กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1238
แคลร์พูดด้วยเสียงกระวนกระวายเล็กน้อย “ฉันเกรงว่าจะขับรถพวกนี้ได้ไม่ดี รถพวกนี้มีเครื่องยนต์ที่ทรงพลังมาก ฉันเลยกลัวว่าจะควบคุมไม่อยู่ แล้วทำให้เกิดอุบัติเหตุ ถ้าฉันทำให้รถของพวกเขาเป็นรอยขึ้นมา นั่นต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่”
ชาร์ลีพูดพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยน “ไม่ต้องกังวลนะที่รัก คุณไม่ต้องสร้างความลำบากให้ตัวเองมากก็ได้ คิดว่ารถสองคันนี้เป็นรถของเราก็แล้วกันนะ”
แคลร์พูดขึ้นว่า “คุณควรสอนฉันขับรถพวกนี้ก่อนนะคะ ปุ่มไหนทำหน้าที่อะไรบ้าง และอื่น ๆ ด้วย”
ชาร์ลีพยักหน้า “ได้เลยครับ มานี่สิ ผมจะสอนคุณขับรถบูกัตติคันนี้ให้แล้วกันนะ”
ในขณะนี้รถเบนท์ลีย์รุ่นใหม่ล่าสุดได้แล่นเข้ามาที่คฤหาสน์ธอมป์สัน เฟิร์สท์
คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยคือ แฮโรลด์ซึ่งสวมชุดสูทสุดเท่ที่ดูไม่เข้ากับใบหน้าที่ชวนขนลุกของเขาเลย
คริสโตเฟอร์ผู้เป็นพ่อของเขานั่งอยู่ตรงเบาะข้างคนขับ
คุณท่านวิลสันและเวนดี้นั่งอยู่ตรงเบาะแถวหลัง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตระกูลเว็บบ์ได้โอนเงินเข้าบัญชีของตระกูลวิลสันตามที่สัญญาไว้ พวกเขาจึงนำเงินก้อนนั้นไปชำระเงินกู้ของวิลสัน กรุ๊ปที่เป็นหนึ้กับธนาคารอยู่ ดังนั้นบริษัทของพวกเขาจึงได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ รวมทั้งยังได้คฤหาสน์หลังเดิมและโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่ถูกธนาคารยึดไปคืนกลับมาด้วย
ครอบครัววิลสันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากในการฟื้นคืนกลับมาของวิลสัน กรุ๊ป
แฮโรลด์ไม่ได้สัมผัสชีวิตของเด็กเหลือขอผู้แสนร่ำรวยมานานแล้ว เขาจึงเร่งเร้าให้คุณย่าของเขาใช้เงินทุนของบริษัท ในการซื้อรถหรูมาเพื่อเป็นการเสริมภาพลักษณ์ให้กับครอบครัว
ในยุครุ่งเรืองของพวกเขาก่อนหน้านี้ รถยนต์ที่ดีที่สุดของตระกูลวิลสันก็คือ เมอร์เซเดส เบนซ์ เอส 450 ที่คุณท่านวิลสันใช้อยู่ โดยมีราคาอยู่ที่ราว ๆ 1.5 ล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกันรถของคริสโตเฟอร์คืออาวดี้ เอ8 ส่วนรถของแฮร์โรลด์คือบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นเก่า
ในตอนแรกครอบครัวสัญญาว่าจะให้รถที่ดีกว่านี้กับเขา แต่ดันมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อครอบครัวต้องพบกับความวุ่นวายครั้งใหญ่โดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งนอกจากจะเปลี่ยนรถใหม่ให้ไม่ได้แล้ว รถบีเอ็มดับเบิลยูคันนั้นยังถูกธนาคารยึดไปด้วย
