ลู่ฝานคารวะฉินฝานแล้วพูดว่า “เตี้ยนเซี่ย ทำไมเตี้ยนเซี่ยถึงมาที่นี่ล่ะครับ”

ฉินฝานยิ้มแล้วพูดว่า “นายเอาจดหมายมาให้ฉัน ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ เหอะๆ ล้อเล่น อันที่จริงถ้าไม่มีจดหมาย ฉันก็ต้องมาอยู่แล้ว มานั่งสิสหายลู่ฝาน”

ลู่ฝานเพิ่งนึกเรื่องที่เขาให้สิบสามไปส่งจดหมายขึ้นได้

เขารีบมองซ้ายมองขวา ในที่สุดก็เห็นสิบสามที่มีผงยาเต็มตัวอยู่ตรงมุม อีกทั้งเจ้าดำที่หมอบอยู่หน้าประตู

สิบสามพยักหน้าเบาๆ ให้ลู่ฝาน เพื่อบอกว่าเขาทำเรื่องที่ควรทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ลู่ฝานก็อมยิ้มแล้วพยักหน้าให้เขา

ค่อยๆ นั่งลงช้าๆ ส่วนอู่คงหลิงยืนอยู่อีกด้าน รินชาให้ทั้งสองคน

เซียวเฮ่ากับอูลี่คุน สามีภรรยาคู่นี้ทำอะไรไม่ถูก พวกเขาเคยเจอบุคคลยิ่งใหญ่ในวังที่ไหนกันล่ะ ลู่ฝานเห็นท่าทางทั้งสองคนดูเป็นทางการเกินไป จึงพูดว่า “เซียวเฮ่า นายไปช่วยผู้ฝึกชี่พวกนั้นจัดการปัญหาเถอะ เรื่องสำคัญยังไงก็ต้องทำ”

เซียวเฮ่าเหมือนได้รับการนิรโทษกรรม เขารีบตอบรับ แล้วดึงอูลี่คุนเดินออกไป

หลังจากอู่คงหลิงรินชาให้ทั้งสองคนเสร็จเรียบร้อย ก็คำนับแล้วถอยออกไป กวักมือเรียกสิบสาม ทั้งสองคนเดินกลับขึ้นไปด้านบน

ชั้นหนึ่งของเจดีย์ขาว เหลือแค่ลู่ฝานกับฉินฝานเพียงสองคน

ฉินฝานจิบชาเบาๆ แล้วพูดว่า “สหายลู่ฝาน ครั้งนี้นายเจอปัญหาใหญ่แล้ว!”

ลู่ฝานพูดอย่างสุขุมว่า “ผมรู้ แต่เรื่องที่ทำลงไปแล้ว ผมไม่มีทางเสียใจเด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ในตอนนั้น ถ้าให้ผมเจออีกครั้ง ผมก็จะทำแบบนั้น”

ฉินฝานยิ้มแล้วพูดว่า “มีความห้าวหาญ แต่มีแค่ความห้าวหาญไม่พอหรอก ต่อไปสหายลู่ฝานจะทำยังไงเหรอ จะหนีหรืออยู่ต่อ หรือจะสู้”

ลู่ฝานครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ถ้าสู้ได้ก็สู้ ถ้าสู้ไม่ได้ก็หนี”

ฉินฝานพูดอย่างประหลาดใจเล็กน้อย “เอ๊ะ ฉันนึกว่าสหายลู่ฝานจะพูดออกมาอย่างห้าวหาญเสียอีก!”

ลู่ฝานยิ้มแหยแล้วพูดว่า “ความห้าวหาญใช้ไม่ได้หรอกครับ ผมแค่พูดตามความเป็นจริงเท่านั้น”

ฉินฝานพูดว่า “พูดตามความเป็นจริงนั้นดี ฉันชอบฟังคนพูดตามความเป็นจริง เหอะๆ แต่สหายลู่ฝานไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก ไท่จื่อ หรือพี่ชายสุดที่รักของฉัน เมื่อคืนเขาโดนทำโทษขังไว้ที่เขาวิถีบู๊แล้ว หลังผ่านเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี ถึงจะกลับมาได้”

ลู่ฝานพูดอย่างประหลาดใจ “ไท่จื่อโดนขังเหรอครับ”

ฉินฝานพยักหน้าพูดว่า “ใช่ เพราะตามฆ่านาย พี่ชายคนนั้นของฉันลงมือกับคนของเจดีย์ยา พ่อรู้เรื่องนี้เมื่อคืน แล้วก็ลงโทษพี่ชายสุดที่รักของฉันต่อหน้าทุกคนเมื่อคืน ลงโทษให้เขาขอโทษเจดีย์ยา แล้วก็ขังไว้อีกสองสามเดือน”

ลู่ฝานแอบถอนหายใจอย่างโล่งใจ

ฉินฝานเห็นสีหน้าลู่ฝานผ่อนคลายลง จึงพูดต่อ “แต่สหายลู่ฝานก็อย่าประมาท ได้ยินว่าตอนพี่ชายของฉันใช้ค่ายกลเคลื่อนฟ้าออกจากวังเมื่อวาน ยังตั้งใจสั่งลูกน้องเขาไว้ด้วย บอกว่าต้องฆ่านาย ไม่รู้ว่าตอนนี้คนด้านนอกตั้งเท่าไรรอเด็ดหัวนายอยู่ เพื่อที่จะขอความดีความชอบจากเขา”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ก็มาสิ ผมไม่กลัว ขอแค่เขาไม่ไปหาครอบครัวผมก็พอ”

ฉินฝานหัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันมาที่นี่เพราะเรื่องนี้แหละ พูดตามตรงเลยแล้วกัน เมื่อคืนฉันได้รับรายงาน เซียนบำเพ็ญชี่สามคนของจวนไท่จื่อ เปิดจุดค่ายกลเคลื่อนฟ้าออกจากเมืองหลวง ฉันไม่ต้องบอก สหายลู่ฝานน่าจะรู้ว่าพวกเขาจะไปทำอะไร”

ลู่ฝานสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขากัดฟันพูดว่า “ถ้าครอบครัวผมเป็นอะไร ถึงผมต้องทุ่มด้วยชีวิต ผมก็ต้องให้ไท่จื่อชดใช้!”

ฉินฝานส่ายหน้าพูดว่า “วางใจเถอะสหายลู่ฝาน ครอบครัวนายไม่มีทางเป็นอะไร เพราะมีฉันอยู่!”