กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1240
เอเลนกำลังนอนดูละครทางโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียง เธอเบื่อมากที่ได้รับบาดเจ็บจนออกไปไหนไม่ได้ จึงแก้เบื่อด้วยการดูละคร
เมื่อละครดำเนินเรื่องมาจนถึงจุดพีค เสียงบีบแตรที่ดังแสบแก้วหูก็ดังกึกก้องอย่างต่อเนื่องลอดเข้ามาจากนอกบ้าน จนเธอรู้สึกหงุดหงิดและแสบแก้วหูเป็นอย่างมาก เธอเลยเดินปึงปังไปดูที่ระเบียงห้อง แล้วเห็นรถเบนท์ลีย์คันใหม่เอื่ยมจอดอยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งเสียงบีบแตรที่ดังน่ารำคาญนั้นเป็นเสียงที่ดังขึ้นมาจากรถคันนี้
เอเลนตะโกนด่าอย่างโกรธเกรี้ยว “เฮ้ย! พวกแกเป็นใครกัน? เป็นบ้าไปแล้วเหรอไง? มาบีบแตรที่หน้าบ้านฉันทำไม?”
คริสโตเฟอร์มองผ่านหน้าต่างรถเห็นเอเลนยืนตะโกนด่าอยู่บนระเบียง เขายิ้มและพูดว่า “ดูสิครับแม่ นังผู้หญิงปากร้ายคนนั้นออกมายืนด่าใหญ่เลย!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” คุณท่านวิลสันรู้สึกมีความสุขเหลือเกินที่เห็นการโต้ตอบจากเอเลน แล้วพูดว่า “นังนั่นรักเงินเป็นที่สุด และถ้าเธอรู้ว่าเรากลับมาสุขสบายเหมือนเดิมแล้ว เธอจะต้องโกรธเกรี้ยวและอิจฉาพวกเรามากแน่ ฉันจะแกล้งทำให้เธอเห็นว่า ฉันยินดีรับพวกเขากลับมาอยู่กับครอบครัวของเรา เธอจะต้องรีบแจ้นมาประจบประแจงเหมือนหมาแน่ ๆ จากนั้นฉันก็จะทำให้เธอต้องได้รับความอับอายขายหน้า!”
คุณท่านวิลสันยิ้มอย่างมีชัยชนะ จากนั้นก็ผลักประตูออกแล้วก้าวลงจากรถ โดยกะจะอวดความสุขสบายให้เอเลนเห็นสักหน่อย แต่ทันใดนั้นก็มีคนถือกะละมังเทน้ำเย็น ๆ ราดรดลงมาบนหัวเธอโดยตรง
โครม!
คุณท่านวิลสันรู้สึกหนาวเย็นตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอยกศีรษะที่เปียกโชกขึ้นมอง แล้วเห็นเอเลนกำลังถือกะละมังพร้อมฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจ
คุณท่านวิลสันก่นด่าด้วยความตกตะลึง “เอเลน นังสารเลว! แกมาราดน้ำใส่ฉันทำไม!”
ตอนนี้เองที่เอเลนจำได้ว่าเป็นคุณท่านวิลสัน เธอกระเดาะลิ้นรัว ๆ แล้วพูดว่า “แหม… นึกว่าไอ้บ้าที่ไหนที่ซื้อรถห่วย ๆ มา แล้วมานั่งบีบแตรอยู่หน้าบ้านฉัน! ที่แท้ก็เป็นหญิงแก่น่ารำคาญนี่เอง! อ้อ… ลูกสะใภ้คงไปขายตัวที่เหมืองถ่านหินได้เงินมาเยอะล่ะสิใช่ไหม? ถึงมีเงินมาซื้อรถให้แกขับได้ ช่างวิเศษเสียจริงนะ! นี่มันรถบ้าอะไรกันเนี่ย ถึงได้ดูเป็นเศษเหล็กขนาดนั้น”
คุณท่านวิลสันก่นด่าอย่างเดือดดาล “อีปัญญาอ่อน! นี่คือรถเบนท์ลีย์! เบนท์ลีย์ คอนติเนนตัล! นำเข้าจากอังกฤษทั้งคัน ราคาสามล้านโว้ย!”
