เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1009
ด้านข้างของเขา ชุดดำเหมือนหมึก ผมยาวประบ่า ผ้าผืนบางปิดหน้า ถ้าไม่ใช่อู่คงหลิงจะเป็นใครได้อีก

ตอนลู่ฝานเห็นอู่คงหลิง เขาเบิกตาโตทันที

ตอนนี้อู่คงหลิงเหาะช้าๆ ไปอีกด้าน ราวกับไม่อยากเข้าไปในการต่อสู้ของสองคนนี้

หานหยวนหนิงโมโหแต่ระบายออกมาไม่ได้ ดวงตากลายเป็นสีแดงโลหิตอย่างรวดเร็ว

นี่คือเคล็ดวิชาบู๊บ้าคลั่งของตระกูลหาน สามารถเพิ่มพลังกับความเร็วได้ในพริบตา แผดเสียงดังออกมาหนึ่งครั้ง หานหยวนหนิงพุ่งไปหาเทียนชิงหยางอีกครั้ง

สามพันกระบี่ในพริบตาเดียว พลังปราณของหานหยวนหนิงกลายเป็นค่ายกลกระบี่

เทียนชิงหยางมองภาพนี้ เขาทำเพียงแค่ยกมือขึ้นมาแล้วกดมือลง

“กดดัน!”

เหมือนมีพลังล่องหน ควบคุมโดยการกดหานหยวนหนิงเอาไว้ กดหานหยวนหนิงลงไปบนพื้น

เทียนชิงหยางยิ้มแล้วพูดว่า “หานหยวนหนิง อย่างนายยังห่างชั้นอีกเยอะ”

หานหยวนหนิงดิ้นไปมาบนพื้นอย่างสุดชีวิต แต่พลังปราณบนตัวเขากลับแตกเป็นเสี่ยงๆ

“เทียนชิงหยาง นายรนหาที่ตาย!”

จู่ๆ หานหยวนหนิงแผดเสียงออกมา ลูกดอกโลหิตดอกหนึ่งพุ่งออกไป

เทียนชิงหยางไม่ได้คิดถึงกระบวนท่านี้ เสื้อเปื้อนเลือดของหานหยวนหนิงหนึ่งหยด

เพียงแค่หยดเดียว สีหน้าของเทียนชิงหยางเปลี่ยนไปทันที

จู่ๆ หานหยวนหนิงลุกขึ้นมาพูดว่า “ดูถูกลูกหลานตระกูลหาน ต้องตาย!”

ทั้งตัวเขาเหมือนมนุษย์โลหิต หานหยวนหนิงพุ่งเข้าไปหาเทียนชิงหยาง

เทียนชิงหยางพยายามเช็ดเลือดบนเสื้อออก แต่มันสายไปเสียแล้ว เลือดสดกลายเป็นเปลวเพลิงสีขาว เริ่มลุกโชนขึ้นมาทันที ทันใดนั้นเทียนชิงหยางโดนปกคลุมอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง

“ไอ้สารเลว!”

ในที่สุดเทียนชิงหยางก็ดึงกระบี่มังกรคำรามออกมา

เสียงมังกรคำรามดังขึ้น หานหยวนหนิงหยุดการกระทำลงทันที

ในเวลาเดียวกัน เหรินเจียงปรากฏตัวออกมาทันที เขากดมือของเทียนชิงหยางเอาไว้

“หยุด!”

เหรินเจียงพูดเสียงดัง ในเวลาเดียวกันเหรินเจียงเอาป้ายแขวนเอวออกมา

“ป้ายคำสั่งของราชวงศ์ จวนไท่จื่อ!”

เทียนชิงหยางมองออกเพียงแวบเดียว เขารีบเก็บกระบี่ทันที

หานหยวนหนิงได้ยินคำพูดของเทียนชิงหยาง ก็หยุดลงเช่นกัน แสงสีแดงในดวงตาหายไปอย่างรวดเร็ว

ภายในห้อง ไท่จื่อจำสองคนนี้ได้แล้ว

“วิชาบ้าคลั่งของตระกูลหาน กระบี่มังกรคำรามของตระกูลเทียน คนสองตระกูลนี้อีกแล้ว ไสหัวไปๆๆ บอกให้พวกเขาไสหัวไป!”

เหมือนฉินอวิ่นไม่ค่อยชอบตระกูลหานกับตระกูลเทียน เขาตะโกนออกมาเสียงดัง

หูของเหรินเจียงขยับเบาๆ เหมือนได้ยินคำพูดของฉินอวิ่น เขาพูดเสียงเบาว่า “ไท่จื่อบอกให้พวกนายกลับไป”

เทียนชิงหยางรีบคารวะแล้วออกไป ไม่กล้าชักช้าแม้แต่ก้าวเดียว

หานหยวนหนิงอึ้งไปครู่หนึ่ง เขากัดฟันรีบออกไปเช่นกัน

ฉินอวิ่นเห็นภาพนี้ ก็พูดอย่างโมโหว่า “คนตระกูลวิถีบู๊สองสามคนนี้ นับวันยิ่งกำเริบเสิบสานขึ้นเรื่อยๆ กำเริบเสิบสานสุดขีด! ถ้าฉันเป็น……”

ฉินอวิ่นไม่ได้พูดต่อ แต่ลู่ฝานเดาได้ว่าเขาจะพูดอะไร จึงทำเป็นไม่ได้ยินอะไร

สายตาของเขามองไปยังอู่คงหลิง

ตอนนี้เหมือนฉินอวิ่นเห็นอะไรเหมือนกัน มองตามสายตาลู่ฝานไปทางอู่คงหลิง

“เอ๊ะ นั่นดอกไม้ที่ไหนกัน ทำไมฉันไม่เคยเห็นเลย”

ลู่ฝานแอบพูดว่าแย่แล้ว ขณะกำลังจะพูด

จู่ๆ ฉินอวิ่นยิ้มแล้วพูดว่า “ดอกไม้ชั้นดี เหรินเจียง เอาตัวผู้หญิงชุดดำคนนั้นขึ้นมา!”