ตอนที่ 1212 ตกตะลึง

The Legendary Mechanic

ภารกิจ[การหวนกลับของวีรชน]สำเร็จ!
  ท่านได้รับหนึ่งแต้มตำนาน
  แต้มตำนาน : [ผู้ปลุกบรรพชน]เพราะกิจกรรมที่จัดโดยเทพอำนวย กลุ่มของบรรพชนจึงถูกปลุกจากความตาย ท่านได้ช่วยเหลือเรื่องนี้อย่างลับๆและก็เป็นหนึ่งในผู้นำเบื้องหลังการกลับมาของบรรพชน พฤติกรรมของท่านมีแนวโน้มส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั้งจักรวาล
  +25 ความโปรดปรานของบีเกอร์ เคลลามิลร์
  +25 ความโปรดปรานของทริปป์ ซันสไตเดอร์
  +25 ความโปรดปรานของผานกอน ฟีเล็ตต์
  ในโรงงานจักรกลส่วนตัวของเขา หานเซี่ยวผู้ถูกฝังกับการวิจัยพลันได้รับข้อมูลจำนวนมากจากหน้าต่างสถานะ ทำให้สีหน้าเขาสว่างขึ้น
  “ภารกิจนี้สำเร็จแล้ว มันหมายความว่าผู้รักษาสัจจะทำสำเร็จ?”
  ครั้งนี้ มันผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังผู้เล่นออฟไลน์ไป หานเซี่ยวไม่คาดคิดว่าจะได้รับข่าวดีเร็วแบบนี้
  ผู้รักษาสัจจะได้แสดงปฏิกิริยาตอบสนองหลังขาดการติดต่อในวิหาร
  รางวัลภารกิจสำหรับ[การหวนกลับของวีรชน]รวมถึงแต้มตำนานและแต้มความโปรดปรานของผู้อยู่เหนือที่คืนชีพทั้งหมด
  เมื่อดูรายชื่อ หานเซี่ยวก็พบว่าชื่อเหล่านี้น่าทึ่ง สามารถระบุได้ง่ายๆผ่านเครือข่าย
  “มีคนเช่น[ราชาสงคราม]ผานกอน [เทพจอมเวทย์]บีเกอร์ [ผู้รู้ทุกสรรพสิ่ง]ทริปป์ พวกเขาเป็นบรรพชนชื่อดัง”
  ในฐานะคนกลุ่มแรกที่เป็นผู้อยู่เหนือได้สำเร็จ ลักษณะเฉพาะก็คือฉายาพวกเขา  หานเซี่ยวพบข้อได้เปรียบอีกประกานของรางวัลภารกิจนี้ ซึ่งหมายความว่าเขาจะรู้ทันทีว่าใครคืนชีพบ้าง
  ส่วนหนึ่งคือพวกที่ปรากฏระหว่างหายนะของผู้ใช้พลัง ซึ่งหมายความว่าเทพอำนวยได้มีส่วนร่วม ณ เวลานั้น
  หานเซี่ยวนับชื่อและเกาหัว.”จำนวนดูเหมือนจะไม่มาก”
  เขาจำได้ว่าจำนวนของผู้อยู่เหนือที่คืนชีพในอดีตสูงกว่าจำนวนปัจจุบัน
  ปัจจุบัน การแจ้งเตือนที่เขาได้รับเกี่ยวกับความโปรดปรานล้วนมาจากบรรพชน ในเวอร์ชั่นสงครามต้นไม้โลกก่อนหน้านี้ เทพอำนวยไม่เพียงนำบรรพชนที่คืนชีพกลับมา แต่ยังรวมถึงคนอื่นจากประวัติศาสตร์
  อะไรคือสาเหตุที่ทำให้จำนวนคนคืนชีพน้อยลง
  หาเนซี่ยวพลันมีความคิด
  เจซได้เปิดเผยกลไกของการคืนชีพครั้งก่อน ด้วยข้อมูลสำคัญนี้ เขาถึงเข้าใจการเคลื่อนไหวของเทพอำนวยในชีวิตก่อนหน้าเขา
