บทที่ 1533 กินเต็มที่ / บทที่ 1534 ทนรับความอับอายครั้งนี้ไม่ไหว

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1533 กินเต็มที่

เนี่ยอู๋หมิงเอ่ย “เยี่ยม! ฉันชอบคนมีอารยธรรมอย่างนายนี่แหละ เป็นผู้ชายต้องไม่ฝืนใจใคร!”

เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเนี่ยอู๋หมิง เนี่ยอู๋หมิงอยากจะแต่งงานกับคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นเองมากกว่าล่ะมั่งเนี่ย…

“คนสวย ฉันให้คนรับใช้ขับรถมา แล้วเดี๋ยวฉันขับรถพาเธอไปกินลมชมวิวในห้องนอนฉัน หรือไม่ก็ไปเดินชมสวนสนุกที่ฉันสร้างไว้ข้างในบ้านดีกว่า…” คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นจ้องเยี่ยหวันหวั่น แล้วยิ้มบอก

เยี่ยหวันหวั่นมองคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่น ปากกระตุกเล็กน้อย แต่กลับพูดอะไรไม่ออกซักคำ คนมีเงินจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น

“อะแฮ่ม น้องเสิ่น วันนี้เป็นงานเลี้ยงเลิกราของนาย ยังไงพวกเราไปที่งานเลี้ยงกันก่อนดีกว่านะ…” เนี่ยอู๋หมิงแนะนำ

“อืม พี่เนี่ยพูดมีเหตุผล” คุณชายใหญ่เสิ่นพยักหน้า จากนั้นก็พาเยี่ยหวันหวั่นกับเนี่ยอู๋หมิงเดินไปข้างหน้า

ผ่านไปครู่หนึ่ง ทั้งสามก็มาถึงงานเลี้ยง

ในงานเลี้ยงเต็มไปด้วยผู้คนคลาคล่ำ นอกจากผู้มีอิทธิพลจากกลุ่มอำนาจต่างๆ ยังมี ‘เนี่ยอู๋โยว’กับเนี่ยหลิงหลงรวมอยู่ด้วย

สายตาของเยี่ยหวันหวั่นกวาดผ่านกลุ่มคน ใบหน้าของจี้ซิวหร่านประดับด้วยรอยยิ้มจางๆ เขากำลังพูดคุยกับนายแห่งอาชูร่า ทั้งสองชะโงกหน้ากระซิบกันเป็นระยะ เหมือนเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี

เยี่ยหวันหวั่นอดถอนหายใจไม่ได้ สองคนนี้เคยไม่ถูกชะตากันแท้ๆ แต่พอมาอยู่ในสถานการณ์อย่างงี้ กลับไม่แสดงความเป็นศัตรูกันให้เห็น ตรงกันข้ามเหมือนเพื่อนที่สนิทกันมากซะด้วยซ้ำ…ความสามารถในการยับยั้งชั่งใจระดับนี้ คนทั่วไปทำไม่ได้แน่ๆ

“กิน กินให้หนำใจ! ชีซิง นายกินอันนั้นทำไม มันถูกเกินไป! กินอันนี้ อันนี้แพง! นายนี่มันโง่จริงๆ!”

เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันเดินไปหานายแห่งอาชูร่ากับจี้ซิวหร่าน เสียงคุ้นหูก็ดังมาจากกลุ่มคน

เยี่ยหวันหวั่นชะงัก หันไปมองที่มุมหนึ่งโดยจิตใต้สำนึก

เห็นเพียงเป่ยโต่วใส่ชุดสูท มือถือจานอาหาร ในจานเต็มไปด้วยของกินหายากราคาแพง

ชีซิงยืนอยู่ข้างเป่ยโต่ว ได้แต่ทำหน้าประดักประเดิดเมื่อถูกคนรอบข้างหันมามองด้วยสายตาแปลกๆ

“มา กินอันนี้ ฉันจะบอกให้นะ ไอ้นี่น่ะโคตรแพง อยู่ข้างนอกไม่มีปัญญากินแน่ อีกเดี๋ยว…ตอนเรากลับหาถูงมาใส่กลับบ้านหน่อยดีกว่า…” เป่ยโต่วพูดไปพลาง กินไปพลาง

