บทที่ 1250 กระบี่ฑูตสวรรค

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

แม้ไขหยกม่วงจะถูกหญิงสาวในห้องวีไอพีหมายเลข13 ประมูลไปแล้ว แต่หลิงหยุนกลับรู้สึกคล้ายกับว่า ไม่ว่าอย่างไรไขหยกม่วงนั้นก็จะต้องตกมาอยู่ในมือของตนไม่ช้าก็เร็ว
  หลังจากที่เฝ้าสังเกตของที่หญิงสาวในห้องหมายเลข13 ประมูลมาจนถึงตอนนี้ หลิงหยุนพบว่าส่วนใหญ่เป็นสมุนไพรที่จะนำไปใช้ในการรักษาโรค ทำให้เขาเริ่มสงสัยว่า อาจมีคนสำคัญในครอบครัวของนางกำลังเจ็บป่วยอย่างหนักจนยากที่จะเยียวยาก็เป็นได้
  หลิงหยุนมั่นใจว่าหลังการประมูลสิ้นสุดลงหากเขาได้พบกับนาง และได้แสดงทักษะทางการแพทย์ที่้ล้ำเลิศของตนให้นางได้เห็น เขาเชื่อมั่นว่าหญิงสาวผู้นี้จะต้องยกไขหยกม่วงให้กับเขาเป็นแน่
  การประมูลยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆแต่ไม่สิ่งใดให้หลิงหยุนรู้สึกสนใจอีกแล้ว ตรงข้าม.. หญิงสาวในห้องวีไอพี 13 ยังคงใช้เงินอีกสองพันล้านประมูลกำยานสำหรับช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย
  จนกระทั่งถึงตอนนี้เหออวี้ฉงได้ใช้เงินไปกับการประมูลครั้งนี้มากกว่าหนึ่งหมื่นสามพันล้านแล้ว!
  หลิงหยุนให้ความสนใจกับหญิงสาวในห้องหมายเลข13 มาก และยิ่งเห็นสิ่งของที่นางกว้านประมูลไปนั้น ยิ่งทำให้หลิงหยุนมั่นใจว่า อีกฝ่ายจะต้องมีคนในครอบครัวป่วยทางจิตอย่างรุนแรงเป็นแน่ หรือไม่ก็ต้องถึงขั้นเสียสติ ไม่เช่นนั้นนางคงจะไม่ประมูลสิ่งของเหล่านั้นไปแน่..
  อาการทางจิตนั้นเป็นความเจ็บป่วยที่รักษาได้ยากที่สุดหลิงหยุนจึงยิ่งมั่นใจว่าหากเขาสามารถรักษาให้หายได้ ไขหยกม่วงนั้นจะต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน
  เวลานี้ห้องวีไอพีหมายเลข2 และ 3 ก็กำลังประมูลแย่งชิงอาวุธที่สามารถตัดเหล็กแข็งได้กันอยู่ และแน่นอนว่าอาวุธที่จะสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตระกูลเช่นนี้ ตระกูลหลิวกับตระกูลถันไม่มีทางยอมพลาดเป็นแน่
  ท่ามกลางการประมูลที่ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือดเร่าร้อนในที่สุดก็เข้าสู่เวลาเที่ยงคืนของวัน..
