GGS:บทที่ 938 เป็นฉันจริงๆนะ

 

ภายใต้ชื่อช่องสตรีมของกวนจูจิวนั้นได้มีชื่อวูจู่ต่อท้าย และช่องที่ว่ากวนจูจิวกำลังจะสตรีมนี้ได้สร้างเสียงฮือฮาในทันที

โดยปกตินั้นเขาจะทำการสตรีมตอนสองทุ่มในทุกคืน ไม่มีสักครั้งที่เขาจะสตรีมตอนกลางวัน ถึงแม้ว่าวันนี้ตัวเขานั้นจะสตรีมช้ากว่าปกติไปก็ตาม

เหตุผลนั่นก็เพราะว่ารูปลักษณ์เขาในตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วทำให้เขานั้นยังทำใจที่จะต้องเจอเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทั้งหลายไม่ได้จนถึงเมื่อครู่นี้เพราะเลือดขึ้นหน้า

ถึงแม้ช่องสตรีมของเขาในตอนนี้จะมีแฟนคลับติดตามมากมายขนาดไหนก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพราะรูปลักษณ์หล่อเหลาหลังแปลงโฉมมาแล้ว แต่ตอนนี้เขาอยู่ในรูปลักษณ์เดิมซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ติดตามเพียงแค่หยิบมือเท่านั้นเอง แถมเขาเองก็ไม่ได้ใช้รูปลักษณ์นี้สตรีมมาก็นานแล้วยิ่งทำให้คนที่ยังติดตามอยู่คงเหลือแค่นับหัวได้

แต่ตัวเขานั้นเมื่อได้เห็นสตรีมเมอร์ในสังกัดซูจิ้งอย่างหยินหนิงหนิงและจูซิวหนี่ได้รับความนิยมแบบสุดๆทั้งที่เขาเองก็ควรจะได้ความนิยมเท่านี้ไม่แพ้กันทำให้เขารับไม่ได้จริงๆจึงได้ทำการสตรีม

ตอนนี้เมื่อแฟนพันธุ์แท้ของช่องกวนจูจิวเห็นว่าคนที่กำลังสตรีมไม่ใช่สตรีมเมอร์หน้าหล่อของพวกเขาจึงได้ถามออกมาว่า

“คุณเป็นใคร แล้วพี่จูล่ะ”

“ไม่ใช่ว่านายขโมยช่องของเขามาใช่รึเปล่า นี่ได้เวลาที่พี่จูต้องสตรีมมานานแล้วนะ”

“ไอ้อ้วนหน้าด้าน เอาพี่จูของฉันกลับมาเดี๋ยวนี้นะ”

“อย่าพึ่งตื่นตูมไปสิ เขาอาจเป็นเพื่อนของพี่จูก็ได้นะ”

“ฮ่าฮ่า ฉันนี่แหล่ะพี่จูของพวกนาย” ซูจู่พูดออกมาด้วยความตื่นเต้นจนทำให้แก้มย้วยของเขาสะบัดจนเห็นได้ถนัดถนี่

สำหรับตัวเขานั้นถือว่าตัวเขาเองนั้นอ้วนแค่นิดหน่อยเท่านั้นจึงไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดรอบข้าง และพยายามยิ้มสู้เข้าไว้แต่ในความจริงแล้วคือเขาอ้วนจริงๆโดยเฉพาะหลังจากอยู่ดีกินอยู่ดีมาพักหนึ่ง

“แกจะบ้าเหรอ แกมันคือไอ้อ้วน หัดตักน้ำใส่กะโหลกแล้วชะโงกดูเงาหัวตัวเองซะบ้างว่าหน้าตาของแกเหมือนผีสางขนาดไหน จะเอาหน้าแบบนั้นมาเทียบกับลูกพี่จูของพวกเราเนี่ยนะ”

“แค่แกมองกล้องก็เหมือนโดนมองอยู่แบบนี้ก็ขนลุกแล้ว”

“นั่นน่ะสิ สมองของมันต้องป่วยแล้วแน่ๆ”

“ดูเหมือนว่าหมอนี่จะไม่ใช่เพื่อนของพี่จูของพวกเรา ฉันว่ามันน่าจะขโมยรหัสมาแน่ๆ”

“นี่แกขโมยรหัสมาแล้วยังกล้าเข้ามาสตรีมแบบนี้มันจะเกินไปแล้ว”

“ฟังฉันอธิบายก่อนสิ ฉันคือพี่จูจริงๆแต่ฉันเผลอกินเยอะไปหน่อยจนอ้วนขึ้นมานิดนึง” วูจู่อธิบายด้วยเหตุผลที่แม้แต่เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำพลางหัวเราะออกมา

“แกคิดว่าพวกเราโง่เหรอ ถ้าแกว่ามาอย่างนั้นฉันก็คงเป็น ฟานปิงปิงตอนอ้วนแล้วล่ะ”

“ฉันคงเป็นหลิวอี้เฟยตอนอ้วนเหมือนกัน”

