และแน่นอนว่าหลังจากตัวเลข700 ล้านปรากฏขึ้น ก็ไม่มีผู้ใดกล้าเสนอราคาแข่งอีกเลย..
  “อืมม..นับว่ายอดฝีมือเหล่านี้มีสัญชาติญาณการเอาตัวเรารอดที่ดีเลยทีเดียว!” หนึ่งในห้าของยอดฝีมือที่อยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข 15 เอ่ยขึ้น
  “ห้องวีไอพีหมายเลข15 เสนอราคาสูงสุดที่ 700 ล้าน.. เคาะครั้งที่หนึ่ง.. เคาะครั้งที่สอง..”
  เซี่ยโหวหมิงอยากจะดึงเวลาให้ช้าลงเพราะเขารู้สึกไม่พอใจกับการสร้างสถานการณ์ให้ผู้อื่นหวาดกลัวเช่นนี้ แต่ด้วยหน้าที่ของผู้ดำเนินการประมูลทำให้เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
  “720ล้าน..”
  “หมายเลข958 อีกแล้วดูสิ!”   “เฮ้!!!”
  เสียงปรบมือและเสียงเฮดังสนั่นขึ้นทั่วทั้งหอประมูล..
  “หมายเลข958 ช่างสุดยอดมาก!”
  “หึ..หญิงสาวผู้นั้นเสียสติไปแล้วหรือยังไง ถึงได้กล้าทำอะไรแบบนี้!”
  “นั่นสิ..เป็นเพียงยอดฝีมือระดับสูงสุดขึ้นเซียงเทียน-3 เท่านั้น แต่อาจหาญไปท้าทายยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติ!”
  ทุกคนที่อยู่ในหอประมูลต่างก็พากันตกอกตกใจเมื่อเห็นหมายเลข 958 กล้าที่จะประมูลแข่งราคากับอีกฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่าเช่นนี้!
  “ห๊ะ..”
  แม้แต่เซี่ยโหวหมิงเองยังถึงกับตกใจและได้แต่คิดในใจว่าคงถึงคราวจบสิ้นของหญิงสาวผู้นี้แล้วเป็นแน่!
  ถึงแม้ทุกคนจะพากันตกอกตกใจอย่างมากแต่ผู้ประมูลหมายเลข 958 กลับยังคงมีท่าทีสงบนิ่งเช่นเคย ราวกับจะบอกว่า.. หากข้าต้องการจะประมูล ผู้ใดก็ยากที่จะห้ามข้าได้!
  และเวลานี้ยอดฝีมือทั้งห้าคนที่อยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข15 ก็ถึงกับหน้าตาขมึงทึงด้วยความโกรธเกรี้ยว เพราะคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวที่อยู่ในขั้นเซียงเทียน-3 เท่านั้น จะกล้าดี และอาจหาญมาประมูลแข่งกับตนเช่นนี้!
  ทั้งห้าคนต่างก็พอจะคาดเดาได้ว่าต้องมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังหญิงสาวผู้นี้เป็นแน่ และได้แต่คิดว่าผู้ใดกันที่กล้าอาจหาญเป็นปรปักษ์กับคนของพันธมิตรทะเลจีนตะวันออกเช่นนี้ นี่ไม่เท่ากันรนหาที่ตายหรอกรึ?
  “ฮึ่ม..เจ้ารนหาที่ตายแท้ๆ!”
  หนึ่งในแขกห้องวีไอพีหมายเลข15 ร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธ..
  ไม่จำเป็นที่พวกเขาต้องประมูลต่ออีกแล้วเพราะผู้ประมูลหมายเลข 958 ได้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณในสายตาของพวกเขาไปแล้ว และแผนที่ปริศนาที่นางประมูลไปได้ ก็จะต้องตกเป็นของพวกเขาอยู่ดี
  “ยินดีกับผู้ประมูลหมายเลข958 อีกครั้ง ที่สามารถประมูลแผนที่ปริศนาไปได้ด้วยราคา 720 ล้าน!”
  ในที่สุดเซี่ยหัวหมิงก็เคาะครั้งที่สามและประกาศให้ผู้ประมูลหมายเลข 958 เป็นผู้ชนะการประมูล และความอาจหาญของนางก็ได้ทำให้เซี่ยหัวหมิงรู้สึกนับถือมาก..
  “หึ..ดูท่าหลังการประมูลคืนนี้ คงจะมีเรื่องสนุกอีกมาก!”
  หลิงหยุนนั่งยิ้มเอนกายพิงโซฟาพร้อมกับพึมพำออกมา และได้แต่นึกขอบใจที่แขกวีไอพีห้อง 15 ที่ทำให้เขาไม่ต้องประมูลแผนที่ปริศนาในราคาที่สูงมากเกินไปกว่านี้..