  เทพอำนวยได้คืนชีพกลุ่มบรรพชนก่อนเวอร์ชั่นห้า แต่บางส่วนควรแตกต่าง ดังนั้นจึงแยกทางกันและวิ่งออกไปกระตุ้นให้เกิดหายนะของผู้ใช้พลัง แต่ทว่า พวกเขาไม่ได้เปิดเผยความลับของเทพอำนวย บรรพชนที่เหลือยังอ้อยอิ่งภายในองค์กร ภายใต้การนำของผู้รักษาสัจจะ มันเป็นไปได้ว่าผู้รักษาสัจจะคงพบความลับเบื้องหลังวิหาร ดังนั้นเขาจึงอยากเข้าใจเส้นชีวิตของผู้อยุ่เหนือและพัฒนาในที่ลับ
  ระหว่างีน้ เทพอำนวยต้องได้รับข่าว ช่วยให้พวกเขาฟื้นคืนผู้อยู่เหนือได้เพิ่มและใช้วิธีการบางอย่างเพื่อชักชวนคนอื่นในแผนนี้ จำนวนทั้งหมดที่คืนชีพครั้งนี้จึงไม่เหมือนครั้งก่อน
  เทพอำนวยน่าจะพัฒนาอย่างเงียบๆแบบนี้จนต้นไม้โลกมาเยือน มันเพราะพวกเขาจะได้รับผลกระทบหากอารยธรรมจักรวาลถูกทำลาย พวกเขาจึงเข้าร่วมสงคราม ซึ่งทำให้จักรวาลสำรวจตกใจ
  “โอ้ งั้นมันก็เข้าท่า”
  แบบนี้ ลักษณะของเทพอำนวยในชีิตก่อนหน้าเขาคงคล้ายกับสมาคมผู้อยู่เหนือแบบวันนี้ เตรียมการเพื่ออนาคตของผู้อยู่เหนือ
  “ฉันเดาว่านี่ควรเป็นเนื้อเรื่องในชีวิตก่อนหน้าฉัน”
  ดวงตาของหานเซี่ยวเป็นประกาย
  แม้มันจะเป็นแค่การคาดเดา มันก็รู้สึกว่าเขาอยู่ไม่ไกลจากความจริง
  ผู้รักษาสัจจะรู้ดีถึงกลไกแท้จริงเบื้องหลังการคืนชีพของวิหาร เขากับคาซูยิจึงไม่ใช่แค่สองคนที่รู้ แผนที่เขาตั้งไว้อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ไปถึงระดับที่ลึกขึ้นของความร่วมมือกับเทพอำนวย
  ท่ามกลางพวกเขา ทัศนคติของผู้รักษาสัจจะสำคัญ หานเซี่ยวมีความรู้เกี่ยวกับเขาจำกัด เขาไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร
  ตอนนี้ วิสัยทัศน์ของหานเซี่ยวเต็มไปด้วยไฟสีดำ และรวมกันเป็นร่างคุ้นเคย
  พูดถึงปีศาจ ปีศาจก็มา ฉันยังสงสัยว่าเขาจะมาตอนไหน แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาเร็วขนาดนี้
  อย่างรวดเร็ว ภาพจำแลงจิตของผู้รักษาสัจจะก่อเป็นรูปร่าง พยักหน้าให้หานเซี่ยว
  “เราเจอกันอีกแล้ว แบล็คสตาร์ ฉันกลับมาจากวิหารแล้ว”
  “มันดูเหมือนนายกำลังวางแผนทำตามข้อตกลงของเราในวันนี้”ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย และก็จงใจแสร้งทำเป็นถาม”การคืนชีพสำเร็จไหม?”
  ตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าผู้รักษาสัจจะได้รับข้อมูลมามากแค่ไหน เขาจึงไม่อยากแสดงมันทันที เขาวางแผนสอบสวนผู้รักษาสัจจะด้วยคำพูดเพื่อดูความรู้ของอีกฝ่าย  “มันสำเร็จและราบรื่นดี”ผู้รักษาสัจจะพยักหน้า
  “โอ้ ไม่คิดเลยว่าความคิดนี้จะใช้งานได้จริง มีกี่คนที่คืนชีพมา?”หานเซี่ยวถาม
  “เป็นสิบ”ผู้รักษาสัจจะตอบแบบคลุมเครือ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากเปิดเผยข้อมูลนี้
  “โอ้ จำนวนไม่เลวเลย”หานเซี่ยวรู้ดีถึงตัวเลขอยู่แล้ว เขาจึงไม่รู้สึกสงสัยเมื่อผู้รักษาสัจจะไม่อยากพูดถึง จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่อง”ในวิหารเป็นไง?”
  ผู้รักษาสัจจะครุ่นคิดสักพักก่อนตอบด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ
  “มันดูเหมือนฝัน ด้วยจิตสำนึกเลือนราง ฉันรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับสิ่งต่างๆมากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็ผ่านไปแค่ครู่เดียว สิ่งที่ชัดเจนคือแันอยู่ภายในโลกไร้ขอบเขต กลุ่มแสงนับไม่ถ้วนลอยในวิสัยทัศน์ฉัน ส่วนใหญ่เลี่ยงฉัน ราวกับฉันเป็นตัวน่ารังเกียจ แต่ฉันสามารถเห็นภาพต่างๆในแต่ละกลุ่มแสง”   เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็ลูบคางเขา
  ตามที่เจซพูด กลุ่มแสงน่าจะเป็นรูปแบบข้อมูลที่มีเนื้อหาต่างกัน กลุ่มแสงอาจเป็นตัวแทนของอารยธรรมหรือผู้อยู่เหนือหรือช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์
  “ข้างในมีอันตรายไหม?”
  “เกรงว่าจะมี”
  หานเซี่ยวนิ่งไปสักพักก่อนยิ้ม”มาคุยวิธีการคืนชีพผู้อยู่เหนือของวิหารกันก่อน เราได้ตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วว่านายจะเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทันทีที่แผนลุล่วง นายคงไม่กลับคำพูดหรอกนะ?”
  “แน่นอนว่าไม่ ความเข้าใจเราเกี่ยวกับวิหารเป็นแบบนี้”
  ผู้รักษาสัจจะอุทานว่าในที่สุดโอกาสของเขาก็มาถึงแล้ว
  ตามแผนเขา เขาได้เล่าถึงข้อมูลที่สะสมไว้ แต่ไม่แก้ไขการคาดเดาผิดๆและปกปิดความสามารถคืนชีพซ้ำของวิหาร จงใจอธิบายว่าเป็นวิธีการครั้งเดียว
  คำอธิบายของเขาง่ายมาก จงใจบิดเบือนแนวคิดที่ว่าการคืนชีพเกิดจากการฉายภาพของรูปแบบข้อมูล แทนที่จะอธิบายว่าเป็นการ’ตัดออก’ของข้อมูลเป้าหมายจากวิหาร ทำให้มันหายไป
  ผู้รักษาสัจจะไม่เปิดเผยที่มาและจุดประสงค์เบื้องหลังวิหาร ทิ้งข้อมูลเกี่ยวกับการวนซ้ำจักรวาลและการรีบู้ตครั้งใหญ่ จงใจให้หานเซี่ยวเชื่อผิดๆว่าวิหารมีไว้คืนชีพเท่านั้น
  ผู้รักษาสัจจะพูดพล่ามเรื่องไร้สาระมากมาย ซึ่งแตกต่างจากที่เจซพูด หานเซี่ยวรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติตอนเขาได้ยินมันครึ่งหนึ่ง
  เวอร์ชั่นนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิง หนึ่งในนั้นต้องผิด ตามสถานการณ์ของพันธมิตรดาวสวรรค์และแรงจูงใจของเจซ มันน่าเชื่อถือว่าผู้รักษาสัจจะ
  ดังนั้น ผู้รักษาสัจจะนั้นเข้าใจผิดไปเองหรือเขากำลังโกหก?   เมื่อพิจารณาถึงนิสัยของเทพอำนวยในชีวิตก่อนหน้า เขาน่าจะโกหก!