“เดี๋ยวนี้ไอ้พวกขี้โกงนึกจะหลอกคนก็หลอกกันง่ายๆแบบนี้แล้วเหรอ”

“นี่ฉันพูดจริงๆนะ ฉันคือกวนจูจิวจริงๆ ที่พวกนายเห็นก่อนหน้านี้เป็นเพียงการทำศัลยกรรมด้วยเหตุผลบางอย่างเท่านั้นเอง ตอนนี้เรื่องพวกนั้นผ่านไปแล้วฉันเลยกลับมาอยู่ในหน้าตาแบบเดิมเท่านั้นเอง นี่สิถึงจะเป็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของฉัน

 

ถึงแม้ฉันจะดูรูปร่างหน้าตาไม่ดีนักแต่ฉันยังไงก็คือตัวฉันเองอยู่ดี ลองฟังเสียงของฉันดูสิ ลองฟังฉันร้องเพลงออกมาก่อนเถอะนะ” วูจู่พยายามพูดออกมาให้เหล่าแฟนๆของเขาในร่างกวนจูจิวสงบสติอารมณ์ก่อน

ด้วยการที่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดใจต่อปฏิกิริยาของแฟนพันธุ์แท้จึงได้พูดความจริงออกมา พลางได้หยิบกีต้าร์ และเพื่อเป็นการยืนยันว่ากวนจูจิวเองก็คือตัวเขาจริงๆจึงได้พยายามทำให้ทุกอย่างนั้นยังคงเหมือนตอนที่เขายังอยู่ในรูปลักษร์หล่อเหลาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงการพูดคุย เพลงที่ร้อง ความรู้สึกตอนพูดคุย และอื่นๆ

นี่ทำให้เหล่าแฟนพันธุ์แท้ของกวนจูจิวนั้นเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ นั่นก็เพราะว่าเจ้าอ้วนหน้าด้านที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานั้นช่างคล้ายกับท่านพี่กวนจูจิวของพวกเขาอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียง ท่าทาง ลีลาการร้องเพลง จนราวกับว่าเห็นเงาของทั้งสองคนซ้อนทับกันได้เลย

 

ถึงแม้ว่าจะมีแฟนพันธุ์แท้ของเขาหลายๆคนคิดไปว่าคนตรงหน้านี้คือกวนจูจิวของพวกเขาก็จริง แต่ยังไงซะต่อให้เหมือนกันมากมายขนาดไหนแต่ก็ไม่อาจสามารถกลบทับความจริงไปได้

ความจริงที่ว่าก็คือคนตรงหน้าของพวกเขานั้นคือไอ้อ้วนสุดแสนน่าเกลียด

“ไอ้อ้วนนี่ทำฉันรู้สึกขยะแขยงสุดๆเลย”

“แกมันน่าเกลียดชนิดที่เทียบไม่ได้แม้แต่ปลายก้อยของพี่จูเลยนะ”

“ฉันรู้สึกขยะแขยงจริงๆที่ได้เห็นคนอ้วนน่าเกลียดแบบนี้ทำท่าทางเดียวกับพี่จู”

“หมอนี่น่าจะเป็นคนที่หลงใหลพี่จูมากๆจนอยากเป็นเขาเลยพยายามเลียนแบบทุกอย่างให้เหมือนเขาอย่างแน่นอน นี่เขาทำถึงขนาดขโมยตัวตนของพี่จูเลยเหรอ”

“หมอนี่ต้องป่วยยันสมองไปแล้วแน่ๆ แค่มองดูก็รู้ว่ายยังไงก็ไม่ใช่พี่จู”

 

ในโลกนี่มีหลายๆคนที่เชื่อว่าหากมีทักษะที่ดียังไงก็สามารถเป็นที่นิยมได้ต่อให้หน้าตาแย่ขนาดไหนก็ตาม ซึ่งวูจู่คนนี้เองก่อนหน้านี้ก็คิดและเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด

แต่ว่านั่นก็คือคนที่ชื่นชอบตัวตนของเขาจริงๆไม่ใช่กับแฟนพันธุ์แท้ของเขาในคราบกวนจูจิวที่ชื่นชอบทั้งทักษะและรูปร่างหน้าตา เอาจริงๆส่วนใหญ่ชื่นชอบรูปร่างหน้าตามากกว่าทักษะที่เขามาสตรีมให้ดูซะอีก

นี่คือเหตุผลที่แฟนพันธุ์แท้ของเขาส่วนใหญ่เพียงแค่เห็นหน้าของไอ้อ้วนที่ต่อให้มีทักษะแบบเดียวกัน แล้วยังไงล่ะคนที่พวกเขาต้องการนั้นก็คือกวนจูจิวที่หน้าตาหล่อเหลาไม่ใช่ไอ้อ้วนหน้าด้านที่มาทำได้ทุกอย่างแบบเดียวกับพี่จูที่พวกรัก

 

