บทที่ 1557 ทำเขาโมโหแล้ว / บทที่ 1558 วิกฤตของอาชีพเล่นไปตามน้ำ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1557 ทำเขาโมโหแล้ว

ดวงหน้าเล็กที่อ่อนนุ่มของหญิงสาวแนบชิดบนตักตัวเอง เอียงหัวเล็กๆ มองเขาอย่างน่าสงสาร ใบหน้าเย็นเยือกของชายหนุ่ม ไฟโทสะในใจที่แทบแผดเผาเขาจนสิ้นซาก ความเจ็บปวดเหล่านั้นเหมือนลดลงไปหลายส่วนในพริบตา…

เมื่อเยี่ยหวันหวั่นเห็นว่ามีความหวัง ก็รีบอาศัยโอกาสนี้ลุกพรวดขึ้น ดึงแขนของชายหนุ่มก่อนผลักเขาไปที่ตู้เก็บของหลังใหญ่นั้น แล้วดึงประตูตู้ออกอย่างรวดเร็ว “รบกวนนายของอาชูร่าหลบอยู่ตรงนี้สักแป๊บ!”

ชายหนุ่มจ้องตู้ด้านหลังตัวเอง แล้วมองไปด้านนอกประตูอีกครั้ง ใบหน้าที่สงบลงแล้วเล็กน้อยพลันเย็นเยือกอีกรอบ

ท่าทางของเยี่ยหวันหวั่นเวลานี้ เหมือนถูกเมียหลวงจับชู้บนเตียงได้ยังไงยังงั้น!

ผู้หญิงน่าตายคนนี้…

เสียง ‘ปัง’ ดังขึ้น จี้ซิวหร่านคงจะเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเริ่มใช้กำลังกระแทกประตูแล้ว

ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นเสียใจเหลือเกินที่เมื่อครู่ยั่วโมโหชายหนุ่มไป ได้แต่เกาะบ่าเขาพลางประกบริมฝีปากลงไปอย่างอ่อนโยน “ขอร้องละๆๆ!”

ปรากฏว่าชายหนุ่มเอียงหน้าหลบ!

เวรเอ๊ย…

ครั้งนี้ทำเขาโกรธจริงๆ แล้ว…

“อึก…” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว จู่ๆ ก็กุมท้องตัวเองอย่างเจ็บปวดเหลือแสน “เจ็บจัง…”

จากนั้นก็อาศัยโอกาสชั่วพริบตาที่ชายหนุ่มแบ่งสมาธิไปออกแรงผลักเขาเข้าไปในตู้ ก่อนจะปิดตู้เสียงดัง แล้วล็อกจากข้างนอก

วินาทีที่ปิดประตู สีหน้าของชายหนุ่มข้างในโกรธถึงขีดสุดจนดูน่ากลัว

ในเวลาเดียวกัน ประตูก็ถูกคนกระแทกเปิดออกจากข้างนอกเสียงดังสนั่น

จี้ซิวหร่านเข้ามาแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นวิ่งเข้าไปอย่างเหงื่อท่วมหัว “แค่กๆ คุณมาทำไมเหรอ”

“เกิดอะไรขึ้น” จี้ซิวหร่านกวาดสายตามองในโถงรับแขกอย่างไร้สุ้มเสียง

เยี่ยหวันหวั่นบังทางตู้เก็บของไว้อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เอ่ยด้วยสีหน้าง่วงงุน “ไม่มีอะไร ก็แค่ไม่ระวังทำถ้วยชาตกเท่านั้นเอง รีบนั่งสิ เดี๋ยวฉันรินชาให้!”

“มีแขกเหรอ?” จี้ซิวหร่านเหลือบมองโต๊ะชา

นอกจากถ้วยชาที่เธอทำแตก ด้านบนยังมีถ้วยชาอีกหนึ่งใบ

เยี่ยหวันหวั่นใจกระตุกหนึ่งที เก็บเศษถ้วยชาไปพลางอธิบายไปพลาง “เมื่อกี้ชีซิงมาแป๊บหนึ่งน่ะ ดึกขนาดนี้คุณมีธุระเหรอ”

