บทที่ 1559 พวกคุณอย่าทะเลาะกันนะ / บทที่ 1560 คนงามล้วนแต่เป็นเมฆลอยล่อง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1559 พวกคุณอย่าทะเลาะกันนะ

ถ้าพวกเป่ยโต่วกับชีซิงเห็นจี้ซิวหร่านอยู่ที่นี่ เธอต้องถูกพูดถึงจนชั่วฟ้าดินสลายแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของเธอกับจี้ซิวหร่านจะให้คนนอกรู้ไม่ได้ด้วย

“ผมหลบหน่อยดีกว่า” จี้ซิวหร่านเอ่ยปาก สายตาหยุดอยู่ที่ตู้เก็บของหลังใหญ่นั้น

เมื่อเห็นจี้ซิวหร่านเปิดประตูตู้ออก เยี่ยหวันหวั่นตะโกนเสียงดัง “อย่านะ…”

ตู้ล็อกอยู่ เปิดจากด้านในไม่ได้ แต่เปิดจากด้านนอกได้

ตอนที่จี้ซิวหร่านเปิดประตูตู้เก็บของออก ดวงตาที่อ่อนโยนเหมือนลมเย็นก็สบเข้ากับดวงตาที่มุทะลุและเย็นเยือกเหมือนน้ำแข็งคู่นั้น…

เยี่ยหวันหวั่นร้องครวญพลางหลับตา

นี่มัน…ชีวิตของคนบาป!

“พี่เฟิง! พี่เฟิง! เอ๊ะ? ทำไมประตูบ้านพี่ถึงพังล่ะ”

เยี่ยหวันหวั่นกุมหน้าผาก ได้แต่ผลักจี้ซิวหร่านเข้าไป จากนั้นมองผู้ยิ่งใหญ่สองคนที่อยู่ด้านในอย่างร้อนรน “ลำบากทั้งสองคนแล้ว ฉันจะไล่คนไปเดี๋ยวนี้แหละ! พะ…พวกคุณ…อยู่กันอย่างสงบล่ะ…”

อย่าสู้กันด้านในเชียว…

เธออยากจะร้องไห้เหลือเกิน…

จี้ซิวหร่านเหลือบมองชายหนุ่มคนด้านข้างแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มอย่างสบายๆ “ได้สิ”

สมกับเป็นจี้ซิวหร่าน! ถึงจะเห็นผู้ชายคนอื่นในตู้ก็ยังยิ้มได้! ไม่มีปฏิกิริยาแปลกๆ แม้แต่น้อย!

นี่เธอไปยั่วยุบุคคลที่น่ากลัวแบบไหนเข้ากันแน่!

ส่วนนายของอาชูร่า เขามองเธอด้วยสายตาคมกริบเชือดเฉือน ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง

เยี่ยหวันหวั่นรีบปิดประตูตู้เก็บของ

พริบตาที่เธอปิดประตูตู้ เป่ยโต่วกับชีซิงก็เดินเข้ามา

เป่ยโต่วหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟา แล้วยกน้ำชาที่เมื่อครู่จี้ซิวหร่านเพิ่งดื่มขึ้นมาดื่มอึกๆ ไม่ได้สังเกตเรื่องทำนองว่าชายังอุ่น หรือเพิ่งมีคนมาแม้แต่น้อย

“พี่เฟิง ทำไมประตูพี่ถึงพังล่ะ เมื่อเย็นตอนพวกผมมายังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่เหรอ แต่ไม่เป็นไร เรื่องติดตั้งประตูผมเชี่ยวชาญ ไว้ผมช่วยพี่ซ่อมทีหลัง! เชื่อมือผมได้!” เป่ยโต่วที่ซ่อมประตูจนมีประสบการณ์เอ่ยปากอย่างภาคภูมิใจ

“ทำไมพวกนายสองคนกลับมาอีกล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นจ้องทั้งสองพลางขบกราม

เป่ยโต่วเอ่ยตอบ “แน่นอนว่าเพราะมีเรื่องเร่งด่วนสำคัญมากน่ะสิ!”

เยี่ยหวันหวั่นปากยิ้มใจไม่ยิ้ม “เหอะๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตละก็ ฉันจะอัดนายให้ตาย!”

“เรื่องเกี่ยวกับชีวิตพี่เฟิง จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตได้ยังไง!” เป่ยโต่วพูดไปด้วยตบมือไปด้วย “ทุกคนเข้ามาเลย!”