  หานเซี่ยวหรี่ตาลง
  เขาไม่ได้หักล้างมันทันทีแต่รอจนกระทั่งผู้รักษาสัจจะพูดจบก่อนถอนหายใจ เปลี่ยนเรื่อง”ฉันอยากรู้ นายแค่บอกว่าการดำรงอยู่ของวิหารเกี่ยวกับรูปแบบข้อมูลและการกู้คืนข้อมูลก็ทำได้ นั่นหมายความว่าวิหารควรบันทึกข้อมูลผู้อยู่เหนือทั้งหมดไว้สิ?”
  “มันควรเป็นแบบนั้น”ผู้รักษาสัจจะตอบอย่างระมัดระวัง
  “งั้นฉันอยากรู้ ทำไมวิหารถึงเก็บข้อมูลของผู้อยู่เหนือ?”
  “โอ้ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน”ผู้รักษาสัจจะพยายามควบคุมน้ำเสียง
  หานเซี่ยวแสร้งทำเป็นคิดและขมวดคิ้ว”ฉันรู้สึกว่าวิหารดูเหมือนจะไม่ใช่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติแต่น่าจะเป็นผลงานของใครบางคนหรืออารยธรรมบางแห่งหน้าที่มันไม่ควรอยู่แค่การฟื้นคืนชีพผู้อยู่เหนือ นายคิดว่าไง?”
  “ฉันเองก็ไม่รู้ นี่ไม่ควรเป็นฝีมืออารยธรรม สามอารยธรรมจักรวาลไม่ควรมีความสามารถแบบนั้น และมันก็ยิ่งแปลกหากเป็นอารยธรรมก่อนหน้า มันควรเป็นอวกาศอัศจรรย์”ผู้รักษาสัจจะไม่มีทางเลือกนอกจากเล่นตาม
  เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็ลูบคาง แสร้งทำเป็นวิเคราะห์อย่างจริงจัง”สมมติว่าวิหารเป็นอวกาศอัศจรรย์ในรูปแบบข้อมูล ด้วยหน้าที่บันทึกข้อมูลของผู้อยู่เหนือ งั้น เมื่อผู้อยู่เหนือคืนชีพ ข้อมูลก็จะปรับใหม่?ถ้าเป็นแบบนั้น แม้นายอาจตัดบันทึกต้นฉบับในวิหาร สำเนาใหม่ก็จะถูกวางภายในวิหาร นายก็ยังตัดสำเนาอื่นได้เมื่อเข้าไปครั้งถัดไปสิ?”
  “นี่”
  ผู้รักษาสัจจะรู้สึกโง่เขลา การวิเคราะห์นี้ไม่อนุญาตให้เขาอธิบายได้เลย
  ถ้าเขาคัดค้าน ก็จะไม่มีหลักฐานเพราะเขาเคยไปวิหารแค่ครั้งเดียว แบล็คสตาร์คนนี้คือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างแท้จริง
  แต่ถ้าเขาไม่ปฏิเสธ เขาก็จะทำให้แบล็คสตาร์รู้สึกว่าการคืนชีพของวิหารสามารถทำซ้ำได้ ซึ่งขัดกับเจตนาเขา
  เป็นชายที่หลอกได้ยากมาก!
  หลังคิดถึงมันสักพัก ผู้รักษาสัจจะก็ตอบด้วยน้ำเสียงหดหู่”ฉันยังไม่คิดไปไกลถึงขนาดนั้น”
  หานเซี่ยวหรี่ตา พูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ”งั้น นายก็กำลังโกหกฉันอยู่ มันดูหเมือนฉันต้องทวนข้อตกลงของเรากันใหม่”
  “แค่ก แค่ก ฉันไม่ได้คิดถึงความเป็นไปได้นี้จริงๆ ฉันจะไปโกหกนายได้ไง?”ผู้รักษาสัจจะรีบปกป้องตัวเอง
  “ฮี่ๆ”หานเซี่ยวหัวเราะ นำมือพาดหลังและเดินรอบผู้รักษาสัจจะ”ถ้าฉันเดาไม่ผิด บรรพชนที่คืนชีพมาควรมีพลังลดลงและยังเสียความสามารถบางอย่างไปด้วยสินะ?”   “ถูกต้อง ไม่!นายรู้ได้ไง”
  ผู้รักษาสัจจะเบิกตากว้าง
  มีแค่ผู้อยู่เหนือเหล่านี้ที่คุยกันลับๆ และบรรพชนก็ยังไม่ได้ติดต่อแบล็คสตาร์ ในเวลาแค่สิบกว่านาที แบล็คสตาร์กลับรู้?
