ตอนที่ 2879 สมบัติจำนวนมหาศาล

ระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นที่ได้รับโทเค่นลอร์ดผู้ปกครองเมืองหินโบราณ คุณต้องการผูกมัดโทเค่นลอร์ดผู้ปกครองเมืองเข้ากับคุณหรือไม่ ? เมื่อผูกมัดโทเค่นลอร์ดผู้ปกครองเมืองเข้ากับตัวเองแล้ว ผู้เล่นก็จะสามารถเข้าควบคุมทุกอย่างของเมืองหินโบราณได้

ซือเฟิงก็ได้เลือกที่จะผูกมัดโดยไม่ลังเลทันที

ระบบ : หากการผูกมัดสำเร็จ ผู้เล่นจะได้รับสิทธิ์ทั้งหมดในการจัดการเมืองหินโบราณภายในสี่ชั่วโมง ซึ่งในช่วงเวลานี้ผู้เล่นจะต้องไม่ออกจากเมืองหินโบราณไปไกลเกินรัศมีหนึ่งพันหลา หากผู้เล่นออกไปไกลจากระยะนี้หรือถูกฆ่า การผูกมัดจะถูกยกเลิกทันที และจะต้องรอคูลดาวน์ก่อนจะผูกใหม่ได้เป็นเวลาหนึ่งวัน

“สี่ชั่วโมง ?” ซือเฟิงมองไปที่เวลาด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “นี่คุณอัพเกรดเมืองหินโบราณมาเป็นเมืองหลักแล้วงั้นหรอ ?”

โดยทั่วไปแล้ว หลังจากได้รับโทเค่นลอร์ดผู้ปกครองเมืองมานั้น ระยะเวลาการผูกมัดมันก็จะขึ้นอยู่กับระดับของเมือง และเวลาสี่ชั่วโมงนี้มันก็เท่ากับว่าเมืองหินโบราณนั้นเป็นเมืองระดับเมืองหลักแล้ว

เนื่องจากเวลาที่ต้องใช้ในการผูกมัดโทเค่นลอร์ดผู้ปกครองเมืองของเมืองหลักนั้นจะอยู่ที่ราวสี่ถึงหกชั่วโมง

“หัวหน้ากิล มีอะไรงั้นหรอ ?” ไฟเออร์แดนซ์ที่สังเกตเห็นท่าทางประหลาดใจของซือเฟิง อดไม่ได้ที่จะถามเขาอย่างสงสัย

“ไม่มีอะไรหรอก แค่เมืองหินโบราณมันพิเศษเกินกว่าที่ฉันคาดไว้ไปหน่อยน่ะ …” ซือเฟิงมองไปที่จักรพรรดิอสูรที่มีท่าทีโกรธเกรี้ยวด้วยรอยยิ้ม “อย่างไรก็ตามเราต้องรอที่นี่เป็นเวลาสี่ชั่วโมง ดังนั้นในระหว่างนี้เราลองเข้าไปดูที่ดินแดนลับของเทพปีศาจกันดีกว่า …”

“แบล๊คเฟรม คุณจะมั่นใจและภูมิใจต่อไปได้อีกไม่นานหรอก !!! แม้ว่าคุณจะได้รับเมืองหินโบราณมา แต่คุณก็จะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากดินแดนลับของเทพปีศาจได้แน่นอน หากฉันไม่บอกวิธี …. และหากคุณฝืนเข้าไปภายในนั้นด้วยตัวเองนั้น คุณก็จะต้องเผชิญหน้ากับความยากที่ท้าทายสวรรค์ ซึ่งนี่มันจะทำให้คุณไม่ได้รับอะไรกลับมาแน่นอน …” จักรพรรดิอสูรกล่าวพลางมองไปยังซือเฟิงด้วยความเย่อหยิ่ง “ในทางตรงกันข้าม ฉันจะให้วิธีการเข้าสู่ดินแดนลับของเทพปีศาจแก่ศัตรูของคุณทั้งหมด รวมไปถึงกลุ่มมหาอำนาจจากโลกอื่นบางส่วนด้วย และทีนี้คุณก็จะทำได้แค่ยืนดูพวกเขาปล้นสมบัติจากดินแดนลับของเทพปีศาจไป !!!”