  เย่ซิงเฉินได้ฟังถึงกับหัวเราะออกมาคิกคัก..
  การประมูลยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งเวลายี่สิบสามนาฬิกา..
  “ของประมูลชิ้นต่อไปคือไขหยกม่วง!”   ทันทีที่เซี่ยโหวหมิงประกาศของประมูลชิ้นต่อไปหลิงหยุนก็รีบบอกกับเย่ซิงเฉินทันที..
  “ซิงเฉิน..ที่นี่มีสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากออกมาประมูลทุกๆหนึ่งชั่วโมงงั้นรึ!”
  และหนึ่งในสี่ชิ้นที่นำออกมาประมูลนั้นหลิงหยุนก็สามารถประมูลได้ไปทั้งหมดสามชิ้นคือภูเขาไฟหลากสี น้ำผึ้งหยกขาว และแผนที่ปริศนา มีเพียงผ้าแพรไหมดำที่ตระกูลหลี่ต้องการประมูลไปมอบเป็นของกำนัลให้กับตระกูลหลิงเท่านั้น ที่หลิงหยุนเลือกที่จะไม่ประมูลแข่ง..
  เย่ซิงยิ้มให้หลิงหยุนก่อนจะอธิบายให้ฟังว่า“ถูกต้อง! ตระกูลเย่จะทำการประมูลของล้ำค่าที่หาได้ยากสลับกับของธรรมดาทั่วไปเช่นนี้ เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้เข้าร่วมประมูลทุกคน..”
  หลิงหยุนพยักหน้าหลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของเย่ซิงเฉินและเริ่มหันไปสนใจกับการประมูลอีกครั้ง..   “ทุกท่านคงจะรู้กันดีแล้วว่า..แกร่งกว่าดินคือหิน แกร่งกว่าหินคือหยก และแกร่งกว่าหยกก็คือไขหยก..”
  เซี่ยโหวหมิงซึ่งอยู่กลางเวทีกำลังประกาศคุณสมบัติของสินค้าที่นำมาประมูลเป็นชิ้นต่อไป..
  “ไขหยกมีหลากหลายสีแตกต่างกันไปแต่ละสีก็จะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวของมัน แต่ไม่ว่าจะเป็นไขหยกสีใด ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่งนัก แต่ไขหยกที่เหล่าผู้บ่มเพาะต้องการที่สุดก็คือไขหยกสี่ม่วง..”
  หลิงหยุนฟังคำอธิบายของเซี่ยโหวหมิงพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยไขหยกแต่ละสีต่างก็มีคุณสมบัติเฉพาะตัวแตกต่างกันไป อย่างเช่นไขหยกแดง.. นอกจากจะมีสรรพคุณในการกลั่นโอสถแล้ว ไขหยกแดงที่มีสีแดงราวกับเลือดนี้ ยังสามารถช่วยในเรื่องเลือดลมของผู้ฝึกฝนด้วย ส่วนไขหยกเขียวนั้นเน้นในเรื่องของความแข็งแกร่งเป็นต้น  แต่มีเพียงไขหยกม่วงเท่านั้นที่ไม่เพียงมีคุณสมบัติครบทุกอย่างที่ไขหยกสีอื่นมีแต่ยังสามารถช่วยในการสร้างพื้นฐานลมปราณให้กับผู้บ่มเพาะพลังอีกด้วย
  ไขหยกม่วงจัดเป็นหินพลังชีวิตชั้นเลิศและเป็นสิ่งที่เหล่าผู้บ่มเพาะตนตามสำนักต่างๆ ในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ ใช้ในการสร้างรากฐานลมปราณให้กับตนเอง
  เวลานี้หลิงหยุนใกล้จะเข้าสู่ด่านกลางขั้นพลังชี่แล้วเขาคาดว่าภายครึ่งปีหลังจากนี้ ตนเองจะสามารถเข้าสู่ขั้นตอนการสร้างรากฐานลมปราณได้แล้ว จึงต้องการที่จะได้ไขหยกม่วงมาไว้ในครอบครอง
  “ไขหยกม่วงนี้สามารถช่วยให้ผู้ที่ฝึกฝนบ่มเพาะพลังสามารถก้าวหน้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้นหากผู้ที่ได้ไปอยู่ในขั้นเซียงเทียน ก็จะสามารถพัฒนาเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-9 ได้ภายในเวลาพียงแค่หนึ่งปี..”
  “ได้มีการพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าไขหยกสีม่วงนี้สามารถสะท้อนกับคลื่นสมองของมนุษย์ด้วยความถี่ชนิดพิเศษ และส่งผลให้คนผู้นั้นมีพลังจิตที่แข็งแกร่ง..”
