กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1224

หลังจากพูดจบ จัสมินก็หันหน้ามามองชาร์ลีอย่างจริงจัง น้ำตาไหลอาบแก้มในขณะที่พูดอย่างมีอารมณ์ว่า “ปรมาจารย์เวดคะ ถ้าคุณยอมรับฉันเป็นคนรักได้ ฉันจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับคุณ ไม่ว่าจะเป็นตัวฉันหรือตระกูลมัวร์ ฉันมอบให้หมดเลย แล้วจากนั้นตระกูลมัวร์ก็จะกลายเป็นตระกูลเวด แล้วคุณก็เป็นหัวหน้าครอบครัวเพียงคนเดียว ในชีวิตนี้ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ขอแค่เป็นคนรักของคุณ และอยู่เคียงข้างคุณไปตลอดชีวิต ถ้าคุณชอบท่องเที่ยว ฉันจะทิ้งตระกูลมัวร์ทั้งหมด แล้วติดตามคุณไปทุกที่ที่คุณอยากไป ถ้าคุณชอบเด็ก ๆ ฉันจะอุ้มท้องให้คุณ และให้กำเนิดลูกหลาย ๆ คนเท่าที่คุณต้องการ ตราบใดที่คุณมีความสุข ฉันยินดีทำให้ทุกอย่าง…”

ชาร์ลีรู้สึกประทับใจกับคำพูดของเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ไม่ว่าใครจะมองอย่างไร จัสมินก็เป็นหนึ่งในล้านของผู้หญิงที่มีความงามอันหาได้ยากยิ่ง

ไม่เพียงแต่รูปร่างหน้าตาที่ดูโดดเด่นเท่านั้น แต่บุคลิกของเธอก็ดูน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่งด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังได้รับการเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก ๆ แบบชนชั้นสูงที่มีความพิเศษและเป็นมืออาชีพมาก แถมยังมีความสามารถที่น่าทึ่งด้วย

เธอคือแบบอย่างที่ดีเลิศของความดีงามในแวดวงสังคม

แม้แต่ตระกูลใหญ่ ๆ ในอีสต์คลิฟฟ์ก็ไม่อาจปลูกฝังให้เป็นผู้หญิงแสนยอดเยี่ยมที่มีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างนั้นได้

ดังนั้นจึงนับเป็นความโชคดีอย่างมาก ที่ผู้หญิงที่มีความเพียบพร้อมอย่างนั้นได้มาตกหลุมรักเขา

น่าเสียดายที่เขาเป็นชายที่แต่งงานแล้ว และยังความรู้สึกที่ดีมาก ๆ กับแคร์อยู่ แล้วเขาจะทิ้งเธอไปแบบนั้นได้อย่างไรกัน

แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถทนเห็นจัสมันร้องไห้คร่ำครวญแบบนี้ได้

เขาไม่ต้องการทำร้ายจิตใจแคลร์ ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากเห็นจัสมินต้องเจ็บปวดใจ

ในขณะนี้เขากำลังอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

จัสมินจ้องเขม็งไปที่เขาด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักและกำลังรอคำตอบ

ชาร์ลีเงียบไปประมาณสองถึงสามนาที ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดว่า “จัสมิน ผมรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับผม ผมรู้สึกขอบคุณจริง ๆ แต่ต้องขอโทษด้วย ผมทิ้งแคลร์ไม่ได้ กรุณายกโทษให้ผมด้วย”

น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลไปเมื่อครู่นี้เริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตาของจัสมินอีกครั้ง ทำให้ใบหน้าที่เรียบเนียนของเธอต้องเปียกโชกไปด้วยน้ำตา

จัสมินจ้องมองชาร์ลีด้วยดวงตาที่แดงก่ำและเต็มไปด้วยน้ำตา แล้วพูดด้วยความรู้สึกเสน่หาว่า “ได้ค่ะ ปรมาจารย์เวด ฉันเข้าใจในความอับจนหนทางของคุณ ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่จะยอมรับฉันในตอนนี้ แต่ฉันยินดีที่จะรอคุณไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม”

ชาร์ลีถอนหายใจแล้วพึมพำขึ้นว่า “ทำไมครับ? ทำไมต้องเสียเวลารอผมด้วย? ผมไม่ได้มีคุณค่าพอให้คุณรอหรอกครับ ยังมีผู้ชายดี ๆ อีกมากมายที่ดีกว่าผม คุณอย่าเสียเวลากับผมเลย อย่าล้อเล่นกับความสุขของตัวคุณเอง หรืออย่าทำอะไรด้วยอารมณ์ชั่ววูบจะดีกว่าครับ”

“ไม่ค่ะ!” จัสมินโพล่งออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว “ฉันไม่ได้ทำอะไรด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แล้วยังไม่คิดว่ามีใครที่ดีกว่าคุณด้วย! ฉันเป็นคนดื้อรั้นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว เวลาที่ฉันชอบอะไรหรือชอบใคร ฉันก็จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ”

จากนั้นเธอก็ยกข้อมือขึ้น เผยให้เห็นสร้อยข้อมือโบราณที่แม่ของเธอทิ้งไว้ให้ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ก็เหมือนกับสร้อยข้อมือเส้นนี้ ฉันมีสร้อยข้อมือเส้นอื่น ๆ อยู่ที่บ้านที่ดูดีกว่า หรูหรากว่า และราคาแพงกว่านี้ แต่ฉันไม่ได้ชอบสร้อยข้อมือพวกนั้นเลย ฉันชอบแต่เส้นนี้ และจะรักตลอดไป ความรักของฉันจะไม่มีวันจืดจาง ฉันจะไม่มีเปลี่ยนใจจากสร้อยเส้นนี้!”

ชาร์ลีก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเช่นกัน “จัสมิน วันนี้คุณอายุยี่สิบหกปี นี่คือช่วงอายุที่ดีที่สุดที่จะแต่งงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนอย่างคุณที่มาจากตระกูลที่มีหน้ามีตา คุณควรหาผู้ชายที่ดีเป็นสามีในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า กรุณาอย่าเสียเวลากับผมเลย ผมไม่มีค่าพอ แถมยังเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้วด้วย”

จัสมินโพล่งออกมาว่า “ฉันเต็มใจที่จะรอค่ะ!”

ชาร์ลีถอนหายใจ “คุณกำลังรออะไรอยู่เหรอครับ? รอให้ผมหย่าร้างกับภรรยาเหรอ? แล้วถ้าผมไม่ได้หย่าในอนาคตข้างหน้าล่ะ?”

จัสมินยังคงพูดด้วยน้ำเสียงดื้อรั้นเหมือนเดิม “ฉันเต็มใจที่จะรอค่ะ!”

ชาร์ลีถอนหายใจอีกครั้งด้วยความท้อใจ “เอาเป็นว่าถ้าผมหย่าแล้ว และคุณเป็นนายหญิงแห่งตระกูลมัวร์ คุณไม่กลัวใครมาหัวเราะเยาะเหรอที่แต่งงานกับคนที่ผ่านการหย่าร้างมาอย่างผม?”

จัสมินส่ายหัวแล้วพูดอย่างมุ่งมั่น “ฉันไม่กลัวค่ะ! ตราบใดที่คุณไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามฉัน ฉันก็เป็นคนรักของคุณได้! ตราบใดที่ฉันได้อยู่กับคุณ ฉันก็จะไม่กลัวอะไร แม้คนทั้งโลกจะชี้หน้าด่าฉันก็ตาม!”