  หลิงหยุนลุกขึ้นยืนทันทีเพื่อต้องการดูว่าในชั่วโมงนี้ตระกูลเย่จะนำสมบัติล้ำค่าใดออกมาประมูล และได้เห็นนักรบตระกูลเย่ผู้หนึ่งใช้สองมือประคองกล่องที่ภายในบรรจุกระบี่สีนิลเล่มยาวเดินออกมา
  กระบี่เล่มนี้มีความยาวหนึ่งเมตรแต่หนักยิ่งนัก นักรบตระกูลเย่ผู้นั้นค่อยๆ ประคองกล่องบรรจุกระบี่วางลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง
  “เป็นอาวุธอีกแล้วรึ”
  ทันทีที่นักรบตระกูลเย่เดินออกมาทุกคนต่างก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สายตาทุกคู่ และจิตหยั่งรู้มากมายจับจ้องอยู่ที่กระบี่สีนิลในมือของเขา  ส่วนใหญ่แล้วกระบี่ที่คมกริบจนสามารถตัดเหล็กกล้าได้ง่ายราวกับตัดดินโคลนจะเหมาะสำหรับยอดฝีมือในระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-8 เท่านั้น และไม่ค่อยมีค่าในสายตาของยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติ
  แต่ไม่ใช่กระบี่เล่มนี้..เพราะดูเหมือนเหล่ายอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติต่างก็พากันให้ความสนใจอย่างมาก
  เซี่ยโหวหมิงหันไปยิ้มให้กับนักรบตระกูลเย่ผู้นั้นและสั่งให้เขาจัดการนำกระบี่ออกจากกล่อง จากนั้นจึงหันไปทางผู้ประมูลพร้อมประกาศเสียงดัง
  “การประมูลได้ดำเนินมากว่าสี่ชั่วโมงแล้วคิดว่าหลายท่านคงจะเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย อย่างไรก็อย่าเคร่งเครียดมากนัก ขอให้ทุกท่านประมูลกันอย่างสบายๆ”
  ทันทีที่นักรบตระกูลเย่นำกระบี่ออกมาจากกล่องไอเย็นของกระบี่ก็ได้พวยพุ่งออกมา และแผ่ซ่านกระจายไปทั่วทั้งหอประมูลทันที!
  ยิ่งไอกระบี่เยือกเย็นและมีไอสังหารรุนแรงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ยอดฝีมือชั้นล่างให้ความสนอกสนใจมากเท่านั้น เวลานี้ทุกคนราวกับถูกกระบี่สีนิลสะกดไว้ ทุกคนต่างก็เกิดความรู้สึกที่ต้องการจะต่อสู้เพื่อให้ได้มันมาครอบครอง
  “ฮ่า..ฮ่า.. ทุกท่าน สิ่งนี้ไม่ใช่อาวุธ นี่คืออุกกาบาตธรรมชาติที่มีชื่อว่ากระบี่ฑูตสวรรค์”
  ระหว่างที่พูดเซี่ยโหวหมิงก็ได้เอื้อมมือออกไปคว้ากระบี่สีนิลขึ้นกวัดแกว่งไปมากระบี่ถึงกับสั่นสะท้าน และส่งเสียงดังราวกับมังกรคำราม!
  นี่ไม่ใช่กระบี่จริงๆเพราะนอกจากจะไม่มีความคมดังเช่นกระบี่ทั่วไปแล้ว พื้นผิวของมันยังขรุขระยิ่งนัก มีเพียงรูปร่างที่คล้ายกระบี่เท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่กระบี่!
  เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วทั้งหอประมูลอีกครั้งเพราะทันทีที่กระบี่ฑูตสวรรค์ถูกนำออกมา ไอเย็นที่น่าสยดสยองก็ได้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง ยอดฝีมือที่อยู่ต่ำกว่าด่านกลางขั้นเซียงเทียนล้วนแล้วแต่รู้ได้ทันทีว่าตนคงไม่มีสิทธิ์ได้ครอบครองสมบัติชิ้นนี้เป็นแน่
  ‘เป็นกระบี่ฑูตสวรรค์จริงๆด้วย!’
  สีหน้าของหลิงหยุนเปลี่ยนไปทันทีที่ได้เห็นกระบี่ฑูตสวรรค์เขาดีอกดีใจอย่างมาก เพราะจากนี้ไปกระบี่เหินเงาธนูของเขาจะสามารถพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นแล้ว
  นอกจากกระบี่เหินเงาธนูแล้วกระบี่ฑูตสวรรค์ชิ้นใหญ่เช่นนี้ หลิงหยุนยังสามารถนำมาใช้เป็นเรือนกระบี่ของกระบี่กังฉี และสร้างเป็นกระบี่เหินเฟยเจี้ยนของตนเองได้!
  แต่สำหรับหลิงหยุนที่หมกมุ่นอยู่กับการพัฒนาความแข็งแกร่งของตนกระบี่ฑูตสวรรค์จึงสำคัญกว่าไขหยกม่วงมาก
  ‘ดูท่าครั้งนี้ข้าคงจะต้องเสียเงินอีกแล้วสินะ!’