  ระหว่างที่อธิบายสรรพคุณของไขหยกม่วงอยู่นั้นไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนก็พบว่าเซี่ยโหวหมิงได้กวาดตามองขึ้นไปยังห้องวีไอพีหมายเลข 17..
  ภายในห้องนั้นมีคนอยู่ทั้งหมดสามคนและทุกคนต่างก็มีพลังหยิน และกลิ่นอายชั่วร้ายที่รุนแรง อีกทั้งจิตหยั่งรู้ของพวกเขาทั้งสามยังแข็งแกร่งมากอีกด้วย
  หลิงหยุนสังเกตเห็นว่าชายทั้งสามที่อยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข17 นั้น หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของเซี่ยโหวหมิงจบ ใบหน้าของพวกเขาต่างก็แสดงออกว่าอยากได้ไขหยกม่วงมาครอบครองมาก
  หลิงหยุนจึงได้ถามเย่ซิงเฉินว่า
  –ซิงเฉิน..เจ้าคิดว่าแขกในห้องหมายเลข 17 จะใช่ยอดฝีมือที่มาจากพันธมิตรทะเลใต้หนานหยางหรือไม่-  เย่ซิงเฉินพยักหน้า–น่าจะเป็นไปได้.. ข้าเห็นเซี่ยโหวหมิงเหลือบมองไปทางพวกเขาด้วย!-
  –ดูจากลักษณะการแต่งตัวพวกเขาน่าจะมาจากหนานหยางจริงๆ!-
  –ดูท่าพวกเขาอยากจะได้ไขหยกม่วงนี้มากด้วย..-
  หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับพูดต่อว่า–ดูสถานการณ์ไปก่อน หากราคาไม่สูงมากข้าก็จะประมูลด้วย!-
  แม้หลิงหยุนจะรู้ว่าไขหยกม่วงนั้นเป็นสมบัติล้ำค่าแต่เขาก็ไม่ได้ต้องการเหมือนกับภูเขาไฟหลากสี และหลังจากที่เขาได้เห็นไขหยกม่วงขนาดเท่าฝ่ามือนั้น ทำให้เขานึกถึงหินห้าสีที่อยู่ในแหวนจักรกวาลของตนเวลานี้..
  หินห้าสีนี้หลิงหยุนกว้านซื้อมาจากตลาดค้าของเก่าในเมืองจิงฉูแต่ละก้อนมีขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอล มีทั้งสีม่วง สีขาว สีเหลือง สีแดง และสีดำ  ครั้งนั้นหลิงหยุนยังอยู่เพียงแค่ขั้นปรับกายา-8เขาจึงไม่สามารถรู้ได้ว่าหินทั้งห้านี้คือสิ่งใดกันแน่ แต่ตอนนี้เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ..
  มีความเป็นไปได้ที่ข้างในของมันจะเป็นไขหยก!
  หลิงหยุนนึกถึงหยกจักรพรรดิก้อนโตซึ่งมีสีเขียวบริสุทธิ์และได้แต่แอบคิดว่าหรือจะมีไขหยกเขียวซ่อนอยู่ด้านในหยกก้อนใหญ่นี้เช่นกัน
  เมื่อคิดได้เช่นนี้..หลิงหยุนก็แทบอดทนรอไม่ได้ เขาอยากจะรีบกลับไปบ้าน และใช้กระบี่เหินเงาธนูผ่าหินทั้งหมดออกดูทันที แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องรอให้การประมูลสิ้นสุดลงเสียก่อน..
  ‘ฮ่า..ฮ่า.. นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ข้าไม่รู้ว่ามีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้อยู่กับตัว!’ หลิงหยุนได้แต่นึกขันตัวเอง
  ที่เวทีประมูล..   เซี่ยโหวหมิงกำลังประกาศเริ่มการประมูลอีกครั้ง“สินค้าหมายเลข 99 ไขหยกม่วง เริ่มเปิดประมูลที่ราคาหนึ่งพันล้าน!”
  “เริ่มการประมูลได้!”
  “สองพันล้าน..”
  ยังไม่ทันที่จะสิ้นเสียงประกาศของเซี่ยโหวหมิงดีราคาประมูลไขหยกม่วงก็พุ่งขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัวทันที
  แต่ที่น่าแปลกคือ..ผู้ที่ประมูลกลับไม่ใช่ห้องวีไอพีหมายเลข 17 แต่เป็นหมายเลข 13!