หลังจากเข้ายึดเมืองหินโบราณได้ จักรพรรดิอสูรก็รู้ดีว่าซือเฟิงได้สร้างความหวาดหวั่นไปทั่วทั้งทวีปหลักของ God domain แล้ว และมันก็จะมีมหาอำนาจในทวีปหลักแค่ไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา อย่างไรก็ตามสำหรับพวกกลุ่มคนจากโลกอื่นนั้นมันแตกต่างออกไป และในตอนนี้เขาก็สามารถบอกได้เลยว่าพวกนั้นมองซือเฟิงเป็นหนามหยอกอกชิ้นใหญ่แล้ว

และเขามั่นใจว่าตราบใดที่กองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่นเริ่มเคลื่อนไหวนั้น ไม่ใช่แค่เพียงอาณาจักรสตาร์มูน แต่รวมไปถึงจักรวรรดิออร์คด้วยที่จะถูกยึดครองอย่างแน่นอน โดยเมื่อถึงเวลานั้นกองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่นก็จะเข้ามาฉกฉวยผลประโยชน์ทั้งหมดของดินแดนลับของเทพปีศาจไป และซือเฟิงก็จะไม่สามารถทำอะไรได้

อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ไม่ได้สนใจคำพูดของจักรพรรดิอสูรแม้แต่นิดเดียว และเขาก็ได้นำสมาชิกสภาสิบแปดปีกเข้าไปยังพื้นที่ที่เคยเป็นสถานที่พักกิลของมือแห่งนักบุญอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าเมืองหินโบราณนั้นจะเหลือเพียงแต่ซากปรักหักพัง และสถานที่พักกิลของมือแห่งนักบุญนั้นก็ได้ราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว แต่คลังกิลซึ่งอยู่ในชั้นใต้ดินสองชั้นใต้สถานที่พักกิลนั้นมันก็ยังไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

ซึ่งเมื่อซือเฟิงและคนอื่นๆมาถึงนั้น พวกเขาก็ได้การจัดการกวาดล้าง NPC ขั้นสาม และขั้นสี่ที่ทำหน้าที่เป็นทหารเฝ้าคลังออกไปอย่างรวดเร็ว ….

หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เปิดเข้าไปในคลังกิลของมือแห่งนักบุญ ซึ่งเมื่อสมาชิกสภาสิบแปดปีกได้เห็นไอเทมทั้งหมดที่อยู่ภายในคลังนั้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะน้ำลายไหล ….

คลังกิลซึ่งมีขนาดเท่ากับสนามกีฬาสองแห่งนั้นเต็มไปด้วยไอเทมต่างๆ แถมมันก็ยังมีกองเหรียญทอง และกองคริสตัลเวทย์มนต์อีกจำนวนมาก ซึ่งจากการคำณวนคร่าวๆนั้นมันก็น่าจะมีเหรียญทองอยู่ในคลังนี้ราวสามล้านเหรียญทองเลย ขณะที่ในส่วนของคริสตัลเวทย์มนต์นั้นมันก็น่าจะมีอยู่มากกว่าสี่ล้านชิ้น ปริมาณของเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์ในคลังกิลของมือแห่งนักบุญนั้นไม่ได้ด้อยกว่าสภาสิบแปดปีกมากนักเลย

“พวกเรารวยแล้ว !!! หัวหน้ากิลเรารวยแล้ว !!!” ไฟเออร์แดนซ์มองไปยังฉากตรงหน้า และก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น “ตอนแรกฉันก็กังวลเกี่ยวกับการอัพเกรดสิ่งก่อสร้างต่างๆในเมืองของเราให้มีระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งการขยายตัวอย่างกระทันหันของกิล เพราะนี่มันจะนำมาซึ่งการใช้จ่ายที่ตึงมือมากๆของเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์ของกิลเรา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ต้องกังวลแล้ว !!!”

การเปิดเมืองสภาสิบแปดปีกให้สาธารณชนทั่วไปเข้าได้นั้นมันได้สร้างรายได้ให้กับสภาสิบแปดปีกอย่างมากมาย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับความต้องการหลายด้านของสภาสิบแปดปีกแล้ว นี่มันยังคงจัดว่ายังไม่เพียงพอ ดังนั้นไฟเออร์แดนซ์ผู้ซึ่งทำหน้าที่จัดการสภาสิบแปดปีกในช่วงนี้จึงปวดหัวกับเรื่องนี้มากๆ

เนื่องจากการเปิดเมืองสภาสิบแปดปีกให้สาธารณชนทั่วไปเข้าได้นั้นมันก็นำมาซึ่งการที่ต้องวุ่นวายกับเรื่องการรักษากฎหมายและความปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้นเมืองสภาสิบแปดปีกจึงจำเป็นจะต้องรับสมัครทหาร NPC เข้ามาเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก และพวกเขาก็จะต้องพยายามเติมเต็มช่องว่างสามหมื่นคนให้ได้

และหากพวกเขาต้องการจะการันตีความปลอดภัยให้กับเมืองสภาสิบแปดปีกนั้น พวกเขาก็จำเป็นจะต้องรับสมัคร NPC ขั้นสามที่มีเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบหรือสูงกว่าทั้งหมด ซึ่งค่าใช้จ่ายรายวันที่เป็นค่าจ้างของ NPC พวกนี้นั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องตลกเลย โดยมันอยู่ที่ราวห้าเหรียญทองต่อคนต่อวัน

ซึ่งคิดกันง่ายๆหากพวกเขารับสมัคร NPC ขั้นสามแบบนี้มาสามหมื่นคน พวกเขาก็จะมีค่าใช้จ่าย หนึ่งแสนห้าหมื่นเหรียญทองต่อวัน ….