เอเลนยืนพิงราวระเบียงแล้วพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “แหม… ได้ขับรถราคาสามล้านดอลลาร์เข้าหน่อย ก็ทำเป็นเชิดหน้าชูตาอวดดีได้อย่างนั้นเหรอ? แกรู้มั้ยว่าลูกสาวกับลูกเขยฉันขับรถอะไร?”
คุณท่านวิลสันพูดเย้ยหยันออกมา “บีเอ็มดับเบิ้ลยู 520! นึกว่าฉันไม่รู้เหรอไง? จะบอกอะไรให้นะ ฉันสามารถซื้อรถแบบนั้นให้เธอได้ตั้งสิบคันเลยด้วย!”
เอเลนพ่นเสียงออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม “หยุดเห่าหอนหน้าบ้านฉันได้แล้ว นังหญิงแก่น่ารำคาญ! รถเบนท์ลีย์ราคาสามล้านดอลลาร์เหรอ? แล้วยังไง? ลูกเขยฉันมีรถสปอร์ตสุดหรูสองคัน แต่ละคันราคาเหยียบสี่สิบถึงห้าสิบล้านดอลลาร์! เราสามารถซื้อรถของแกได้สิบคันเลยล่ะ! แกหากระจกมาส่องดูหน้าขี้อิจฉาของแกดูหน่อยดีไหม?”
แฮโรลด์ลดกระจกรถลง ยื่นหัวออกมาจากที่นั่งคนขับเพื่อมองเอเลน แล้วเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เอเลน นี่แกยังชอบคุยโม้อยู่อีกเหรอ หลังจากเสียฟันหน้าไปสองซี่? แล้วชาร์ลีไอ้ขี้แพ้นั่นจะมีรถราคาห้าสิบล้านดอลลาร์ได้ยังไง? เขาไม่สมควรจะได้แตะรถแบบนั้นด้วยซ้ำไป!”
เอเลนถ่มน้ำลายใส่แฮโรลด์ แล้วพูดอย่างเหยียดหยามว่า “แฮโรลด์ อย่ามาทำเป็นตัวเป็นฮีโร่แถวนี้หน่อยเลย ถ้ามีเวลาก็รีบไปตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลเสียหน่อยนะ เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลวิลสันจริง ๆ หรือเปล่า เพราะแม่ของแกชอบนอนกับผู้ชายไปทั่ว มีความเป็นไปได้นะว่าแกไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพ่อแก!”
“หุบปากซะ!” แฮโรลด์คำรามอย่างเดือดดาล เมื่อได้ยินเอเลนล้อเลียนเรื่องความสัมพันธ์ของแม่เขาอีกครั้ง “ถ้าขืนยังพล่ามต่อไป ฉันจะตัดลิ้นแกให้ขาดเลย!”
เอเลนแลบลิ้นออกมาแล้วพูดว่า “มาสิ มาตัดเลย ไอ้ลูกกระ*รี่! แกคิดว่าแกจะทำได้เหรอ!
แฮโรลด์โกรธมาก เขาผลักประตูรถให้เปิดออกแล้วก้าวเท้าปึงปังลงจากรถอย่างร้อนรนพร้อมตะโกนใส่เอเลน
คุณท่านวิลสันทำท่าทางให้แฮโรลด์หยุดแล้วพูดว่า “แฮโรลด์ หุบปาก ฉันจะคุยกับเธอเอง!”
ตอนนั้นเองที่แฮโรลด์ต้องปิดปากเงียบด้วยความเดือดดาล
คุณท่านวิลสันเงยหน้ามองเอเลน แล้วพูดด้วยสีหน้าที่ดูเย่อหยิ่ง “พูดตรง ๆ นะเอเลน ตระกูลวิลสันได้เริ่มชีวิตใหม่แล้ว! เรารอดพ้นจากวิกฤตหนี้สินมาได้ด้วยเงินลงทุนแปดสิบล้านดอลลาร์ และพร้อมจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว! อิจฉาล่ะสิ? ถ้าแกขอร้องฉันดี ๆ ฉันก็อาจมีเมตตาให้แคลร์และจาค็อบกลับมาทำงานที่วิลสันกรุ๊ป แล้วแกก็จะได้เงินบำนาญเหมือนเดิม”