นั่นก็หมายความว่าผู้ใดที่สามารถรักษาพลังให้เหลือมากกว่า 60 ส่วน จะเป็นผู้กำชัยชนะเหนืออีกฝ่าย
  และจากสถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสอวี้กำลังเสียเปรียบ เขาจะต้องพ่ายแพ้ในการประลองครั้งนี้อย่างแน่นอนถ้าหากไม่มีเหตุการณ์เหนือคาด อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยเองก็ไม่สามารถพยากรณ์สิ่งที่เกิดขึ้นได้ ท้ายที่สุดแล้ว ความต่างพลังของทั้งสองเองก็ห่างกันเพียงเล็กน้อย เวลาอาจจะพลิกกระแสการต่อสู้
  กระบี่ยาวของชายชราอวี้สร้างแรงสั่นสะเทือน กลายเป็นคลื่นปราณกระบี่สีม่วงจำนวนมากมายพุ่งตรงเข้าหาชายชราตระกูลหลิว
  ผสานปราณกระบี่!!
  ใบหน้าของผู้อาวุโสหลิวยังคงนิ่งเฉย เขาเหวี่ยงดาบในมือ3 ครั้งกะทันหัน สร้างคลื่นดาบด้วยความเร็วที่สูงกว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นก่อนหน้า คลื่นกระบี่และคลื่นดาบเข้าปะทะกันกลางอากาศ ราวก็เป็นหนึ่งเดียว
  ครึ้นนนน!!
  พลังปราณกระบี่และดาบหลอมรวมกันก่อนปราณดาบจะทลายค่ายปราณกระบี่ของผู้อาวุโสอวี้
  เมื่อค่ายกระบี่ถูกทำลาย ผู้อาวุโสอวี้จึงถูกปราณดาบของศัตรูเข้าโจมตี แม้เขาจะพยายามขัดขวางด้วยกระบี่ยาว แต่เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บโดยเฉพาะอวัยวะภายใน
  ผู้อาวุโสอวี้พ่ายแพ้ ถึงเขาจะไม่ตาย แต่ก็ได้รับบาดเจ็บ
  คนของตระกูลอวี้รู้สึกกระวนกระวายใจพวกเขาพ่ายแพ้ตั้งแต่การประลองครั้งแรก
  “เหอเอ๋อ คุณชายชิง สุดท้ายข้าก็ยังพ่ายแพ้อยู่ดี…..”ชายชราตระกูลอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงหดหู่
  ชิงสุ่ยส่ายหน้าและกล่าวอย่างใจเย็น “ไม่เป็นไร เดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง ให้ข้ารักษาบาดแผลของท่านก่อนเถอะ “
  แม้ว่าการต่อสู้จะดูสั้น แต่จริงๆนะมันผ่านไปถึง 1 ชั่วยาม ส่วนใหญ่ผู้ชนะจะถูกตัดสินกันตั้งแต่ 1 ก้านธูปแรก และการประลองครั้งต่อไปจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วยาม
  ตระกูลหลิวที่ชนะการปรองหัวเราะอย่างมีความสุข อย่างไรก็ตามหลิวหวูหยิงกลับไม่รู้สึกถึงความสุข ถ้าเป็นในอดีตเขาคงไม่จริงจังขนาดนี้ แต่ตอนนี้ในใจของเขามีแต่ความกังวล เขากลัวว่าชิงสุ่ยจะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
  เขาเดินขึ้นไปบนเวทีประลอง ตระกูลหลิวเพิ่งจะชนะการประมูลในครั้งแรก เขาก็ได้แต่สงสัยว่าการต่อสู้ครั้งต่อไปใครจะเป็นคู่ประลองของเขา สิ่งที่ตระกูลหลิวต้องทำคือชนะการประลองอีกครั้งให้ได้
  หลิวหวูหยิงรอคอยที่จะได้ต่อสู้กับชายหนุ่มผู้เป็นปริศนา
  “ซีหยวน จำคำพูดของข้าได้หรือไม่ อย่าไปต่อสู้กับเขาโดยตรง เพียงแค่อยู่บนหลังแมงมุมมังกรเท่านั้นอย่าได้ลงมาเด็ดขาด”ชิงสุ่ยกล่าวเตือนอวี้ซีหยวนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
  อวี้ซีหยวนพยักหน้าและนั่งลงบนหลังแมงมุมมังกรก่อนที่จะทะยานขึ้นบนท้องฟ้า
  “เจ้าเด็กน้อย หน้าตาของเจ้าช่างสระสวยจริงๆ”หลิวหวูหยิงกล่าวขณะจ้องมองอวี้ซีหยวน
  ” แต่ช่างน่าเสียดายที่เต้าไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ”
  อวี้ซีหยวนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ชายคนนี้เป็นถึงผู้นำตระกูลหลิว และด้วยวัยชรา ความต้องการทางเพศของเขาก็ควรจะหายไปตามกาลเวลาเช่นกัน ใครจะไปคิดว่าเขาจะกล้าพูดจาแทะโลมแบบนี้ออกมา
  เขาสังเกตเจ้าแมงมุมมังกรที่อยู่ใต้เท้าอวี้ซีหยวน ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดใหญ่น่าเกรงขามแต่ก็ไม่สามารถกดดันผู้นำตระกูลอวี้ได้มากนัก อสูรสายฟ้าตัวสีม่วงอีกตัวนึง มันดึงความสนใจจากเขาได้มากกว่า เขาจึงวางแผนจัดการอสูรตัวนี้ทันทีตั้งแต่เริ่ม
  “เจ้าหนูน้อย เชิญ”
  หลิวหวูหยิงไม่ใช่คนโง่ เขาจึงหยิบอาวุธของตัวเองออกมาด้วยความไม่ประมาท ดาบอสูรปราบมังกรโลหิต มีลักษณะเป็นดาบยาวใบมีดสีขาวสะท้อนให้เห็นลวดลายเลือดมังกร
  หลังจากนั้น เขาก็รีบเรียกอสูรของตน อสูรคชสารเพลิงพิโรธ เพื่อทำหน้าที่คอยป้องกันภัยคุกคาม แม้ร่างกายของมันจะเป็นช้างแต่ความเร็วของมันก็น่าทึ่ง
  อวี้ซีหยวนเองก็เรียกอสูรหมีทลายเหมันต์ออกมาช่วย
  ทันทีที่อสูรหมีทลายเหมันต์ ปรากฏกายสีหน้าของหลิวหวูหยิงก็เปลี่ยนไป แน่นอนว่าเขาเองย่อมต้องรู้จักอสูรปราณจิตตัวนี้ การจะเอาชนะอสูรหมีทลายเหมันต์ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเขา
  แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ อสูรหมีทลายเหมันต์ได้รับการเสริมพลังโดยชิงสุ่ย ถ้าหากเป็นแต่ก่อนมันคงมีพลังแค่ครึ่งเดียวของปัจจุบัน
  ��