“ถ้าไง นายไปกินตรงโน้นไหม…ฉันจะรอนายอยู่ตรงนี้” ชีซิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปพูดกับเป่ยโต่ว

“พูดอะไรของนาย นายก็กินด้วยสิ กินตรงนี้เสร็จเราค่อยไปกินอีกฝั่ง เมื่อกี้ฉันเห็นฝั่งนู้นมีของอร่อยกว่านี้อีก!” เป่ยโต่วบอก

เยี่ยหวันหวั่นที่เห็นภาพนั้นก็อดยกมือกุมหน้าผากไม่ได้ ขายหน้าไปยันโคตรเหง้าตระกูลแล้ว…

พันธมิตรอู๋เว่ยเลี้ยงพวกนายไม่ดีรึไง…

“นี่ เหล่าชี นายว่าพี่เฟิ่งไปอยู่ไหนแน่ ยังไม่มาอีก โทรศัพท์ก็โทรฯ ไม่ติด ป่านนี้แล้วก็ยังไม่เห็น เกิดอะไรขึ้นนะ” เป่ยโต่วทำหน้าสงสัยเล็กน้อย ก่อนจะสอดส่ายสายตาไปทั่ว

เยี่ยหวันหวั่นรีบยกมือปิดหน้า กลัวว่าเป่ยโต่วจะเดินมาหาเธอ เธอรีบหมุนตัวทำท่าจะเดินไปจากตรงนี้

แต่เยี่ยหวันหวั่นเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆ เป่ยโต่วก็วิ่งตามมา

“ให้ตายเถอะ…เป็นไปไม่ได้…” เป่ยโต่วยืนอยู่ข้างเยี่ยหวันหวั่น มองพิจารณาเยี่ยหวันหวั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วทำหน้าเหมือนเหลือเชื่อ “คุณคือพี่เฟิ่ง? พี่เฟิ่งจะแต่งตัวออกสาวขนาดนี้ได้ยังไง…”

“ไม่ใช่ค่ะ คุณจำคนผิดแล้ว…” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ แต่งตัวออกสาวขนาดนี้…หมายความว่าไงยะ?

“เป็นไปได้ยังไง คุณคือพี่เฟิ่ง!” เป่ยโต่วตะลึง ในความทรงจำของเขา เยี่ยหวันหวั่นแต่งตัวกลางๆ ไม่ออกหญิงหรือชายเกินไป หรือไม่ก็แต่งตัวโทนดำตลอด…

————————————————————————————-

บทที่ 1534 ทนรับความอับอายครั้งนี้ไม่ไหว

คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่สวยหวานหยดย้อยตรงหน้า จะเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเขา?

“พีเฟิ่ง…”

ไม่นาน ชีซิงก็เดินมาหา แล้วพูดกับเยี่ยหวันหวั่น

พอเห็นว่าหลบไม่พ้น สุดท้ายเยี่ยหวันหวั่นก็ถอนหายใจแล้วยอมรับด้วยความจนใจ

แม่เอ็งเถอะ มางานเลี้ยงคนอื่นเขา ช่วยทำตัวดีๆ หน่อยไม่ได้รึไง…ขายหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยหมด…

“พี่เฟิ่ง ทำไมเพิ่งมา อาหารตระกูลเสิ่นอร่อยมาก โธ่ พี่น่าจะมาเร็วกว่านี้หน่อย ตอนนี้ของกินน่าจะใกล้หมดแล้ว…ผมเก็บไว้ให้พี่หน่อย รีบกินตอนมันยังอุ่นๆ เถอะ…” เป่ยโต่วยื่นจานให้เยี่ยหวันหวั่น

“นายคือ…นายคือคนนั้นใช่ไหมนะ…” คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นมองเป่ยโต่วอย่างอึ้งๆ

เหมือนเขาจะเคยเจอผู้ชายคนนี้ที่ไหน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะที่พันธมิตรอู๋เว่ย…

“คนสวย เธอรู้จักคนของพันธมิตรอู๋เว่ยด้วยเหรอ?” คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างแปลกใจ ไม่นึกเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย

เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดอะไร เนี่ยอู๋หมิงก็โอบไหล่คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่น “น้องชายเสิ่น ฉันไปต้อนรับแขกพวกนั้นเป็นเพื่อนนายก่อน วันนี้นายเป็นเจ้าภาพ จะละเลยแขกไม่ได้เด็ดขาด…”