จี้ซิวหร่านจ้องถ้วยชาใบนั้นอีกเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา เหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก ใบหน้ายังคงยิ้มบางๆ เหมือนเคย เขาเอ่ยว่า “ไม่มีอะไร แค่คิดว่าต้องอธิบายกับคุณหน่อย ผมกับเนี่ยอู๋โยวไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“มาก็เพื่อเรื่องนี้เหรอ” เยี่ยหวันหวั่นรีบพูด “ไม่เป็นไรๆ! ฉันไม่ถือสาสักนิดเดียว ฉันเชื่อคุณอยู่แล้ว คุณพูดอะไรฉันก็เชื่อทั้งนั้นแหละ”

“งั้นเหรอ”

“แน่นอน” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้ารัว

“หวังว่าคำที่ผมพูดกับคุณที่งานเลี้ยงตระกูลเสิ่นวันนี้ คุณก็จะจำขึ้นใจ” จี้ซิวหร่านเอ่ย

เมื่อคืนนี้จี้ซิวหร่านพูดอะไรกับเธอนะ?

เวลานี้สมองของเยี่ยหวันหวั่นยุ่งเหยิงอยู่บ้าง หลังพยายามนึกอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดก็นึกได้ จึงรีบพูด “ที่คุณบอกว่าให้ฉันอย่าเข้าใกล้นายของอาชูร่าสินะ! เข้าใจแล้ว ฉันได้ยิน ตั้งใจฟังอยู่แล้ว”

เยี่ยหวันหวั่นสาบานอย่างเด็ดเดี่ยว “คุณวางใจได้ ฉันจะไม่เข้าใกล้เขาเด็ดขาด!”

สิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น เหมือนมีเสียง ‘ตึง’ ดังขึ้นจากทิศทางของตู้

สายตาของจี้ซิวหร่านมองไปยังทิศทางของเสียงทันที ดวงตาที่เจือรอยยิ้มคล้ายมีความเย็นเยียบวาบผ่าน

เยี่ยหวันหวั่นตกใจจนขนทั้งตัวลุกชันแล้ว ซวยละ!

———————————————————————————–

บทที่ 1558 วิกฤตของอาชีพเล่นไปตามน้ำ

เวลานี้เอง เงาสีดำร่างหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังตู้เก็บของ

เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาครุ่นคิด ก่อนรีบเอ่ยปาก “บีรุส ทำไมถึงซนอย่างนี้!”

เยี่ยหวันหวั่นผลักปัญหาไปให้บีรุสอย่างไม่ลังเล

ตอนที่บีรุสเดินผ่านตู้เก็บของ เหมือนมันจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงพลันหยุดอยู่ตรงหน้าตู้อย่างสงสัย เงี่ยหูดอมดมแถมยังส่งเสียงคำรามต่ำอย่างตื่นตัว

บ้าเอ๊ย! อย่าเลื่อยขาเก้าอี้ฉันนะเสี่ยวเฮย!

เยี่ยหวันหวั่นรีบตบๆ โซฟาข้างๆ ตัว เอ่ยสั่งว่า “บีรุส มานี่!”

“กรรซ์—”

เสือดำตัวใหญ่กำลังลังเลระหว่างตู้เก็บกับเยี่ยหวันหวั่น สุดท้ายมันก็ตัดสินใจเดินไปหาหญิงสาว

เสือดำกระโดดเบาๆ หนึ่งทีอย่างคล่องแคล่วก็ขึ้นไปถึงบนโซฟา จากนั้นมันเกยหัวไว้บนตักของเยี่ยหวันหวั่นตามความคุ้นชิน

เยี่ยหวันหวั่นเกาคางเสือดำอย่างปลอบประโลม เสือดำสบายจนหรี่ตา ลืมเรื่องตู้เก็บของไปเสียสนิท

เกือบไปแล้วๆ…

เมื่อเห็นว่าจี้หวงไม่ได้สังเกตตู้นั้นเช่นกัน ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็พอโล่งอกได้ กระแอมไอแล้วกล่าวว่า “แค่กๆ ดึกขนาดนี้แล้วฉันจะไม่รั้งคุณไว้นาน วันนี้เหมือนฝนจะตกด้วย คุณรีบกลับไปหน่อยดีกว่า”

จี้ซิวหร่านยกถ้วยช้าขึ้นมา “ไม่รีบ”

เยี่ยหวันหวั่นตกใจ

ไม่รีบอะไรหา! เธอรีบมากโอเคไหมล่ะ!

