เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 978
ตามเย่เมิ่งเหยียนกับหยางพั่นพั่นออกไปยังมีคนนับพันติดตามคุ้มครอง!
รับรองความปลอดภัยของเย่เมิ่งเหยียนแม่ลูก!
หลังมองเห็นเย่เมิ่งเหยียนออกไปแล้ว
หยางเฟิงหันหน้า สายตาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาแล้วในพริบตาเดียว
สองดวงตาของเขาจ้องมองผู้คุมกฎเก้าอยู่นิ่ง ๆ
จากนั้นเดินแต่ละก้าวหันไปทางเขา
ในเวลาเดียวกัน
ผู้คุมกฎเก้าก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว
สีหน้าของเขาขาวซีดมากไม่มีสีเลือดแม้แต่นิด
น้ำเหงื่อที่ใหญ่เท่าเมล็ดถั่วได้ลื่นตกลงมาจากหน้าผากของเขาอย่างต่อเนื่อง
ผู้คุมกฎเก้ามองหยางเฟิงอยู่ พูดด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อ“นายทำลายวิชาการต่อสู้ของฉันแล้ว?”
ที่แท้
เมื่อกี้
หมัดหนึ่งของหยางเฟิงต่อยไปบนท้องน้อยของผู้คุมกฎเก้า ทำให้จุดหัวเน่าของเขาแตกละเอียดเลยทันทีแล้ว
นักบู๊สูญเสียจุดหัวเน่าไป วิชาการต่อสู้ในร่างกายทั้งหมดก็สูญหายตามไปด้วย
สำหรับนักบู๊คนหนึ่งแล้ว
ไม่มีเรื่องอะไรที่ยิ่งเจ็บปวดทรมานมากกว่าทำลายวิชาการต่อสู้แล้ว
เพราะทำลายวิชาการต่อสู้ก็เท่ากับไม่มีการฝึกฝนอย่างหนักนับสิบปี
อีกทั้งนักบู๊คนหนึ่งก็มีศัตรูบ้างไม่มากก็น้อย
ถ้าสูญเสียวิชาการต่อสู้ไปแล้ว
ก็หมายถึงกลายเป็นแกะที่รอการเชือดตัวหนึ่ง ให้คนฆ่าเชือดได้ตามสบาย!
หยางเฟิงมาถึงด้านหน้าของผู้คุมกฎเก้าแล้ว มองเขาอยู่จากที่สูงลงที่ต่ำ
กลิ่นไอการฆ่าที่น่ากลัวหนึ่งได้ปกคลุมผู้คุมกฎเก้าในพริบตา
รับรู้ถึงกลิ่นไอการฆ่าที่น่ากลัวบนตัวของหยางเฟิงที่กระจายออกมา
ทั้งตัวของผู้คุมกฎเก้าก็สั่นเทาขึ้นมาอย่างรุนแรง
เขามองหยางเฟิงอยู่ พูดกัดฟัน“นายต้องการฆ่าฉันเหรอ?ต้องการฆ่าก็ฆ่าเถอะ ถึงยังไงฉันก็รู้นานแล้วว่าตัวเองจะมีวันนี้!”
ไม่ว่าใครคนที่เข้าร่วมกุ่ยเหมินต่างก็รู้ การตายถึงเป็นตอนจบสุดท้ายของพวกเขา
อยากที่จะจบดี ๆ ?
นี่โดยพื้นฐานแล้วคือไม่มีทาง!
เพราะการต่อสู้ของกุ่ยเหมินโหดร้าย
คนส่วนมากต่างก็จะตายอย่างน่าสังเวช!
หยางเฟิงมองผู้คุมกฎเก้าลึก ๆ แวบหนึ่งแล้ว จากนั้นส่ายหน้าพูดแล้ว“วางใจ ฉันจะไม่ฆ่านาย!เพราะฆ่านายแล้วจะทำให้มือของฉันสกปรก!”
ได้ยิน
ในใจของผู้คุมกฎเก้าทันใดนั้นก็โล่งอกแล้ว
ถึงแม้เขาไม่กลัวตาย
แต่ก็ไม่ได้หมายถึงเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่
มดสัตว์เล็ก ๆ ยังรักชีวิต ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคน?
“อีกทั้งนายสภาพอย่างนี้กลับไปถึงกุ่ยเหมิน น่าจะยิ่งรับได้ยากกว่าตายใช่ไหม?”
หยางเฟิงมองผู้คุมกฎเก้าด้วยใบหน้าที่หยอกล้อ
ได้ยินคำพูดนี้
สีหน้าของผู้คุมกฎเก้าก็น่าเกลียดขึ้นมามาก
ส่วนในของกุ่ยเหมินเดิมทีก็แข่งขันกันอย่างรุนแรงมาก
ระหว่างผู้คุมกฎใหญ่แต่ละคนก็คือต่อสู้กันอย่างลับ ๆ
เมื่อก่อนเขาไม่ได้สูญเสียวิชาการต่อสู้ยังสามารถยืดเวลารับมือกับฝ่ายตรงข้ามได้
ตอนนี้เขาสูญเสียวิชาการต่อสู้กลับไปถึงกุ่ยเหมิน ที่เคยเป็นศัตรูเหล่านั้นจะปล่อยเขาเหรอ?
จะไม่อย่างแน่นอน!
เกรงว่าหลังกลับไป เขารับได้ยากยิ่งกว่าตาย!
แต่ไม่กลับไปก็ไม่ได้
เพราะกุ่ยเหมินเคร่งครัดมากกับการปฏิบัติต่อคนทรยศ
ถ้าหากผู้คุมกฎเก้ากล้าทรยศกุ่ยเหมิน
พอถูกจับได้
งั้นก็คืออยากตายก็ตายไม่ได้ อยากมีชีวิตอยู่ก็อยู่ไม่ได้จริง ๆ !
ผู้คุมกฎเก้าพูดถามอย่างกัดฟัน“สรุปแล้วนายต้องการทำอะไร?”
เขามองหยางเฟิงอยู่ด้วยใบหน้าที่อาฆาตพยาบาท
เวลานี้เขาถึงพบว่าหยางเฟิงก็คือปีศาจตัวหนึ่ง
ไม่ฆ่าเขายังรับได้ยากกว่าฆ่าเขาแล้ว!
“ง่ายมาก!”
“ฉันต้องการให้นายกลับไปบอกหัวหน้าสำนักกุ่ยเหมินของพวกนาย ให้เขาล้างคอให้สะอาดรอฉัน!”
พูดจบ
กลิ่นไอการฆ่าที่น่ากลัวของคลื่นที่โหมกระหน่ำพุ่งเสียดฟ้าเหมือนสินามึอย่างนั้น หันพุ่งมาทางผู้คุมกฎเก้าอย่างบ้าคลั่ง
พู่!
ผู้คุมกฎเก้ารับกลิ่นไอฆ่าที่น่ากลัวอย่างนี้ไม่ไหว พ่นเลือดสดออกมาแล้ว
แต่เขายังคงฝืนเงยหน้าขึ้น มองหยางเฟิงอยู่ด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อ
เขาคิดไม่ถึงว่าหยางเฟิงจะบ้าคลั่งอย่างนี้?
คิดไม่ถึงยังคิดฆ่าหัวหน้าสำนักกุ่ยเหมิน?