  หลิงหยุนได้แต่คิดว่าถึงเวลาที่เขาคงต้องใช้เงินที่เก็บไว้อีกแล้วและเขาจะต้องได้กระบี่ฑูตสวรรค์นี้มาครอบครองให้ได้  –เสี่ยวเม่ยเม่ยเจ้าเตรียมตัวให้พร้อม นี่คือกระบี่ฑูตสวรรค์ ข้าต้องชนะการประมูลเท่านั้น!- หลิงหยุนกำชับเสี่ยวเม่ยเม่ย
  “ทุกท่านคงจะรู้จักอานุภาพของกระบี่ฑูตสวรรค์กันดีแล้วว่าหากมันถูกนำมาสร้างเป็นกระบี่ที่สมบูรณ์เมื่อใด จะกลายเป็นอาวุธที่น่ากลัว และไม่ควรเข้าใกล้อย่างยิ่ง”
  เซี่ยโหวหมิงยิ้มพร้อมกับย้ำคุณสมบัติของกระบี่ฑูตสวรรค์ให้ทุกคนฟังในขณะเดียวกันสายตาของเขาก็เหลือบมองขึ้นไปยังห้องประมูลชั้นสองอีกครั้ง
  และครั้งนี้สายตาของเซี่ยโหวหมิงจับจ้องอยู่ที่ห้องวีไอพีหมายเลข9 ของหลิงหยุน ราวกับจะบอกว่า ‘ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะไม่ประมูลสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้!’
  แต่เซี่ยโหวหมิงคงต้องประเมินผิดอีกครั้งเพราะหลิงหยุนจะไม่ทำการประมูลด้วยตัวเอง!
  “กระบี่ฑูตสวรรค์เล่มนี้จะเริ่มประมูลกันที่ราคาสามพันล้าน ราคาประมูลแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่าสามร้อยล้าน”
  “เริ่มการประมูลได้!”
  “สี่พันล้าน..”
  “สี่พันห้าร้อยล้าน..”
  ทันทีที่เปิดประมูลทั้งตระกูลหลิวและตระกูลถันต่างก็เริ่มแก่งแย่งกันทันที ในเมื่อพวกเขาพลาดไขหยกม่วงไปแล้ว พวกเขาจะไม่ยอมสูญเสียกระบี่ฑูตสวรรค์ไปอีกเป็นอันขาด!
  “ห้าพันห้าร้อยล้าน..”
  ยอดฝีมือจากพันธมิตรทะเลใต้หนานหยางในห้องวีไอพีหมายเลข15 ก็ประมูลด้วยเช่นกัน
  “หกพันห้าร้อยล้าน..”
  ตระกูลหลิวประมูลเพิ่มด้วยจำนวนเงินที่สูงถึงหนึ่งพันล้านในทันที
  แม้ตระกูลหลิวจะรู้ว่าผู้ที่อยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข15 นั้นเป็นยอดฝีมือ แต่ตระกูลหลิวก็ต้องการที่จะประมูลกระบี่ฑูตสวรรค์เล่มนี้ให้ได้ เพื่อที่จะนำไปมอบเป็นของกำนัลให้กับตระกูลหลง
  การที่หลิวหย่วนจื้อเสนอราคาที่สูงมากเช่นนั้นก็เพื่อทำให้คู่แข่งตกใจ และเขาเองก็มีตัวเลขอยู่ในใจไม่เกินเจ็ดพันห้าร้อยล้าน หากราคาพุ่งสูงกว่านี้ ตระกูลหลิวก็ไม่มีเงินเพียงพอ เพราะในเวลาเพียงแค่สี่ชั่วโมงตระกูลหลิวได้ใช้เงินไปมากกว่าห้าพันล้านแล้ว
  และราคาห้าพันห้าร้อยล้านนี้ก็สามารถหยุดแขกในห้องวีไอพี15 ได้สำเร็จจริงๆ พวกเขาได้แต่คำรามออกมาด้วยความไม่พอใจ เพราะตัวเลขห้าพันห้าร้อยล้านนั้นเป็นตัวเลขสูงสุดที่พวกเขาจะสามารถจ่ายได้แล้ว
  ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่อยากได้แผนที่ปริศนาเพื่อไปตามหาสมบัติล้ำค่ากลับมาสร้างรายได้เป็นแน่..
  “เจ็ดพันล้าน..”