พูดจบ คนสิบกว่าคนก็กรูกันเข้ามาจากข้างนอก

เยี่ยหวันหวั่นกวาดตามองผ่านๆ ทั้งหมดคือ…ผู้ชายหนุ่มแน่นหน้าตาหล่อเหลา…

มีหลากบุคลิกหลายสไตล์ แถมระดับความหน้าตาดีสูงกว่ากลุ่มที่เป่ยโต่วรีบร้อนหามาเมื่อครั้งก่อนหลายเท่า

ดูท่าทาง ครั้งนี้น่าจะเสียแรงกายไปไม่น้อยกว่าจะหาคนพวกนี้มาได้

เยี่ยหวันหวั่นนวดหัวคิ้วอย่างปวดหัวเหลือทน “มาอีกแล้ว! บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามาลำบากเรื่องนี้อีก อีกอย่างสถานการณ์ของฉันคราวนี้ นายหาคนมาก็เปล่าประโยชน์!”

เป่ยโต่วพลันเขยิบเข้าไปใกล้เยี่ยหวันหวั่น ก่อนบอกว่า “จะเปล่าประโยชน์ได้ยังไง! ว่ากันว่าของนั่นส่งผลถึงร่างกายพี่การหลั่งฮอร์โมนเอยอะไรเอย ทำให้พี่เสียการควบคุมได้ง่ายขึ้น พี่ดูสิ การกระทำช่วงนี้ของพี่ก็พิสูจน์แล้วว่าจริง! อย่าให้ถึงตอนนั้นพิษกู่ยังไม่ได้แก้ ชีวิตก็เสียไปก่อนแล้วสิ!

พี่เฟิง พี่ก็ใช้แก้ขัดไปก่อนเถอะ พี่จะได้ไม่ทนไม่ไหวจนรนหาที่ตาย! จี้หวงกับนายของอาชูร่าพี่ไม่ต้องคิดถึงเลย นะ!”

แม้ชีซิงไม่ได้เอ่ยวาจา แต่ก็คงเห็นด้วยกับความคิดของเป่ยโต่ว

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างหนักแน่นจริงใจ เพื่อรีบกล่อมสองคนนี้ให้จากไป “ก่อนหน้านี้พูดไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันแค่ว่างจนเบื่อน่ะ! ในใจของพวกนาย ฉันที่เป็นหัวหน้าจะถูกมนตร์เสน่ห์จนลุ่มหลงมัวเมา เป็นคนที่ไม่รู้จักหนักเบาเชียวเหรอ?”

————————————————————————————-

บทที่ 1560 คนงามล้วนแต่เป็นเมฆลอยล่อง

“หรือว่าฉันจะถูกมนตร์เสน่ห์จนลุ่มหลงมัวเมา เป็นคนที่ไม่รู้จักหนักเบาเลย?”

เมื่อเยี่ยหวันหวั่นพูดประโยคนี้จบ ชีซิงเลือกนิ่งเงียบ ส่วนเป่ยโต่วพยักหน้าแรงๆ “แล้วไม่ใช่เหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “นายมานี่มา!”

ฉันรับประกันว่าจะทุบนายให้ตาย!

เป่ยโต่วไปหลบอยู่ด้านหลังชีซิงทันที “พี่เฟิง รู้จักพี่มาตั้งหลายปีแล้ว ผมจะไม่เข้าใจพี่ได้เหรอ พี่ก็อย่าหลอกตัวเองหลอกคนอื่นอีกเลย!

ยังไม่ได้ดูคน จะรู้ได้ยังไงว่าไม่ชอบ พี่ลองมองดูดีๆ ครั้งก่อนรีบร้อน แต่ครั้งนี้ผมทุ่มเทใจหามาจริงๆ นะ ตอนผมหาภรรยายังไม่จริงจังขนาดนี้เลย! พี่ก็ดูสักนิดก่อนเถอะน่า!”

เหอะๆ …

เมื่อคิดถึงสองคนข้างในตู้ ต่อให้เป็นเทพธิดาจากสวรรค์ชั้นเก้าจุติลงมา เธอก็ไม่มีอารมณ์ไปเชยชมเข้าใจไหม?

เยี่ยหวันหวั่นกวาดตาผ่านหนึ่งรอบ ครั้งนี้คนที่พวกเป่ยโต่วหามาหน้าตาดีมากจริงๆ แม้แต่บุคลิกก็น่าประทับใจมาก

แต่น่าเสียดาย…หากไม่มีตัวเปรียบเทียบก็คงไม่เจ็บปวด…

เทียบกับสองคนในตู้นั้นแล้ว…

จะโทษเธอก็ไม่ได้ที่ไม่มีอารมณ์มองสักนิดเดียว…

เพื่อจัดการเป่ยโต่วกับชีซิง เยี่ยหวันหวั่นได้แต่เลือกส่งๆ มาหนึ่งคน “งั้นเอาคนนี้แล้วกัน!”

เป่ยโต่วมองคนที่เยี่ยหวันหวั่นเลือก อีกฝ่ายหน้าตาน่ารักเป็นพิเศษ บนใบหน้ามีลักยิ้ม ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเขินอาย

เป่ยโต่วพูดงึมงำทันที “พี่เฟิง พี่อย่าก่อเรื่องเลย พี่จะไปชอบไทป์อย่างนี้ได้ยังไง! เลือกดีๆ อย่ามาตบตาผม พี่มานี่ มาดูว่าคนนี้เป็นยังไงบ้าง”

เป่ยโต่วลากเยี่ยหวันหวั่นไปอีกด้านหนึ่งเหมือนจะโชว์ของล้ำค่า และชี้ผู้ชายคนสุดท้าย “พี่ดูคนนี้! เป็นยังไงบ้าง?”

เยี่ยหวันหวั่นมองไปยังชายคนที่เป่ยโต่วชี้ ชายหนุ่มสวมชุดสูทสีขาว เส้นผมเป็นสีน้ำตาลเข้มธรรมชาติ ดวงตาสีเทาอ่อน หน้าตาหล่อเหลางดงามมาก ใบหน้าอ่อนโยนอมยิ้ม สิ่งที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นชำเลืองตามองที่สุดคือ รูปลักษณ์ของชายคนนี้คล้ายคลึงกับซือเยี่ยหานอยู่บางส่วน…

เยี่ยหวันหวั่นบอก “คนนี้…”

ผู้ชายคนนี้เป็นร่างประสานของจี้หวงกับนายของอาชูร่าชัดๆ!

บุคลิกเหมือนจี้หวง หน้าตาเหมือนนายของอาชูร่า!

“เป็นยังไงบ้างๆ ไม่เลวใช่ไหม! มีจุดเด่นของจี้ซิวหร่านกับนายของอาชูร่าหมด ผมหาทั่วทั้งรัฐอิสระเลยนะกว่าจะเจอคนสุดยอดขนาดนี้!” เป่ยโต่วเอ่ยอย่างตื่นเต้น

เมื่อครู่นี้เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้มองคนพวกนี้อย่างละเอียดเลย ตอนนี้พอมองดู ก็จำต้องยอมรับว่า ถ้าพูดจากแค่มุมมองของการชมเชย คุณสมบัติของคนคนนี้ดีมากจริงๆ เป็นประเภทที่ถ้าอยู่ในวงการบันเทิง อาศัยแค่รูปลักษณ์ภายนอกก็ดังพลุแตกได้แล้ว…

“ไม่เลวจริงๆ…” เยี่ยหวันหวั่นลูบคางพลางเอ่ย

ได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว ดวงตาของชายหนุ่มพลันวาบแววดีใจ

“ใช่ไหมๆ! ผมรู้ว่าพี่ต้องชอบ! พี่คิดดูนะ อยู่กับหนุ่มหล่อคนนี้ก็เหมือนอยู่กับจี้หวงแล้วก็นายของอาชูร่าพร้อมกัน จะดีขนาดไหน!” เป่ยโต่วแนะนำอย่างแข็งขัน

เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาใส่เป่ยโต่วหนึ่งที อะไรคืออยู่กับจี้หวงแล้วก็นายของอาชูร่าพร้อมกัน…

อย่าพูดจาน่ากลัวขนาดนั้นได้ไหม

เป่ยโต่วมองประเมินสีหน้าเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยปาก “เป็นยังไง ไม่งั้นก็ให้เขาอยู่ดีไหม อ้อ คนเดียวพี่เฟิงต้องไม่พอแน่ งั้นผมให้อยู่หมดเลยแล้วกัน!”

มุมปากของเยี่ยหวันหวั่นกระตุกเบาๆ “ไม่พอปู่นายสิ! ไม่เอา สักคนเดียวก็ไม่เอา! พาออกไปให้หมด ฉันจะนอนแล้ว อย่ามารบกวนฉัน! ฉันจะบอกนายให้ ตอนนี้ฉันไม่สนใจคนหล่อสักนิดเดียว! ผู้ชายอะไรนั่นเป็นแค่เมฆล่องลอยทั้งนั้น!”