  หลิงหยุนนึกประหลาดใจที่ห้องวีไอพีหมายเลข13 เสนอราคาที่สูงลิบลิ่วถึงเพียงนี้ และไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางจึงต้องการไขหยกม่วงมากนัก
  หลิงหยุนเปิดจิตหยั่งรู้ออกสำรวจดูภายในห้องวีไอพีหมายเลข17 แต่กลับพบว่าทั้งสามคนไม่มีท่าทีโมโหเลยแม้แต่น้อย ตรงข้ามทั้งหมดกลับพยักหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างพอใจ  ‘คิดไม่ถึงว่าห้องวีไอพีหมายเลข13 กับหมายเลข 17 จะเป็นพวกเดียวกัน..’
  “สองพันห้าร้อยล้าน..”
  “สองพันแปดร้อยล้าน..”
  แม้คนอื่นๆจะพากันตกอกตกใจกับตัวเลขประมูลที่สูงลิบลิ่วตั้งแต่ครั้งแรกแต่ก็ยังมีคนที่ไม่ยอมแพ้ และต้องการประมูลแข่ง
  ‘ตระกูลหลิวกับตระกูลถันอีกแล้วรึ..’
  หลิงหยุนเห็นเช่นนั้นจึงอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้พร้อมกับคิดในใจว่า ‘ดูท่านี่คงจะเป็นของกำนัลที่ตระกูลหลิว และตระกูลถันต้องการจะนำไปมอบให้ตระกูลหลงสินะ!’
  ก่อนหน้าที่ทั้งตระกูลหลิวกับตระกูลถันต่างก็ได้ประมูลโอสถหลงหู่โอสถวัดเส้าหลิน และทรัพยากรอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการฝึกวิชาไปเป็นเงินถึงสองพันล้านแล้ว..
  หลิงหยุนจึงคาดเดาเอาเองว่าสมบัติล้ำค่าอย่างไขหยกม่วง ทั้งสองตระกูลคงจะต้องการประมูลเพื่อนำไปมอบเป็นของกำนัลแน่..
  “สี่พันล้าน..”
  เหออวี้ฉงเสนอราคาที่สูงมากอีกครั้งเห็นได้ชัดว่านางต้องการจะได้ไขหยกม่วงนี้มากจริงๆ!
  และที่เหออวี้ฉงต้องการไขหยกม่วงนี้มากก็เพราะว่าผู้ที่อยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข 17 ทั้งสามคนนั้น ได้รับปากกับนางว่าหากเหออวี้ฉงสามารถนำไขหยกม่วงไปมอบให้กับพวกเขาได้ ปู่ของเหออวี้ฉงก็จะสามารถมีชีวิตต่อไปได้..
  หลิงหยุนถึงกับตกใจอย่างมากเมื่อเห็นเหออวี้ฉงเสนอราคาสูงถึงสี่พันล้าน เขาถึงกับส่ายหน้าไปมา เพราะในสายตาของหลิงหยุนนั้น ไขหยกม่วงไม่ควรสูงกว่าสามพันล้าน..
  “สี่พันห้าร้อยล้าน..”
  “สี่พันแปดร้อยล้าน..”
  ตระกูลหลิวกับตระกูลถันเองก็ดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้..   “หกพันล้าน..”เหออวี้ฉงยังคงประมูลด้วยตัวเลขที่สูงอย่างไม่ย่อท้อ
  “หึ..ผู้หญิงคนนี้เสียสติไปแล้วหรือยังไง”
  ถันอิงซึ่งอยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข3 สบถออกมาด้วยความโมโห พร้อมกับปาถ้วยน้ำชาในมือลงไปบนพื้น
  ในขณะที่หลิวจวิ้นหัวเองก็ได้แต่ส่ายหน้าและทิ้งตัวลงบนโซฟา..
  “ขอแสดงความยินดีกับผู้ประมูลห้องวีไอพีหมายเลข13 ที่ได้ไขหยกม่วงไปครอบครองด้วยราคาหกพันล้านหยวน!”
  เซี่ยโหวหมิงเคาะครั้งที่สามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและพออกพอใจกับราคาที่ได้..
  เหออวี้ฉงถึงกับปาดเหงื่อเมื่อได้ยินเสียงประกาศของเซี่ยโหวหมิงนางเกรงว่าผู้ประมูลหมายเลข 958 จะมาแย่งประมูลของชิ้นนี้กับนางอีก..
  ไขหยกม่วงตกมาอยู่ในมือของเหออวี้ฉงแล้วนั่นย่อมหมายความว่าปู่ของนางจะสามารถมีชีวิตยืนยาวไปได้อีกหนึ่งปี และในระยะเวลาหนึ่งปีนี้ นางก็พอมีเวลาที่จะคิดจัดการกับเรื่องต่างๆภายในครอบครัวได้..
  “พวกเจ้าสองคนช่างไร้ค่าสิ้นดี!”
  ชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข1 ถึงกับสบถออกมาอย่างไม่พอใจ
  และคนผู้นี้ก็คือตัวแทนจากตระกูลหลง..