ใช่แล้ว !! หนึ่งแสนห้าหมื่นเหรียญทองต่อวัน !!!

โดยนี่ยังไม่ได้นับรวมราคาค่าจ้างของ NPC ขั้นสี่ และค่าอาวุธกับอุปกรณ์ของทหาร NPC ทั้งหมดในเมืองเลยด้วยซ้ำ ….

ดังนั้นหลังจากเปิดเมืองสภาสิบแปดปีกให้สาธารณชนทั่วไปเข้าได้นั้น ค่าใช้จ่ายของกิลจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน และมันทำให้กิลนั้นสามารถเก็บทั้งคริสตัลเวทย์มนต์ และเหรียญทองเป็นทุนสำรองได้น้อยลง

แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาได้รับเงินมาราวสามล้านเหรียญทอง พร้อมกับคริสตัลเวทย์มนต์อีกมากกว่าสี่ล้านชิ้นจากคลังกิลของมือแห่งนักบุญนั้น มันก็จะทำให้พวกเขาขยับตัวในหลายสิ่งได้ง่ายขึ้นมากๆ

เมื่อมองไปที่ท่าทีที่มีความสุขของไฟเออร์แดนซ์นั้น ซือเฟิงก็ไม่ได้เลือกจะพูดอะไรต่อ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเขาอยากจะบอกว่าเดี๋ยวทั้งหมดนี้จะต้องถูกใช้ไปในการสร้างเมืองหินโบราณขึ้นใหม่แน่นอน และเผลอๆค่าใช้จ่ายมันอาจมากกว่าที่พวกเขาได้รับมาด้วยซ้ำ ….

“หัวหน้ากิล มาดูนี่สิ !!! พวกนี้มันคือคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ทั้งหมดเลย !!!” แบล๊คกี้ที่ได้ทำการเปิดหีบสมบัติขนาดใหญ่ที่มีขนาดสูงกว่าคนๆหนึ่งกล่าวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “จำนวนของมันมีมากกว่าห้าหมื่นชิ้นเลย !!! ซึ่งนี่มันเพียงพอจะนำมาใช้ในปฎิบัติการหลายสิ่งของสภาสิบแปดปีกเราไปได้อีกระยะหนึ่งเลยทีเดียว !!!”

ในระหว่างที่ซือเฟิงไปจัดการงานที่ทวีปด้านตะวันตกนั้น แบล๊คกี้ได้รับเควสที่ต้องใช้คริสตัลเจ็ดลูมินาลี่จำนวนมาก ซึ่งนี่ส่งผลให้คริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ในคลังกิลของสภาสิบแปดปีกนั้นลดลงไปในอัตราที่มองเห็นได้ชัด โดยตอนนี้มันก็เหลืออยู่แค่ราวสามหมื่นชิ้นเท่านั้นด้วย ซึ่งหากไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้สภาสิบแปดปีกผูกขาดหุบเขาอาร์กติกแกรนด์ไว้ได้ พวกเขาก็คงจะไม่มีคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่มากขนาดนี้ด้วย ….

แต่ตอนนี้พวกเขากับค้นพบคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่มากกว่าห้าหมื่นชิ้นในคลังกิลของมือแห่งนักบุญ ซึ่งนี่มันนับว่าเป็นโชคดีอย่างแน่นอน !!!

“แค่นั้นยังเบาะๆน่าแบล๊คกี้ !!! มาดูตรงนี้ดีกว่า เดี๋ยวฉันจะให้นายดูเองว่าความมั่งคั่งที่แท้จริงคืออะไร !!!” โคล่าที่อยู่ไกลออกไปชี้ไปยังกองหีบสมบัติจำนวนมากที่กองกันเป็นภูเขาด้านหน้าเขา “หีบสมบัติด้านหน้าของฉันนี้มันเต็มไปด้วยวัสดุระดับอีปิคหรือดีกว่าขึ้นไปทั้งหมด ซึ่งจากการคาดการณ์คร่าวๆของฉันมันมีวัสดุระดับอีปิคอยู่มากกว่าสามแสนชิ้นเลย และมันก็ยังมีวัสดุที่เป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานที่อ่อนแออยู่มากกว่าสองหมื่นชิ้น แถมมันก็ยังมีวัสดุระดับตำนานอีกมากกว่าสามพันชิ้น”

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของโคล่านั้น พวกเขาก็ล้วนตกตะลึงกันอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่ซือเฟิง ….

