ราชันเร้นลับ 778 : หนึ่งบวกหนึ่งมากกว่าสอง

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ราชันเร้นลับ 778 : หนึ่งบวกหนึ่งมากกว่าสอง โดย Ink Stone_Fantasy

ขณะเดินผ่านห้องนั่งเล่น สัมผัสวิญญาณไคลน์พลันถูกกระตุ้น ตระหนักว่าถูกดวงตาที่มองไม่เห็นกำลังกวาดมองจากตำแหน่งปริศนา

ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกตัว เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นด้านหน้า ตรวจสอบสภาพแวดล้อม เตรียมเลือกนั่งในตำแหน่งที่ไม่ใกล้ไม่ไกลเจ้าของชุมนุม

ในวินาทีที่เดินผ่านประตู ความรู้สึกถูกจ้องมองพลันเลือนหายโดยสมบูรณ์

หากไม่ใช่เพราะ ‘วิญญาณอาฆาต’ ของเรามีผนึกสามชั้นคอยกีดขวาง อีกฝ่ายอาจตรวจพบความผิดปรกติ… มิสเตอร์ X มิได้บ้าบิ่นเหมือนที่เห็นภายนอก… ไคลน์นั่งลง ดึงผ้าคลุมศีรษะลงต่ำ ซ่อนใบหน้าให้ลึกยิ่งกว่าเดิม

ผ่านไปสิบนาที เมื่อสมาชิกมารวมกันใกล้ครบ มิสเตอร์ X ที่สวมหน้ากากทองเหลือง เดินเข้ามาทางประตูโดยไม่ได้ทำตัวเอิกเกริก ก้าวตรงไปยังที่นั่งของเจ้าภาพ

มันสวมเสื้อคลุมสีดำทรงโบราณ หมวกพ่อมดปลายแหลม พยายามปกปิดออร่าขณะเดิน แต่ก็ยังทำให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมลดศีรษะลงโดยไม่รู้ตัว

มิสเตอร์ X หันกลับมาและนั่งลงอย่างเชื่องช้า มองไปรอบๆ ก่อนจะอ้าปากพูด

“เริ่มได้”

อยู่ในระยะสี่เมตร… ไคลน์ไม่รีบลงมือ ถอนสายตากลับ เฝ้ามองสมาชิกคนอื่นแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างอดทน ส่วนใหญ่เป็นการตามหาคนที่กำลังโชคร้ายเป็นพิเศษ มิสเตอร์ X คอยตอบคำถามของสมาชิกเป็นครั้งคราว

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จุดสนใจของชุมนุมลับเริ่มเปลี่ยนจากรางวัลของมิสเตอร์ X มาเป็นการค้าขายระหว่างสมาชิกด้วยกัน ไคลน์เห็นดังนั้นจึงไม่ลังเล ใช้หัวแม่มือซ้ายกดข้อต่อแรกของนิ้วชี้สองครั้ง เปิดเนตรด้ายวิญญาณ

ด้ายมายาสีดำเส้นบางๆ จำนวนมากปรากฏขึ้นในทัศนวิสัยของชายหนุ่ม แต่ละเส้นลอยออกจากเป้าหมายที่แตกต่างกัน พุ่งตรงไปทุกทิศโดยไม่มีจุดสิ้นสุด

แยกแยะเจ้าของด้ายสักพัก ไคลน์แอบควบคุม ‘ด้ายวิญญาณ’ ของมิสเตอร์ X

จากแผนการของชายหนุ่ม มีสองปัญหาใหญ่ๆ ที่ต้องกังวล ประการแรก มิสเตอร์ X มีอาชีพเป็น ‘โหราจารย์’ ในลำดับต้นๆ ของเส้นทาง เช่นเดียวกันกับนักบุญของชุมนุมแสงเหนือที่อาจซ่อนตัวอยู่ในความมืด หากไคลน์พยายามเข้าควบคุมด้ายวิญญาณ พวกมันอาจได้รับลางสังหรณ์แจ้งเตือนอันตราย ตระหนักว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น

