“ไม่ต้องหรอก ในบ้านกำลังยุ่งวุ่นวาย พวกเราจำเป็นต้องกลับไปเร็วที่สุด” มู่หรงเค่อพูด
เฉินกั๋วเหลียงพยักหน้า เขารู้ว่าสองสามคนนี้เป็นคนงานยุ่ง โดยเฉพาะวันแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะเกียรติของเฉินโม่ พวกเขาไม่มีทางเลือกมาวันนี้แน่นอน
“งั้นฉันไม่รั้งทุกท่านไว้ เดินทางปลอดภัย!” เฉินกั๋วเหลียงประสานกำปั้นคารวะพูดขึ้น
“ลาก่อน!”
มู่หรงเค่อพามู่หรงยานเอ๋อร์ที่กลัดกลุ้มใจกลับไป จินโจงรุ่นและคนอื่นๆ ก็ออกไปพร้อมกัน ประตูตรงหน้าเฉินจินเย่กลับไปเงียบเชียบในทันที
แต่ว่าไม่มีผู้ใดที่กล้าเหน็บแนมเฉินจิงเย่อีกต่อไป ทุกคนในตระกูลเฉินท่าทางเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เข้ามาหาเฉินจิงเย่กระชับความสัมพันธ์ พยายามทำดีด้วย
แม้แต่เย่เจิ้งฉีกับนายกฯจ้าวก็ไม่เว้น
“น้องจิงเย่ ฉันดื่มให้นายแก้วหนึ่ง พวกเราไม่ได้คุยกันดีๆ มานานหลายปีแล้ว วันนี้พวกเราไม่เมาไม่กลับ!” เฉินตงเย่ว์เป็นฝ่ายพูดขึ้น
“พี่จิงเย่ ฉันก็ดื่มให้กับพี่!” เฉินตงหวายิ้มพูด
“พี่เฉิน พวกเราก็ดื่มให้กับพี่แก้วหนึ่ง!”
ชั่วเวลาหนึ่ง เฉินจิงเย่ยุ่งจนปลีกตัวออกมาไม่ได้
เฉินกั๋วเหลียงเห็นภาพนี้ ดีใจจนหัวเราะเสียงดัง “ตระกูลเฉินกำเนิดผู้เก่งกาจ ตระกูลเฉินของฉันกำเนิดผู้เก่งกาจแล้ว!”
เฉินควาง เฉินเหล่ยและคนอื่นๆ เห็นภาพนี้ สีหน้ากลับเคร่งขรึม ถึงแม้ในใจจะไม่ยินดี แต่ตอนนี้พวกเขาแม้แต่จะกล่าวร้ายเฉินโม่ก็ไม่กล้า
ยศพลตรี ประเทศเชื้อเชิญ สวามิภักดิ์ผู้ยิ่งใหญ่สี่มณฑล ความรุ่งโรจมากมายเช่นนี้ ปรากฎขี้นบนตัวของวัยรุ่นคนหนึ่งที่อายุไม่ถึงยี่สิบปี
หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง อยากถามว่าใครจะเชื่อ?
“เป็นเพราะเหตุใดกันแน่นะ? เฉินโม่เขามีสิทธิ์อะไรกันแน่?” เฉินควางคำรามในใจ ถึงแม้ตอนนี้เฉินโม่ทำให้ทั้งตระกูลเฉินมีเกียรติ แต่เฉินควางยังคงปล่อยวางไม่ได้
เพียงแต่ตอนนี้กำลังของตระกูลเฉินที่ต่อต้านเฉินโม่ไม่เท่ากับเมื่อก่อนแล้ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ถึงแม้เฉินควางเกลียดชังเฉินโม่ แต่เขาทำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ แม้กระทั่งไม่กล้าเปิดเผยออกมา ด้วยอำนาจและอภิสิทธิ์ของเฉินโม่ภายในตระกูลเฉินตอนนี้ หากเขาเปิดเผยความเกลียดชังที่มีต่อเฉินโม่ เกรงว่าจะถูกหลายๆ คนด่าทอในทันที
เฉินเข่อซินยืนอยู่ตรงที่เดิม เธอได้ยินเฉินเสี่ยวหยู่และคนอื่นๆ วิพากษ์วิจารณ์เธอเสียงเบา “คราวนี้ดีเลย จู่ๆ เฉินโม่เก่งกาจแบบนี้ เข่อซินจะต้องเสียใจกับการเลือกของตัวเองอย่างแน่นอน!”