  ตระกูลถันซึ่งอยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข3 ก็คิดไม่ต่างจากตระกูลหลิวเช่นกัน พวกเขาต้องการกระบี่สีนิลเล่มนี้ไปมอบเป็นของกำนัลให้กับตระกูลหลง พวกเขาต้องการการสนับสนุนจากตระกูลหลง เพื่อความแข็งแกร่งและความสำเร็จในวันข้างหน้าของตระกูลถัน
  “….”
  หลิวหย่วนจื้อถึงกับพูดไม่ออกและได้แต่นึกเคียดแค้นตระกูลถันอยู่ในใจ นั่นเพราะการที่ตระกูลถันเสนอราคาประมูลที่สูงลิบลิ่วเช่นนี้ ก็เพื่อต้องการให้ตระกูลหลิวถอดใจเช่นกัน
  “หึ..ตระกูลถันตั้งใจส่งเจ้าโง่ถันอิงมาประมูลแข่งกับข้าชัดๆ!”
  หลิวหย่วนจื้อคำรามผ่านไรฟันเขาจ้องมองตัวเลขประมูลล่าสูดบนหน้าจอที่กำลังกระพริบอยู่ ในที่สุดก็กัดฟันพร้อมกับตัดสินใจประมูลไปด้วยตัวเลข
  “แปดพันล้าน..”
  การประมูลครั้งนี้เป็นไปอย่างดุเดือดที่สุดเพราะจำนวนเงินที่ประมูลแต่ละครั้งนั้นพุ่งเป็นหลักพันล้านทีเดียว และเมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายประมูลกันด้วยตัวเลขที่สูงเช่นนี้ ก็ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะประมูลแข่งอีก
  ภายในหอประมูลเงียบสงัดลงอีกครั้งเรียกได้ว่าแม้แต่เข็มสักเล่มตกก็คงได้ยินกันถ้วนหน้า บ่งบอกถึงบรรยากาศการประมูลที่กำลังตึงเครียด
  “แปดพันห้าร้อยล้าน..”
  ถันอิงตัดสินใจประมูลเพิ่มไปอีกห้าร้อยล้านดูเหมือนเขาจะรู้จักหลิวหย่วนจื้อดี และพอที่จะคาดเดาใจของอีกฝ่ายได้ว่ากำลังคิดเช่นใด
  –เฒ่าถัน..แม้ข้าจะรู้ว่าตัวเลขนี้สูงกว่าที่ตระกูลถันได้ตั้งไว้ แต่ถือว่าให้หน้าเจ้า ข้าจะถอนตัวไม่ประมูลต่อ!-
  หลิวหย่วนจื้อบอกกับถันอิงผ่านทางกระแสจิตและได้แต่สาบแช่งเขาอยู่ในใจ
  –โอ้เฒ่าหลิว..ขอบคุณเจ้ามาก! ตระกูลถันของข้าจะไม่ลืมน้ำใจครั้งนี้ของตระกูลหลิว–  ถันอิงเอ่ยขอบคุณอย่างดีอกดีใจและไม่คิดที่จะเย้ยหยันอีกฝ่าย เขาได้คิดไว้แล้วว่าการที่เขาประมูลเพิ่มอีกห้าร้อยล้าน จะทำให้เขาชนะการประมูลอย่างแน่นอน
  ครึ่งนาทีผ่านไป..ห้องทั้งห้องยังคงนิ่งเงียบ ตัวเลขบนหน้าจอยังคงไม่ขยับ
  ตัวเลข8.5 พันล้านนี้สูงกว่าราคาไขหยกม่วงถึงสองพันล้านเช่นนี้ ยังจะมีผู้ใดกล้าประมูลแข่งอีกเล่า
  “แปดพันห้าร้อยล้านเคาะครั้งที่หนึ่ง..”
  “แปดพันห้าร้อยล้านเคาะครั้งที่สอง..”
  เซี่ยโหวหมิงจงใจประกาศให้ช้าลงเล็กน้อยและกำลังคิดกระวนกระวายใจว่า เป็นไปได้อย่างไรกันที่หลิงหยุนจะไม่ประมูลกระบี่ฑูตสวรรค์เล่มนี้!
  ‘ตระกูลเย่ส่งบัตรเชิญวีไอพีให้กับเจ้าแต่เจ้ากลับมานั่งดูเล่นๆอย่าางนั้นรึ!’
