เหลยจ้านที่ยังคงพูดมากก็กลอกตา อุทานอย่างตกใจ “ไม่ใช่มั้ง ผู้นำของประเทศอินลงทุนไปขนาดไหน? ถึงสามารถส่งอาร์คบิชอปของสำนักศาสนาแห่งแสงมาได้ อีกทั้งยังเป็นนักพรตคนหนึ่ง และยังมีนักพรตสองคนติดตามมาด้วย มันช่างอลังการเสียงจริง!”

ลี่เซี่ยวที่เงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า เหลือบมอง เหลยจ้านและพูดประชดประชันว่า “ถ้ากลัวก็กลับไปกินนมไป ไม่ต้องมาขายหน้าที่นี่!”

เหลยจ้านพูดอย่างโกรธเคือง “กลัว? เป็นไปได้ไง!ต่อให้พวกเขาส่งอาร์คบิชอปมา ฉันก็ไม่กลัวหรอก เพียงแต่รู้สึกว่าอาจจะรับมือยากหน่อย ครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้ง!”

จีอู๋หยาชำเลืองมองเฉินโม่และพูดเบา ๆ “ตำแหน่งของอาร์คบิชอปชุดแดง เป็นรองเพียงพระสันตะปาปา โดยเฉพาะบรรดานักพรต มีความคล้ายคลึงกับนักตบะของหัวเซี่ย เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของอาร์คบิชอปในชุดสีแดงทั่วไป นั้นจะเหนือกว่ามาก เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับทุกประเทศ!”

“อย่างไรก็ตาม นักพรตแบบนี้มีจำนวนน้อยมาก เข้าร่วมต่อสู้กับโลกภายนอกยิ่งน้อย ครั้งนี้ประเทศอินส่งมาทีเดียวถึงสามคน เห็นได้ว่าคงลงทุนไปมาก”

จีอู๋หยากำลังสอนเฉินโม่ อย่างไรเสียในคนกลุ่มนี้ มีเพียงเฉินโม่เท่านั้นที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้เล่นจากประเทศอื่น

เซี่ยไห่หลงและคนอื่นๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกองกำลังของประเทศต่างๆ ในระหว่างการฝึกไปแล้ว

จากนั้น ก็มีคนอีกชุดหนึ่งเข้ามา

คนกลุ่มนี้ยิ่งแปลกประหลาด รูปร่างหน้าตาของพวกเขาคล้ายๆกับคนของประเทศอิน อย่างไรก็ตาม บนตัวของคนเหล่านี้กำลังแบกกล่องไม้ขนาดใหญ่ไว้บนหลังของพวกเขา และอีกสี่คนกำลังแบกโลงศพอยู่ อ้อ ไม่ใช่ มันเป็นกล่องไม้ขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายกับโลงศพ

เฉินโม่มองไปที่คนเหล่านี้ จากร่างกายของพวกเขา เฉินโม่ไม่รู้สึกถึงความผันผวนของพลังเลย พวกเขาก็คือคนธรรมดาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เฉินโม่รู้สึกถึงความผันผวนของพลังเบาที่อยู่ในกล่องไม้ด้านหลังพวกเขา และพลังเหล่านั้นแปลกมาก แม้แต่เฉินโม่ก็ไม่สามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งและความอ่อนของมันได้อย่างเต็มที่

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสี่คนที่แบกโลงศพเอาไว้ เฉินโม่ไม่รู้สึกถึงความผันผวนของพลังเลย แต่เนื่องจากทั้งสี่คนใช้พลังเพื่อแบกโลงศพมาที่นี่ ก็เห็นได้ว่ามันจะต้องมีความสำคัญมาก

เหลยจ้าน ขมวดคิ้วและพูดว่า คนของประเทศฟาเหล่านี้กำลังทำอะไร? ยังไม่ได้เริ่มการต่อสู้ก็นำโลงศพมาแล้ว นี่คือจะเตรียมงานศพตัวเองล่วงหน้ารึเปล่า? ”

จีอู๋หยาด้วยน้ำเสียงทุ้ม “อย่าพูดไปเรื่อย โลงศพนั้นต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน นายไม่เห็นเหรอสีหน้าของคนในประเทศอินเหล่านั้นเปลี่ยนไปแล้ว แม้แต่อาร์คบิชอปในชุดแดงก็ยังสีหน้าที่หนักใจ พวกเขาต้องรู้ประวัติของโลงศพนี้อย่างแน่นอน!”

คนสุดท้ายที่เข้ามาคือประเทศรัส ซึ่งแต่ละคนทั้งตัวใหญ่และกลม เฉินโม่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาดูเหมือนเด็กไปเลย

เมื่อเห็นคนของประเทศรัสแล้ว หัวใจของเฉินโม่สั่นเล็กน้อย เพราะเขาสังเกตเห็นว่าคนของประเทศรัสเหล่านี้มีสายเลือดของเผ่าพันธุ์สัตว์ประหลาด ตามคำพูดบนโลก พวกเขาคือออร์ก (เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่ถูกจินตนาการขึ้น รูปร่างคล้ายกอบลิน)

คนที่สูงที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดที่เป็นผู้นำ น่าจะมีสายเลือดของหมียักษ์ เมื่อออร์กชนิดนี้บ้าดีเดือด มันจะกระตุ้นพลังในสายเลือด และความแข็งแกร่งของมันจะประเมินไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม เฉินโม่ได้เห็นกลุ่มออร์กที่แท้จริงในเผ่าฝึกเซียนทั้งหมื่น พลังของคนเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องบ้าคลั่งดีเดือด และสามารถปรับใช้ได้ตลอดเวลา เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ออร์คบนโลกจะอ่อนแอกว่า

เจียงเหอซานพยักหน้าเล็กน้อยให้กับผู้นำประเทศรัส ประเทศรัสและหัวเซี่ยเป็นพันธมิตรกันมาโดยตลอด ร่วมกันตอบโต้แรงกดดันจากประเทศอเมและประเทศในยุโรป ดังนั้นแม้ในสมรภูมิห้าประเทศ ยังคงเป็นพันธมิตรที่หัวเซี่ยจะเลือกเป็นอันดับแรก

“เดี๋ยวถ้าเข้าสู่สมรภูมิห้าประเทศแล้ว นายพยายามกระชับความสัมพันธ์กับคนของประเทศรัส เพื่อร่วมกันต่อสู้กับอีกสามประเทศ” เจียง เหอซานกระซิบสั่งการ

จีอู๋หยาพยักหน้า“ โส่วจ่างวางใจเถอะ ผมเข้าใจ!”

เฉินโม่ไม่ได้แสดงความคิดเห็น เจียงเหอซานเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วแล้วพูดเตือน “เฉินโม่ นายยังจำคำพูดของผู้บังคับบัญชาที่พูดกับนายได้มั้ย?”

เฉินโม่มองเจียงเหอซาน เขารู้ว่าเจียงเหอซานกำลังกังวลอะไร

“อย่ากังวลไปเลยเจียงโส่วจ่าง ในเมื่อผมสัญญากับพวกคุณแล้ว ผมจะทำทุกอย่างให้เต็มที่””

เจียงเหอซานกล่าว “เป็นเรื่องที่ดี ที่นายเข้าใจสิ่งนี้!”