นี่มันแทบจะเทียบเท่ากับขุมทรัพย์ของอาณาจักรขั้นสูงหนึ่งแห่งเลยนะ !!!

แม้แต่อาณาจักรทั่วไปก็เทียบกับมือแห่งนักบุญไม่ได้แน่นอนในเรื่องนี้ และเท่าที่ดูมันก็คงจะมีแต่อาณาจักรขั้นสูง หรือเหนือกว่าขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถเทียบได้

ขณะเดียวกันจักรพรรดิอสูรที่ถูกพันธนาการไว้นั้นก็มีใบหน้า และดวงตาที่แดงก่ำมากๆ

วัสดุเหล่านี้นั้นล้วนเป็นวัสดุที่เขาเก็บเล็กผสมน้อยมาจากการให้กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint เข้าโจมตีและยึดอาณาจักรต่างๆ โดยกว่าจะได้วัสดุทั้งหมดนี้มานั้นเขาก็ต้องทำลายเมือง NPC ไปเป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันกับตกไปเป็นของสภาสิบแปดปีกแล้ว ….

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้ส่งมอบงานเก็บรวบรวมไอเทมทั้งหมดให้กับแบล๊คกี้ โดยเขาได้ออกคำสั่งให้ส่งทั้งหมดนี้ไปเก็บยังคลังกิลของสภาสิบแปดปีกในเมืองสภาสิบแปดปีก ก่อนที่ซือเฟิงจะพาไฟเออร์แดนซ์ และคนอื่นๆเดินลงไปยังห้องลับที่อยู่ชั้นใต้ดินชั้นที่สอง

แม้ว่าห้องลับนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่มันก็มีขนาดเท่ากับสนามบาสเก็ตบอลเลย และประตูแห่งความมืดที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้องนั้นมันก็ทำให้ไฟเออร์แดนซ์ กับคนอื่นๆรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอย่างที่พวกเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน สำหรับไฟเออร์แดนซ์ แม้ว่าเธอจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองไปได้มากกว่าหนึ่งร้อยสิบเปอเซ็นต์แล้ว แต่เธอก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าแรงกดดันนี้มันจะทำให้เธอเคลื่อนไหวภายในห้องลับนี้ได้อย่างยากลำบากมากๆแน่นอน และเมื่อเธอเคลื่อนไหวไปได้สามถึงสี่ก้าว เธอก็จะต้องหยุด และทรุดตัวลง ซึ่งหากเป็นผู้เล่นขั้นสี่ทั่วไปก้าวเข้ามาที่นี่นั้น พวกเขาก็น่าจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลยด้วยซ้ำ

“ฮ่าๆๆ !! ฉันบอกแล้ว ยังไงซะพวกคุณก็ไม่สามารถจะทำให้ดินแดนลับของเทพปีศาจแปดเปื้อนได้หรอก !!!” จักรพรรดิอสูรมองไปยังไฟเออร์แดนซ์ และคนอื่นๆพลางยิ้มอย่างเย้ยหยัน ก่อนที่เขาจะหันไปกล่าวกับซือเฟิงด้วยรอยยิ้มว่า “แบล๊คเฟรม แม้ว่าคุณจะเป็นนักบุญแห่งดาบขั้นห้า !!! แต่มันก็ไม่มีอะไรพิเศษหรอก คุณจะไม่มีวันเข้าไปในนั้นได้แน่นอน !!!”
สำหรับดินแดนลับของเทพปีศาจนั้น ไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นสี่ที่ไม่ใช่ผู้ที่ได้รับพรจากเทพปีศาจเลย แม้แต่ตัวเขาผู้ซึ่งได้รับพรจากเทพปีศาจ และอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นสี่ก็ยังยากจะเข้าไปได้

นี่เป็นเหตุผลที่เขามั่นใจมากๆว่า แม้ว่าซือเฟิงจะรู้เรื่องเกี่ยวกับดินแดนลับของเทพปีศาจ แต่ซือเฟิงก็จะไม่สามารถทำอะไรกับมันได้แน่นอน

“งั้นหรอ ?”

ซือเฟิงมองไปยังจักรพรรดิอสูรที่กำลังหัวเราะ ก่อนที่เขาจะก้าวเข้าไปในห้องลับด้วยเท้าข้างเดียว