  แต่เพราะจิตหยั่งรู้ของเซี่ยโหวหมิงไม่สามารถทะลุผ่านค่ายกลสกัดดวงจิตของหลิงหยุนได้เขาจึงไม่รู้ว่าหลิงหยุนอยู่ในห้องทำอะไรบ้าง
  เซี่ยโหวหมิงรู้สึกผิดหวังแต่ในวินาทีที่เขากำลังจะเคาะค้อนเป็นครั้งที่สาม และถันอิงก็กำลังยิ้มร่าอย่างมีความสุขนั้น
  “แปดพันแปดร้อยล้าน..”
  ตัวเลขใหม่ก็ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอและเสียงปรบมือก็ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งหอประมูล
  เพราะหมายเลข958 ได้เริ่มประมูลอีกครั้ง!
  ผู้ประมูลที่โดดเด่นที่สุดในการประมูลคืนนี้หลังจากที่ประมูลน้ำผึ้งหยกขาวไปเป็นชิ้นสุดท้าย หมายเลข 958 ก็ได้นั่งนิ่งไปนานกว่าสองชั่วโมง ในที่สุดนางก็เริ่มประมูลอีกครั้งแล้ว
  “นี่เจ้า..”
  ภายในห้องวีไอพีหมายเลข3 ถันอิงถึงกับกำหมัดทุบลงไปบนโต๊ะด้วยความโกรธอย่างแรง จนถ้วยชาชั้นเยี่ยมถึงกับแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
  “¥%…” ถันอิงสบถคำด่าหยาบคายออกมาด้วยความคับแค้น
  เพราะอีกฝ่ายนั้นจงใจประมูลสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้แข่งกับเขาด้วยการเพิ่มตัวเลขประมูลเพียงแค่สามร้อยล้านเท่านั้น นี่เท่ากับเป็นการจงใจที่จะฉีกหน้าเขา!
  “นายท่านทำของใช้ในวีไอพีเสียหายเช่นนี้จะต้องจ่ายค่าชดเชยใหักับทางโรงประมูลนะคะ!”
  พนักงานต้อนรับสาวรีบเอ่ยเตือนถันอิงทันที
  “เจ้าหุบปาก..เรื่องนั้นข้าย่อมรู้ดี!”
  ถันอิงโมโหจนแทบคลุ้มคลั่งเขากระโดดออกจากห้องวีไอพีไปทันที พร้อมกับเปิดจิตหยั่งรู้ของตนสำรวจไปที่ผู้ประมูลหมายเลข 958
  เสี่ยวเม่ยเม่ยยังคงนั่งด้วยท่าทีสงบนิ่งภายใต้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้าสีดำนั้น เผยให้เห็นแววตาที่สงบเยือกเย็น ส่วนนิ้วของนางก็วางอยู่บนแป้นคีย์บอร์ด เตรียมพร้อมที่จะคีย์ตัวเลขทันทีหากอีกฝ่ายเสนอตัวเลขกลับมา
  ถันอิงจ้องมองภาพที่ทุกคนต่างก็พากันปรบมือให้กับผู้ประมูลหมายเลข958 ด้วยความโกรธแค้น เขาต้องการที่จะกลับไปประมูลเพิ่ม แต่เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายแล้ว ถันอิงก็เริ่มที่จะถอดใจเช่นกัน
  เพราะจากการที่อีกฝ่ายประมูลไปหลายครั้งหลายครานั้นก็สามารถชนะการประมูลได้ทุกครั้ง ทำให้ถันอิงเกิดอาการลังเลสองจิตสองใจ
  และที่สำคัญ..จำนวนเงินแปดพันแปดร้อยล้านนั้น ได้ทะลุเพดานที่ตระกูลถันกำหนดไว้มากแล้ว!
  หลังจากหนึ่งนาทีผ่านไปเซี่ยโหวหมิงจึงเคาะปิดการประมูลทันที!
  “ขอแสดงความยินดีกับหมายเลข958 อีกครั้งที่ได้กระบี่ฑูตสวรรค์ไปครอง นอกจากท่านจะได้ส่วนลด 10% แล้ว ยังจะได้สถานะเป็นแขกวีไอพีของโรงประมูลตระกูลเย่ด้วย!”