ใครจะรู้ว่าเจ้าพ่อใหญ่ในตู้นั้นจะยังทนได้อีกสักเท่าไร!

“เสี่ยวเฟิง ผมรู้ว่าคุณชอบเล่นสนุก ชอบคนหน้าตาดี แต่จะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น เว้นแต่นายของอาชูร่าคนเดียว เข้าใจไหม” น้ำเสียงของจี้ซิวหร่านยังคงอ่อนโยน แต่ดวงตายิ้มๆ นั้นกลับเข้มงวดอย่างที่ไม่เคยเป็น

“เข้าใจแล้วๆ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับนายของอาชูร่าสักนิดเดียวจริงๆ! คนอึมครึม วันๆ ทำหน้าตายนั่น น่ากลัวจะตายไป หน้าตาดีแค่ไหนฉันก็ไม่มีทางถูกใจหรอกน่ะ”

เยี่ยหวันหวั่นคิดแค่อยากจะให้จี้ซิวหร่านไปไวๆ เขาพูดอะไรเธอก็เออออหมด นายพูดอะไรก็ถูกทั้งนั้น

เพียงแต่…เกรงว่านี่จะสร้างความขุ่นเคืองให้อีกคนหนึ่งแย่แล้ว…

นี่เป็นครั้งแรกที่เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกว่าอาชีพเล่นไปตามน้ำของตัวเองพบเจอวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน

น้ำนี้…เกรงว่าเธอคงเล่นตามไม่ง่ายแล้ว…

“ฉันช่างเลือกจะตาย ยังชอบคนที่อ่อนโยนแล้วก็ชอบยิ้มมากกว่า~” ภายใต้สถานการณ์ย่ำแย่แบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นเลือกตามน้ำของคนตรงหน้านี้ก่อน

จี้ซิวหร่านได้ยินก็หัวเราะเบาๆ

รอยยิ้มนั้น…

อย่าพูดเลย…จี้ซิวหร่านยิ้มทีหนึ่งพลังทำลายล้างสูงเกินไปจริงๆ …

เยี่ยหวันหวั่นได้สติกลับมา ตบหน้าผากตัวเองหนึ่งที นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะมาคิดเรื่องเล็กน้อยพวกนี้อีก!

แต่โชคดีที่สุดท้ายจี้ซิวหร่านก็เชื่อเธอ…

“ดึกมากแล้ว คุณพักผ่อนเร็วหน่อยเถอะ”

“อืมๆๆ คุณก็ด้วย” เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ ไม่ทันสังเกตเห็นว่าสายตาของจี้ซิวหร่านเหลือบมองตู้เก็บของที่เรียบง่ายนั้นอย่างคล้ายตั้งใจคล้ายไม่ตั้งใจแวบหนึ่ง

“ฉันไปส่งคุณเอง” เยี่ยหวันหวั่นอยากส่งคนกลับใจจะขาด

วินาทีที่เยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้นจะส่งจี้ซิวหร่านกลับนั้นเอง ทันใดนั้นก็มีสีฝีเท้าวุ่นวายดังมาจากทางประตู

ตามด้วยเสียงโหวกเหวกอันเป็นเอกลักษณ์ของเป่ยโต่ว “พี่เฟิง! พี่เฟิง! พี่หลับหรือยัง”

เป่ยโต่ว!

ฉิบหาย!

ฟังจากเสียงฝีเท้าแล้ว นอกจากเป่ยโต่วแล้วเหมือนจะมีคนอีกไม่น้อย

ไปกันหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ดึกดื่นขนาดนี้มาทำบ้าอะไรเนี่ย!

“ไม่ได้! ห้ามให้พวกเป่ยโต่วเห็นคุณนะ!” เยี่ยหวันหวั่นใกล้จะบ้าอยู่รอมร่อแล้ว

สิ่งที่แย่ที่สุดคือ เมื่อครู่จี้ซิวหร่านพังกลอนประตูไปแล้ว ประตูหน้าจึงไม่ได้ล็อก เสียงฝีเท้าของเป่ยโต่วใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ประตูหน้าถูกคนเปิดออกช้าๆ

และในโถงรับแขก จุดที่ซ่อนคนได้มีเพียงที่เดียว…