สำหรับความเฉียบคมของสัมผัสวิญญาณมิสเตอร์ X ไคลน์ค่อนข้างมั่นใจว่าอีกฝ่ายตรวจสอบไม่ได้ เพราะย้อนกลับไปในตอนที่ ‘วิญญาณอาฆาต’ ชารอนถูก ‘โรซาโก้’ ใช้ด้ายวิญญาณควบคุมร่างกาย แม้แต่เธอเองก็มิอาจตระหนักถึงอันตรายล่วงหน้า ทว่า ในกรณีของตัวตนระดับนักบุญแห่งชุมนุมแสงเหนือ – ครึ่งเทพที่ได้ครอบครองเศษเสี้ยวพลังเทพ การจะมีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ บางที อีกฝ่ายอาจตรวจสอบได้ว่า ‘ด้ายวิญญาณ’ ของใครกำลังถูกควบคุมอยู่บ้าง

หากเป็น ‘นักเชิดหุ่น’ คนอื่น ในสถานการณ์เช่นนี้คงทำได้เพียงสิ้นหวัง แต่กับไคลน์แล้วไม่ใช่ มันยังมีอีกหนึ่งตัวตนเป็น ‘เดอะฟูล’ สามารถหยิบยืมพลังจากห้วงมิติเหนือสายหมอกสีเทา ช่วยให้มี ‘เทวทูตกระดาษ’ คอยกีดขวางการหยั่งถึงเบื้องต้น

ชุมนุมลับดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีอะไรติดขัด เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหลืออีกเพียงสามวินาที การเข้าควบคุมขั้นต้นของไคลน์ก็จะประสบความสำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ส่งสารแห่งชุมนุมแสงเหนือรายนี้กลับไม่เอะใจแม้แต่น้อย ทำเพียงเฝ้ามองบทสรุปของการค้าขาย ในใจกำลังคิดอะไรก็ไม่ทราบได้

ในช่วงเวลาแสนสำคัญ ไคลน์ตัดสินใจหยุด!

ชายหนุ่มพยายามรักษาความคืบหน้าเอาไว้ ไม่ปล่อยให้ลดลงหรือเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ล้วงมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋าลับของเสื้อคลุม สัมผัสกล่องบุหรี่โลหะที่ถูกผนึกด้วยกำแพงวิญญาณ

ไคลน์ขยับนิ้ว สะกิดแผ่วเบาเพื่อสลายกำแพงวิญญาณ ปล่อยให้สายลมกระโชกหมุนวนในกระเป๋า

มันดึงมือออก รอสองสามวินาที จนกระทั่งมิสเตอร์ X หันหน้าไปทางด้านข้าง จึงค่อยเริ่มดำเนินการควบคุมด้ายวิญญาณต่อจากของเดิม

สองวินาที หนึ่งวินาที ศูนย์วินาที!

สติมิสเตอร์ X พลันเฉื่อยชา คล้ายกับถูกใครบางคนราดปูนซีเมนต์เหลวใส่

ศัตรู… อันตราย… แม้ความคิดจะเชื่องช้า แต่มันตื่นตัวได้เร็ว ภายในใจจึงวางแผนขอความช่วยเหลือจากลูกน้องและบุคคลลึกลับที่เฝ้ามองในเงามืด จากนั้นก็ตอบโต้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทว่า ความหนาวเหน็บพลันแทรกซึมร่างกายมิสเตอร์ X อย่างท่วมท้น ส่งผลให้มือ เท้า และปาก สูญเสียการควบคุมโดยสมบูรณ์

‘พลเรือเอกโลหิต’ เซนอล!

พลังสิงร่างของวิญญาณอาฆาต!