แฮโรลด์รู้ว่าสิ่งแรกที่เขาต้องทำเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงให้กับตัวเอง และทำให้คนอื่น ๆ หันมามองเขาอย่างชื่นชมอีกครั้งก็คือ… การมีรถดี ๆ สักคัน
ด้วยความที่เขาไม่สามารถแบกคฤหาสน์ธอมป์สัน เฟิร์สท์ออกไปไหนต่อไหนกับเขาได้ สิ่งแรกที่ผู้คนจะสังเกตเห็นก็คือ รถยนต์แบบไหนที่เขาใช้ขับไปบนท้องถนน
หลังจากใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมานาน คุณท่านวิลสันก็แทบรอไม่ไหวที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตของคนรวยแบบเดิม เธอจึงรีบตกลงทำตามคำของแฮโรลด์ทันที และซื้อรถเบนท์ลีย์ คอนติเนนตัลมาในราคา 3 ล้านดอลลาร์
แฮโรลด์ไม่เคยขับรถราคาแพงขนาดนี้มาก่อน เขาจึงยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกไปถึงใบหูในขณะที่ขับรถจากโชว์รูมรถยนต์กลับไปที่วิลล่า
ในขณะนั้นคุณท่านวิลสันนั่งอยู่ตรงเบาะหลังของรถอันหรูหรา โดยใช้มือลูบไล้ไปตามงานตกแต่งภายในที่บุด้วยหนังแท้แบบงานฝีมือ แล้วร้องอุทานว่า “ว้าว! นี่เป็นรถที่ดีมากจริง ๆ รถเบนท์ลีย์คันนี้ดีกว่ารถเบนซ์ที่ฉันเคยมีเยอะเลย!”
แฮโรลด์พูดว่า “คุณย่าครับ รถเบนท์ลีย์นั้นมีราคาถูกกว่ารถโรลส์-รอยซ์อีกนะครับ ทำไมเราไม่ซื้อรถโรลส์-รอยซ์มาใช้กันหลังจากนี้ล่ะครับ”
คุณท่านวิลสันพูดอย่างเคืองขุ่น “รถโรลส์-รอยซ์คันละตั้งเจ็ดแปดล้าน ยังเร็วเกินไปที่จะซื้อรถโรลส์-รอยซ์มาขับกัน สิ่งสำคัญสำหรับพวกเราในตอนนี้ก็คือการทำให้วิลสัน กรุ๊ปฟื้นคืนกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว และสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้”
แฮโรลด์รีบชี้แจงถึงตัวเอง “คุณย่าครับ ผมอยากจะเย้ยหยันชาร์ลีและครอบครัวนั้นด้วย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในวิลล่าธอมป์สัน เฟิร์สท์ในตอนนี้ แต่ยังใช้รถซอมซ่ออย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ที่มีราคาไม่ถึงหนึ่งล้านดอลลาร์อยู่เลย ซึ่งราคาของรถสองคันนั่นยังถูกกว่ารถเบนท์ลีย์ของเราถึงสามเท่า ถ้าเรามีรถโรลส์-รอยซ์ราคาเจ็ดแปดล้านดอลลาร์ ก็จะขับไปเย้ยหยันถึงบ้านพวกเขาได้!”
เวนดี้พูดว่า “แฮโรลว์ เราไม่จำเป็นต้องมีรถโรลส์-รอยซ์เพื่อไปเย้ยหยันพวกเขาหรอก! รถเบนท์ลีย์คันเดียวก็เกินพอแล้ว!”
“ถูกต้องแล้ว!” คุณท่านวิลสันพ่นเสียงอย่างไม่พอใจ “แฮโรลด์ขับตรงไปที่บ้านพวกนั้นเลย ฉันอยากไปเยาะเย้ยพวกเขาหน่อย! ตอนที่ฉันขอให้พวกเขากลับไปที่วิลสัน กรุ๊ป พวกเขาทำเหมือนจะเป็นจะตาย… ไม่ยอมกลับท่าเดียว ตอนนี้วิลสัน กรุ๊ปฟื้นกลับมาใหม่แล้ว ฉันอยากจะเห็นนักว่าพวกเขาจะรู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจผิดกันขนาดไหน!”