บทที่ 1561 ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น / บทที่ 1562 นี่มันฉากนองเลือดชัดๆ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1561 ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น

เป่ยโต่วเบ้ปาก อ้าปากต่อว่า “พี่เฟิง พี่โกหก! พี่ยังไม่ตัดใจจากจี้หวงกับนายของอาชูร่า!”

ชีซิงเอ่ยด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ถ้าพี่เฟิงไม่ชอบคนพวกนี้ พวกผมหาใหม่ก็ได้”

เยี่ยหวันหวั่นโกรธจนแทบบ้า เจ้าเด็กซนสองคนนี่ยังพูดไม่ฟังอยู่อีก!

เป่ยโต่วให้สิบกว่าคนนั้นออกไปก่อน จากนั้นพูดอย่างไม่ยอมแพ้ “พี่เฟิง กะแล้วว่าพี่ต้องไม่พอใจ กลุ่มที่สองกับกลุ่มที่สามอยู่ระหว่างทางมาแล้ว ผมจะต้องหาคนที่ทำให้พี่พอใจให้ได้!”

เยี่ยหวันหวั่นเท้าคาง เอ่ยอย่างหมดแรง “ฉันสาบาน ก่อนหน้านี้ฉันแค่เบื่อเลยเล่นๆ เท่านั้นจริงๆ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับจี้หวงและนายของอาชูร่าสักนิด โอเคไหม?”

“จริงเหรอ? ” เป่ยโต่วไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด “งั้นพี่ให้กุหลาบขาวจี้หวงเก้าสิบเก้าดอกในที่สาธารณะ นัดจี้หวงดินเนอร์ใต้แสงเทียน แถมกินเสร็จดึกดื่นค่อนคืนยังปีนกำแพงคฤหาสน์อาชูร่าไปแอบพบนายของอาชูร่า ตอนกลับมาก็สวมชุดของนายของอาชูร่าอีก…”

เยี่ยหวันหวั่นห้ามไม่ทันเลย เป่ยโต่วพล่ามรอบเดียวก็หมดเปลือก

เยี่ยหวันหวั่นรีบมองไปยังตู้เก็บของหลังใหญ่อย่างขวัญหนีดีฝ่อ ก่อนจะถลึงตาใส่เป่ยโต่วอย่างโหดเหี้ยม

เป่ยโต่วเจ้าบ้านี่!

แม่งเอ๊ย! ขายเธอหมดเปลือกซะงั้น!

ภายในตู้เวลานี้

ในแสงมืดสลัว สายตาของชายหนุ่มสองคนประสานกันประหนึ่งสายฟ้าแลบ

ประสิทธิภาพการเก็บเสียงของตู้พอใช้ได้ หากเสียงไม่ดังมากไป โลกภายนอกก็จะไม่ได้ยิน

พื้นที่เล็กแคบพอฝืนยัดได้แค่สองคน จี้ซิวหร่านเอนตัว ยิ้มบางๆ พลางเอ่ย “เจอกันอีกแล้ว เป็นเกียรติที่ได้พบ”

ชายหนุ่มอีกคนแววตาเรียบเฉย “จี้หวงหนักแน่นจริงๆ”

ตอนดึกดื่นมาเจอผู้ชายคนอื่นหลบอยู่ในตู้ในบ้านคู่หมั้นของตัวเอง ก็ใจเย็นแบบนี้ได้ ไม่หนักแน่นหรอกเหรอ

จี้ซิวหร่านหัวเราะ “ชมเกินไปแล้ว ผมแค่เชื่อเสี่ยวเฟิง”

น้ำเสียงที่สุขุมมั่นใจของอีกฝ่าย ทำให้ใบหน้าที่แต่เดิมเย็นยะเยือกของชายหนุ่มพลันดำทะมึนลงอีกหลายส่วน

เขามีสีหน้าไร้อารมณ์ “ดูเหมือนจี้หวงจะเข้าใจในตัวเธอแค่นี้เอง”

“หึๆ …” จี้ซิวหร่านยิ้มน้อยๆ มองนายของอาชูร่าอย่างนิ่งเฉย “นายของอาชูร่าพูดแบบนี้ เห็นชัดว่าก็ไม่เข้าใจในตัวผมคนนี้”

ได้ยินดังนั้น ซือเยี่ยหานทำหน้าไร้อารมณ์ “ผมคิดว่าผมไม่สนใจที่จะเข้าใจคุณ”

“งั้นเหรอ” จี้ซิวหร่านยกมุมปากน้อยๆ “แต่ผมสนใจ”

เวลาเดียวกัน ด้านนอกตู้ เยี่ยหวันหวั่นรีบตัดบทเป่ยโต่วที่ยังพูดพล่ามไม่หยุด เธอเอ่ยเสียงลอดไรฟัน “จริงแท้แน่นอน นายไม่เห็นเหรอว่างานเลี้ยงคืนนี้พวกเขาสองคนก็อยู่กันหมด แต่ฉันอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร”

ก็แค่ทำนิดหน่อยในที่ลับเท่านั้น…

“โอ้…” เป่ยโต่วส่ายหน้า “พี่เฟิง พี่อยากนอนกับนายของอาชูร่าแล้วก็จี้หวง นี่เข้าใจได้ แต่ว่า…สองคนนั้นไม่ได้ยุแหย่ง่ายขนาดนั้น พี่ว่าพี่ทำร่างกายที่บริสุทธิ์ของนายของอาชูร่ากับจี้หวงแปดเปื้อนแล้วไม่รับผิดชอบ ถึงตอนนั้นพวกเขาสองคนเกิดเดือดดาลขึ้นมา จะจัดการพวกเราพันธมิตรอู๋เว่ย พวกเรารับมือยากนะ อีกอย่างชื่อเสียงของพี่เฟิงก็จะฉาวโฉ่ไปด้วย”

เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ แม่นายสิ…

“พูดเหลวไหลอะไร ฉันไม่มีอะไรกับจี้หวงกับนายของอาชูร่าทั้งนั้น!” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วแน่น

“จริงเหรอ” เป่ยโต่วมีสีหน้ายากจะอธิบาย

พอเห็นทั้งสองคนหวั่นไหว เยี่ยหวันหวั่นแถต่อไป “พวกนายสองคนรู้จักฉันตั้งขนาดนี้แล้ว ยังไม่เข้าใจฉันอีกเหรอ รสนิยมฉันแต่ไหนแต่ไรเปลี่ยนไวจะตาย จะมาเสียเวลากับคนคนเดียวได้ยังไง ต่อให้ก่อนหน้านี้สองคนนั้นน่าสนใจอยู่จริงๆ แต่เวลาผ่านมานาน ก็เป็นแบบนั้นแล้ว…”

สองคนในตู้หมดคำจะพูด

——————————————————————————————

บทที่ 1562 นี่มันฉากนองเลือดชัดๆ

“นั่นก็จริง…” เป่ยโต่วพยักหน้า สีหน้าท่าทางของชีซิงก็ลังเลแล้ว

ไป๋เฟิงมีนิสัยอย่างนี้จริงๆ เหรอ?

เมื่อเห็นว่าตัวเองเดาถูก เยี่ยหวันหวั่นพูดข้างๆ คูๆ ต่อ “ใช่มั้ยล่ะๆ! ต่อให้จี้หวงกับนายของอาชูร่าหน้าตาดีขนาดไหน มองมากๆ เข้าก็เป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ!”

ชายหนุ่มสองคนในตู้สบตากัน

“ก็จริงนะ!” เป่ยโต่วพยักหน้ารัวๆ “พี่เฟิง สองคนนั้นก็หน้าตาดีอยู่หรอก แต่แหย่ทีหนึ่งแรงกดดันสูงนา พี่เฟิงพี่ดูคนพวกนี้อีกทีสิ จิ๊ๆ หน้าตาไม่แย่ อันที่จริงปิดไฟก็เหมือนกันๆ อีกอย่าง พี่อยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้น ไม่มีแรงกดดันทางใจ พี่เฟิงว่าใช่ไหม!”

“จริงๆๆ…แต่วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์ ครั้งหน้า…ไว้ครั้งหน้านะ…” เยี่ยหวันหวั่นโบกมือรัวๆ อยากให้ชีซิงกับเป่ยโต่วพาคนไสหัวไปโดยเร็ว

“เอ่อ…พี่เฟิง พี่ไม่เอาจริงเหรอ ยังมีอีกสองกลุ่มนะ! หน้าตาดีกว่านี้อีก!” เป่ยโต่วรีบบอก

“อย่า…ฉันบอกแล้วไงว่าครั้งหน้า! พวกนายรีบกลับบ้านไปดื่มกันเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นกัดฟัน เจ้าเด็กน่าตายนี่ทำไมฟังไม่รู้ความนะ?

เป่ยโต่วกับชีซิงกำลังจะถูกโน้มน้าวได้แล้วในที่สุด

วินาทีถัดมา เสียง ‘ปัง’ ก็ดังขึ้น จู่ๆ ก็มีเสียงดังสนั่นมาจากทางตู้หลังใหญ่ด้านหลัง

จากนั้นก็เห็นว่ากลอนของประตูตู้ตกลงพื้นดังแกร๊ก ประตูตู้ถูกคนผลักเปิดจากด้านใน ก่อนจะร่วงลงพื้นแหลกเป็นชิ้นๆ

และจี้หวงกับนายของอาชูร่าก็เดินออกมาจากตู้ด้วยกันทั้งอย่างนั้น…

ในพริบตาที่ออกมาจากตู้…

เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกว่าเหนือหัวตัวเองเหมือนมีสายฟ้าเก้าสายฟาดลงมา…

เป่ยโต่วตาโตจ้องคนเป็นๆ ที่จู่ๆ ก็เดินออกมาจากตู้ ถ้วยชาในมือเขาตกลงพื้น น้ำชาไหลลงมาจากมุมปากโดยไม่รู้ตัว…

ชีซิงก็มีสีหน้าตกตะลึง จ้องมองสองคนนั้น เหม่อลอยโดยสมบูรณ์ และแทบจะไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง…

แต่คนที่ตะลึงที่สุดยังคงเป็นเยี่ยหวันหวั่น!

สวรรค์!

พวกนายสองคน…จะออกมาทำไม!!

ถ้าเธอมองไม่ผิด สองคนนี้ไม่น่าจะทะเลาะกันด้านในจนเผลอทำประตูตู้พัง แต่ว่ายกมือพังประตูตู้พร้อมกัน!

จี้หวงมองเยี่ยหวันหวั่น ยิ้มบางๆ พลางเอ่ย “ขอโทษที ในตู้ร้อนอบอ้าวไปหน่อยเลยทนไม่ไหวน่ะ”

เหตุผลนี้น่ะเหรอ?

ใครมันจะไปเชื่อ! อีกอย่างนี่คือจุดจบเหรอ?

ด้านนายของอาชูร่าจัดแขนเสื้ออย่างไม่รีบร้อน ไม่นึกว่าจะส่งเสียงคล้อยตาม “อืม”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

ฉันเชื่อพวกนายตายแหละ!

วินาทีก่อนเยี่ยหวันหวั่นยังพูดว่าตัวเองไม่สนใจจี้หวงกับนายของอาชูร่าแม้แต่น้อย

และวินาทีถัดมา เป่ยโต่วกับชีซิงก็เห็นจี้หวงกับนายของอาชูร่าตัวเป็นๆ เดินออกมาจากตู้ในบ้านเธอ

หนำซ้ำนายของอาชูร่าที่แต่งตัวเนี้ยบไร้ที่ติและหักห้ามใจตัวเองเสมอมา เวลานี้กระดุมสองเม็ดตรงหน้าอกเขาแยกออกจากกัน เห็นได้ชัดว่าเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย…

ฉากนี้…เป็นฉากนองเลือดชัดๆ …

ไหนว่าจะไม่ทำอะไรไง!

ไหนว่าคนงามล้วนเป็นเมฆล่องลอยไง!

ไหนว่าไม่สนใจจี้หวงกับนายของอาชูร่าไง!

ขณะที่จ้องลูกพี่ใหญ่สองคนตรงหน้า เป่ยโต่วตัวสั่นระริก รีบร้อนเช็ดน้ำชาที่ไหลออกมาจากมุมปากแล้วลุกพรวดขึ้นยืนตรงแหน่ว

ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า ถึงรู้สึกว่าสายตาที่สองคนตรงหน้ามองเขาน่ากลัวอยู่นิดๆ

เขาทำผิดอะไรเหรอ?

เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ…

แม้แต่ชีซิงที่ใจเย็นมาตลอดก็จ้องฉากนี้อย่างเชื่องช้าใจลอย เขาอ้าปากพะงาบ แต่ท้ายที่สุดผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

เยี่ยหวันหวั่นกุมหน้าผาก สีหน้าเหมือนอยู่ไม่สู้ตายไปเลย…