ตามปรกติแล้ว พลังควบคุมด้ายวิญญาณของนักเชิดหุ่นจะมีช่องโหว่มากมาย ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือ เมื่อเข้าสู่การควบคุมเบื้องต้น เป้าหมายจะพบความผิดปรกติได้ทันที ส่งผลให้ตอบสนองทันเวลา

หากเป็นการดวลตัวต่อตัว ไม่มีใครอยู่ใกล้เคียง ไคลน์สามารถใช้ประโยชน์จากสถานะ ‘เฉื่อยชา’ ของเป้าหมาย ขัดขวางการ ‘ขัดขืน’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเป้าหมายมีตัวช่วย ก็เป็นการยากที่จะแอบ ‘ควบคุมด้ายวิญญาณ’ อย่างลับๆ จำเป็นต้องอาศัยสภาพแวดล้อมหรือพวกพ้องช่วยกันปกปิดสถานการณ์

แต่ในช่องโหว่ดังกล่าว พลัง ‘สิงร่าง’ ของวิญญาณอาฆาตที่สามารถควบคุมพฤติกรรมของเป้าหมาย คือตัวช่วยที่ดีที่สุดของนักเชิดหุ่น!

สาเหตุที่ไคลน์ไม่ดำเนินการเข้าควบคุมขั้นต้นในคราวเดียว เพราะมันต้องการปลดปล่อยวิญญาณอาฆาตออกมาก่อน

หลังจากผ่านการตรวจตราหน้าทางเข้า ภายในห้องนั่งเล่นที่จัดการชุมนุม ย่อมมีระดับการเฝ้าระวังต่ำกว่าปรกติ!

ดวงตามิสเตอร์ X เริ่มเบิกกว้าง สติค่อยๆ เฉื่อยชาลงทุกขณะ ถ้อยคำที่อยากตะโกน ถูกปิดกั้นเอาไว้ในลำคอ เป็นใบ้โดยสิ้นเชิง

นอกจากนั้น มือข้างหนึ่งที่ทั้งใจยกขึ้นเพื่อส่งสัญญาณ ถูกบังคับให้ยื่นไปจับถ้วยชากระเบื้องเคลือบด้านข้าง

พฤติกรรมดังกล่าวขัดต่อความตั้งใจของมันโดยสิ้นเชิง ทั้งหมดเกิดจากความเย็นยะเยียบที่กำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย!

วิญญาณอาฆาต… นักเชิดหุ่น… แบบนี้แย่แน่… ถ้าปล่อยเอาไว้… เราจะตายไปอย่างเงียบๆ … มิสเตอร์ X รีบเค้นพลังวิญญาณในร่างกาย วาดภาพสัญลักษณ์และอักขระซับซ้อนภายในใจ

มันต้องการเปิด ‘ประตูนักท่องเที่ยว’ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ‘ประตูเคลื่อนย้ายมิติ’ ด้วยวิธีดังกล่าว มันจะหนีออกจากระยะควบคุมของนักเชิดหุ่น เมื่อเทียบกันแล้ว วิญญาณอาฆาตมีอันตรายน้อยกว่ามาก

แต่ด้วยความคิดที่เฉื่อยชา การวาดสัญลักษณ์และอักขระมิได้ประสบความสำเร็จในคราวเดียว แต่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นทีละเส้น ไม่รวดเร็วมากพอ

อาศัยโอกาสดังกล่าว ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลที่ที่ครอบงำมิสเตอร์ X ด้วยความควบคุมของ ‘นักเชิดหุ่น’ ไคลน์ เริ่มทำการขยับศีรษะและเปลี่ยนท่านั่งของมิสเตอร์ X

พฤติกรรมข้างต้นทำให้ ‘ประตูนักท่องเที่ยว’ ถูกยกเลิกทันที!