“หึ นี่คือกรรมตามสนอง ใครใช้ให้เธอเลือกปฏิบัติแบบนั้นล่ะ? ต่อให้แยกจากกับเฉินโม่ เธอก็ไม่ต้องเล่นงานเฉินโม่เพื่อเอาใจตระกูลหลี่ บางทีตอนนี้อาจจะยังย้อนคืนกลับได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างสายไปแล้ว เดาว่าคนที่ตระกูลเฉินเฉินโม่เกลียดที่สุดก็คือเธอ ต่อไปพวกเราอยู่หางจากเธอหน่อย!”
จู่ๆ เฉินเข่อซินอยากร้องไห้ หลายปีมานี้ร้องไห้ความคิดนี้ไม่เคยเกิดขึ้นบนตัวเฉินเข่อซิน ถึงแม้นี่จะเป็นสิทธิ์ของผู้หญิง แต่ว่าตอนนี้เฉินเข่อซินกลับอยากร้องไห้ หาที่ซึ่งไร้ผู้คนร้องไห้อย่างหนัก
“บางทีนี่คงจะเป็นกรรมตามสนอง ถ้าหากตอนแรกฉันไม่ตั้งใจเอาอกเอาใจตระกูลหลี่แล้วเล่นงานเขา บางทีตอนนี้พวกเรายังอาจจะเป็นเพื่อนกันได้ ถ้าหากเธอไม่ได้ทอดทิ้งเขา บางทีวันนี้ความรุ่งโรจน์เหล่านั้นของเขาก็เป็นของเธอครึ่งหนึ่ง…”
เพียงแต่ทุกอย่างสายไปแล้ว โลกนี้ ถึงที่สุดก็ไม่มียาแก้รักษาโรคเสียใจภายหลัง
สถานะของเฉินโม่ในตระกูลเฉินยกระดับขึ้น สาวน้อยเฉินเข่อเอ๋อร์ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ แต่ต่อมาเฉินเข่อเอ๋อร์ก็กลุ้มใจ เฉินโม่กลายเป็นลูกรักตระกูลเฉิน งั้นต่อไปเวลาที่อยู่กับเธอต้องน้อยลงแน่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่สาวน้อยอยากจะเห็น
เฉินโม่ออกไปกับเจียงเหอซาน ขึ้นรถพิเศษของเจียงเหอซาน
ทั้งสองนั่งตรงที่นั่งด้านหลัง เจียงเหอซานพูด “มีคำถามอะไรจะถามก็ถามมาเถอะ!”
เฉินโม่ส่ายหน้า สีหน้าเรียบเฉย “ไม่มีคำถาม”
สำหรับเฉินโม่นั้น บนโลกนี้มีเพียงแค่ทำหรือไม่ทำ ไม่มีทำได้หรือทำไม่ได้ ดังนั้นเขาไม่ต้องการถามอะไร และก็ไม่อยากถาม
เฉินโม่ไม่ถามก็ได้ แต่เจียงเหอซานกลับไม่พูดไม่ได้
“ครั้งนี้ที่ฉันหาคุณ อันที่จริงไม่เพียงให้คุณช่วยพวกเราทำภารกิจง่ายๆ แค่นั้น สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือสถานที่นั้นบางทีอาจจะมีสิ่งที่นายต้องการ”
เฉินโม่ไม่สะทกสะท้าน สีหน้ายังคงเรียบเฉย “คุณจะให้ฉันไปที่ไหน?”
“สมรภูมิห้าประเทศ” น้ำเสียงของเจียงเหอซานเคร่งขรึม เหมือนกับยำเกรงสถานที่นั้นเป็นอย่างมาก