  “ฉันรู้มากกว่าที่นายคิด”หานเซี่ยวเดินต่อ”ฉันไม่แน่ใจว่านายเคยได้ยินคำว่า’การรีบู้ตครั้งใหญ่’กับ’การวนซ้ำ’ไหม?”
  ผู้รักษาสัจจะหน้าซีด ก้าวถอยหลัง จ้องหานเซี่ยวอย่างไม่อยากเชื่อ
  “นายรู้เรื่องแบบนี้ได้ยังไง?”
  ทั้งตัวของเขาสั่นสะท้าน สภาวะจิตแหลกเป็นเศษ เขาเสียการควบคุมความสามารถไปชั่วขณะและภาพจำแลงจิตก็ผันผวนอย่างรุนแรง ราวกับเขากำลังจะสลายหายไปได้ทุกเมื่อ
  ผู้รักษาสัจจะโดนระเบิดจิตอีกแล้ว!
  มีแค่เขาที่เข้าวิหารไปครั้งนี้ ไม่มีความเป็นไปได้เรื่องคนทรยศ แล้วแบล็คสตาร์รู้ได้ไง?
  ใครทรยศฉัน หรือฉันทรยศใคร?
  หรือแบล็คสตาร์จะเอาอะไรมาติดตัวฉัน คอยดูทุกการกระทำของฉัน
  ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็ทรยศตัวเอง
  ด้วยความตกใจ ผู้รักษาสัจจะเสียความฉลาดของตนและตัวสั่น ภาพของหานเซี่ยวในหัวของเขายิ่งลึกลับ ยากจะคาดเดา
  ชายคนนี้รู้มากแค่ไหน?เขายังมองออกว่าฉันตอแหล!
  “ฉันเชื่อใจนาย หวังว่านายจะปฏิบัติต่อฉันอย่างจริงใจ แต่มันดูเหมือนนายจะไม่สนใจมิตรภาพที่ฉันหยิบยื่นให้เลย”
  เขาไม่แน่ใจ่ว่าผู้รักษาสัจจะมีข้อมูลมากแค่ไหน แต่เขารู้สึกว่าทุกคนที่เข้าวิหารต้องได้รับแนวคิดพื้นฐานของการวนซ้ำมา และแค่คำพูดส่งๆ มันก็ทำให้อีกฝ่ายตัวสั่นแล้ว
  นี่ดี แบบนี้ ฉันจะเป็นฝ่ายเหนือกว่า
  หานเซี่ยวรักษาท่าทางยิ่งใหญ่ ก้มมองผู้รักษาสัจจะ
  “ทำไม นายคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายคิดอะไร?นายตั้งใจผูกขาดข้อมูลทั้งหมด หลอกให้ฉันมอบทรัพยากรเพื่อช่วยนายเติบโตสินะ?”
  ผู้รักษาสัจจะตาเหลือก
  แผนร้ายทั้งหมดของเขาโดนแบล็คสตาร์มองออก ตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนเขากำลังแก้ผ้าต่อหน้าเขา
  เขาเดาถึงความเป็นไปได้ที่จะหลอกแบล็คสตาร์ไม่สำเร็จไว้ แต่ไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะทำลายเขาด้วยลักษณะนี้ บดขยี้เขาโดยตรง ขุดเอาความลับทั้งหมดออกมา
  ตอนนี้ ผู้รักษาสัจจะยืนเหม่อลอย มีแค่ความคิดเดียวคืออยากขุดหาหลุมกลบฝังตัวเอง