แย่ล่ะสิ… การตอบสนอง… ของเรา… ช้าเกินไป… ถูกขัดขวาง… โดยฝีมือ… วิญญาณ… อาฆาต… ต้องใช้… สมบัติ… วิเศษ… ดวงตามิสเตอร์ X กำลังแดงระเรื่อ คนรอบข้างไม่มีใครสังเกตเห็น แม้กระทั่งตัวตนลึกลับที่คอยจับตามองการชุมนุมก็ไม่พบความผิดปรกติ

สำหรับผู้ร่วมชุมนุมที่กำลังค้าขาย พวกมันเริ่มลดเสียงลงเนื่องจากเห็นมิสเตอร์ X เปลี่ยนท่านั่ง

ณ ขณะนี้ แม้ว่าห้องนั่งเล่นจะเต็มไปด้วยผู้คน แม้ว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้วิเศษ และหลายต่อหลายคนเป็นลูกน้องของมัน แต่มิสเตอร์ X กลับรู้สึกโดดเดี่ยวและสิ้นหวังสุดขีด

มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้จู่โจมเป็นใคร นั่งอยู่ตรงไหน!

ขณะความคิดมากมายแล่นผ่าน มิสเตอร์ X พยายามรวบรวมพลังวิญญาณ ถ่ายเทเข้าไปในแหวนทองคำฝังทับทิมที่นิ้วชี้ข้างซ้าย

ทว่า ขณะความคิดเปลี่ยนเป็นการตัดสินใจ ขณะการตัดสินใจเปลี่ยนเป็นลงมือทำ ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลานานเกินไป ราวกับภาพเหตุการณ์ถูกฉายซ้ำโดยการลดความเร็ว!

นั่นทำให้ ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลมีเวลาเหลือเฟือ จัดการยกมือซ้ายของมิสเตอร์ X ขึ้น ใช้ปลายนิ้วแตะหน้าผาก ‘ตัวเอง’ ในบริเวณที่ไม่มีหน้ากากทองเหลืองปกปิด ประหนึ่งกำลังนั่งใช้ความคิด

เสียง ‘กึก’ ดังขึ้นแผ่วเบา แต่แรงกระแทกที่ส่งเข้าไปนั้นไม่ธรรมดา ไคลน์ซึ่งเป็นผู้ควบคุมเซนอล กะปริมาณความแรงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่งผลให้แรงปะทะพุ่งเข้าไปในศีรษะของมิสเตอร์ X โดยไม่กระจายออกสู่ภายนอก ยังคงปกปิดความผิดปรกติไว้ได้มิดชิด

ตึก! ตึก!

ความคิดของมิสเตอร์ X ที่จะแผ่พลังวิญญาณถูกรบกวนอย่างต่อเนื่อง มิอาจรวบรวมสติได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง

ทุกครั้งที่สติเริ่มคืนกลับมา พลังควบคุมด้ายวิญญาณของนักเชิดหุ่นก็ยิ่งฝังรากลึก ส่งผลให้สติของมิสเตอร์ X กระเจิดกระเจิงและทวีความเชื่องช้า ลำพังการคิดและตัดสินใจก็ยังทำได้ยากลำบาก

ประกอบกับการที่วิญญาณอาฆาตคอยขยับตัวเพื่อก่อกวนสมาธิ แม้มิสเตอร์ X จะมีพลังพิเศษและสมบัติวิเศษที่ยอดเยี่ยมสักเพียงใด แต่ชะตากรรมเดียวคือการค่อยๆ ดำดิ่งลงไปในหุบเหว มิอาจหลีกเลี่ยงการกลายเป็นหุ่นเชิด

มันเฝ้ามองตัวเองกำลังเดินเข้าหาความตายอย่างเชื่องช้าและไร้พลัง

มันเพิ่งได้เรียนรู้ว่า ความร่วมมือระหว่างวิญญาณอาฆาตและนักเชิดหุ่นนั้นน่าหวาดหวั่นเพียงใด จนปัญญาจะรับมือโดยสิ้นเชิง