พูดจบก็ไม่เปิดโอกาสให้คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นพูดอะไร เนี่ยอู๋หมิงรีบลากคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นออกไปทันที

……

“พี่เฟิ่ง พี่กินไหม?” เป่ยโต่วชูจานขึ้นแล้วถาม

“นายไม่ได้กินข้าวมาเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นเอือมระอา

“ก็ต้องไม่ได้กินมาสิ รู้ว่าวันนี้มีงานเลี้ยงของตระกูลเสิ่น ผมอดข้าวสองวันก็เพื่อมื้อนี้มื้อเดียวเลยนะ” เป่ยโต่วยิ้มบอก

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำจะพูด มารดาเอ็งเถอะ สมกับเป็นยอดฝีมือของพันธมิตรอู๋เว่ยเราจริงๆ…

“ฉันกินมาแล้ว ไม่หิว” เยี่ยหวันหวั่นบอกเป่ยโต่ว

เป่ยโต่วขมวดคิ้ว “น่าเสียดาย…พี่เฟิ่ง ถ้าพี่ไม่กิน ผมกับเป่ยโต่วจะไปกินฝั่งข้างหน้าแล้วนะ…”

“โอเค…นายไปเถอะ…” เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุก

“เหล่าชี เราไปกันเถอะ” เป่ยโต่วหันไปพูดกับชีซิง

“ฉัน…ฉันไม่ไปดีกว่า…นายไปกินเองได้ไหม” ชีซิงบอกเป่ยโต่ว

“ได้ยังไงกัน ฉันกินคนเดียวไม่หมด!” เป่ยโต่วไม่เปิดโอกาสให้ชีซิงพูดอะไร เขาคว้าเขนชีซิง แล้วลากออกไปจากที่นี่

เยี่ยหวันหวั่นมองเงาหลังของเป่ยโต่วที่กำลังเดินออกไป ได้แต่อธิษฐานในใจเงียบๆ ว่าขออย่าให้เจ้าโง่นั่นบอกใครว่ามาจากพันธมิตรอู๋เว่ยเลย…

พันธมิตรอู๋เว่ยของเธอ ทนแบกรับความอับอายครั้งนี้ไม่ไหวจริงๆ…

ไม่นาน หางตาของเยี่ยหวันหวั่นก็เหลือบไปเห็น ‘เนี่ยอู๋โยว’กับเนี่ยหลิงหลงกำลังเดินมาทางนี้

“หึ นี่มันคุณหวันหวั่นไม่ใช่เหรอ”

‘เนี่ยอู๋โยว’เดินผ่านเยี่ยหวันหวั่นแล้วชะงักฝีเท้า ก่อนจะแค่นเสียงหัวเราะ แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“อู๋โยว คุณคนนี้คือ…”

ลูกคุณหนูหลายคนมองมาที่เยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าฉงนสงสัย

“ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก คุณคนนี้เคยช่วยฉันเลี้ยงถังถังอยู่ช่วงหนึ่ง ไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไรถึงได้ทำให้ลูกชายฉันรับเธอเป็นแม่ ตอนนี้ยังมาเป็นลูกสาวบุญธรรมของแม่ฉันอีก”

‘เนี่ยอู๋โยว’แค่นเสียงพูด

“หา? มีคนแบบนี้ด้วยเหรอ?”

ลูกคุณหนูพวกนั้นมองเยี่ยหวันหวั่นหัวจรดเท้าด้วยสีหน้าแปลกๆ

“พี่อู๋โยว อย่าพูดอย่างงั้นสิ” เนี่ยหลิงหลงก้าวออกมา แล้วเอ่ยว่า “ไม่ว่ายังไง เธอก็เคยดูแลถังถังมาช่วงหนึ่ง”

“น้องสาวหลิงหลง เธอยังเด็ก อย่าได้ถูกคนอย่างงี้หลอกเอาเชียว…ถังถังเป็นถึงใคร…ที่เธอดูแลถังถังก็คงเพราะมีอะไรแอบแฝงมากกว่าล่ะมั้ง” คุณหนูคนหนึ่งเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่น แล้วพูดเสียงกลั้วหัวเราะ