ต่อหน้าผู้คนมากมาย การล่ายังคงดำเนินไปอย่างลับๆ

ยิ่งไคลน์ควบคุมได้ลึกซึ้ง สติของมิสเตอร์ X ก็ยิ่งเฉื่อยชาและแข็งทื่อ ผนวกกับการตบตาของวิญญาณอาฆาต จึงไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ตระหนักถึงความผิดปรกติ

ระบุให้ชัดก็คือ พฤติกรรมทั้งหมดของมิสเตอร์ X ในตอนนี้ มิได้เกิดจากความคิดอันเฉื่อยชาของเจ้าตัว แต่เป็นการควบคุมของ ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอล เจ้าของร่างไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะแสดงแววตาสิ้นหวัง!

การค้าขายยังคงดำเนินต่อไป มีทั้งสำเร็จและล้มเหลว มีทั้งโต้เถียงและต่อราคา ห้านาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไคลน์ใกล้จะจบชีวิตมิสเตอร์ X และเปลี่ยนอีกฝ่ายให้กลายเป็นหุ่นเชิดของตน เหลือเพียงก้าวสุดท้ายเท่านั้น

ทว่า ชายหนุ่มมิอาจกระทำเช่นนั้นได้

เนื่องจากโอสถนักเชิดหุ่นยังย่อยไปได้ไม่มาก ปัจจุบันจึงสามารถควบคุมหุ่นเชิดได้พร้อมกันเพียงหนึ่งตัว หากจะเปลี่ยนมิสเตอร์ X ให้เป็นหุ่นเชิด ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลก็ต้องถูกปล่อยไป

และถ้าปล่อยเซนอล ศพของพลเรือเอกโลหิตที่ตายไปนานแล้วก็จะโผล่ต่อหน้าทุกคน เกิดเป็นความโกลาหลครั้งใหญ่

ในทำนองเดียวกัน ถ้าไคลน์ไม่คิดจะปล่อยหุ่นเชิดเซนอล เลือกจะสังหารมิสเตอร์ X ที่ปราศจากการป้องกันตัว ชายหนุ่มก็ต้องคำนึงถึง ‘นักบุญ’ ของชุมนุมแสงเหนือที่อาจแฝงตัวในเงามืด

นี่คืออีกหนึ่งปัญหาใหญ่ในแผนการ!

การเข้าควบคุมเป้าหมายด้วยพลังของนักเชิดหุ่นและวิญญาณอาฆาตไม่ใช่เรื่องยาก การฆ่าก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน เนื่องจากมิสเตอร์ X ในสภาพปัจจุบันปราศจากการป้องกันตัวโดยสิ้นเชิง เพียงไคลน์ยิงด้วยกระสุนอัดอากาศ ก็สามารถปิดฉากได้ง่ายดาย

ส่วนที่ยากก็คือ หลังจากลงมือตามแผนข้างต้นเสร็จ ต้องทำอย่างไรถึงจะรอดกลับไปแบบมีชีวิต?

กุญแจสำคัญคือความอดทน

เวลาผ่านไปอย่างไหลลื่น แม้ภายนอกอาจดูสุขุม แต่ภายในใจไคลน์กำลังตึงเครียด มันแสร้งทำเป็นไม่สนใจการค้าขายในชุมนุม ไม่ได้กล่าวดำใดออกมา

จนกระทั่ง เมื่อชุมนุมลับจบลง มิสเตอร์ X เปล่งเสียงแผ่วเบาที่ฟังดูเป็นธรรมชาติ

“พอแค่นี้”

คำพูดของมันสั้นกระชับ คล้ายกับคำพูดในตอนเปิด นั่นคือสิ่งที่ซิลอธิบายกับฟอร์ส

สมาชิกของชุมนุมทยอยลุกขึ้นทีละคน ไคลน์ผสมโรงโดยไม่มีพิรุธ ขณะเดียวกันก็ล้วงกระเป๋า พลิกเปิด ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ ด้วยความรู้สึกจากปลายนิ้ว

………………………………………………..