วูจู่ที่ตอนนี้กำลังจ้องมองไปยังคำด่าทออันหยาบโลนของเหล่าแฟนพันธุ์แท้ของเขาตอนที่เคยอยู่ในคราบของกวนจูจิวนั้นแทบจะอยากร้องไห้ออกมา

เขาที่อยู่ในคราบของกวนจูจิวนั้นหากเจอผู้ชมที่เข้ามาดูและเข้ามาทักทาย แต่มีใบหน้าที่อัปลักษณ์ ดูไม่ได้ หน้าตาไม่ดี เขาก็ทำเป็นเฉยเมย

หากพวกนั้นกวนเขามากๆเขาก็เตะคนพวกนั้นออกจากห้องไป โดยไม่สนว่าคนๆนั้นจะเป็นใครมาจากไหนหรือจะโวยวายผ่านช่องทางสื่อสารกลางแค่ไหนก็ตาม

แต่กับในตอนนี้ ตัวเขาที่พยายามแทบจะทุกหนทางเพื่ออธิบายให้เหล่าแฟนพันธุ์แท้ของตัวเขาในคราบกวนจูจิวฟังมากมายขนาดไหนพวกเขาก็ไม่ได้สนใจ

นั่นก็เพราะว่าต่อให้เหมือนขนาดไหนแต่รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้เหมือนก่อนหน้านี้ ราวกับว่าสิ่งที่เขาทำมาก่อนหน้านี้ทิ่มแทงตัวเองจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ยิ่งเขานิ่งอึ้งไปก็ยิ่งถูกด่าทอมากกว่าเดิมอีก

 

ตอนนี้มีแฟนพันธุ์แท้บางคนถึงกับติดต่อผู้ดูแลของเว็บไซต์เพื่อรายงานเรื่องที่วูจู่ขโมยรหัสของกวนจูจิวมาใช้ ไม่นานนักกวงหยวนเองก็ได้รู้เรื่องนี้เข้า

หลังจากที่กวงหยวนตรวจสอบสถานการณ์แล้วเขาจึงได้ถามออกมาว่า “เกิดอะไรขึ้น หมอนี่มันสตรีมเมอร์คนนที่คุณซูซื้อช่องมาไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเขาถึงใช้รหัสของกวนจูจิวได้กัน”

“คุณซูบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ได้เช็คสัญญาของทั้งสองคนแล้วก็พบว่าทั้งสองคือคนเดียวกัน” เลขาสาวพูดออกมาก่อนที่จะยื่นสัญญาให้ดู

“ว่าไงนะ” กวงหยวนถึงกับนิ่งอึ้งไปในทันทีที่ได้ยิน เขาเองก็ได้ตรวจสัญญาที่ว่าทั้งสองฉบับแล้ว อันหนึ่งเป็นของซูจิ้งที่ได้ทำเอาไว้กับสตรีมเมอร์อ้วนมือกีตาร์

 

อีกอันหนึ่งคือของกวนจูจิวที่เป็นสตรีมเมอร์รูปหล่อมากความสามารถ แต่ชื่อที่ลงนามของทั้งสองสัญญานั้นกลับเป็นชื่อเดียวกัน แม้แต่เลขบัตรประจำตัวก็ยังเหมือนกันเลย

เอาจริงๆเจ้าอ้วนมือกีตาร์นั่นเขาจำชื่อช่องของหมอนั่นไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ ยิ่งชื่อจริงนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเข้าไปใหญ่ เขาไม่รู้จักแม้แต่หน้าตาของเจ้าอ้วนด้วยซ้ำไป

เขานั้นจำได้เพียงแต่กวนจูจิวที่ซูจิ้งแนะนำมาให้รู้จักเท่านั้น แน่นอนว่าด้วยการที่ซูจิ้งไม่ได้ตั้งใจให้เขามาจบลงแค่ที่นี่เลยไม่ได้ให้มาเซ็นสัญญา จึงทำให้เขานั้นไม่รู้จักชื่อจริงของกวนจูจิวแต่อย่างใด นี่ยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ว่าทำไมกวนจูจิวถึงได้เซ็นต์ลายเซ็นต์ว่าวูจู่

 

“เดี๋ยวนะ แล้วสตรีมเมอร์สาวอีกคนที่ชื่อว่าหนิงหนิงนั่นล่ะ” เพียงคิดได้ดังนี้กวนหยวนก็ได้ถึงกับใจเต้นแรงในทันที เมื่อเห็นท่าทางของบอสของตัวเองเลขาสาวก็ได้รีบไปนำข้อมูลมาให้ในทันที

และนี่ก็เป็นไปอย่างที่กวนหยวนคาดไว้ ที่อยู่ของหนิงหนิงและหยินหนิงหนิงนั้นคือที่เดียวกัน

“พระเจ้า สตรีมเมอร์ที่คุณซูเลือกเอาไว้ก่อนหน้านี้ไม่ได้หายไปไหนแต่กับแปลงโฉมทั้งสองคนจนเป็นหนิงหนิงและกวนจูจิว แต่ไอ้วูจู่นั่นดันทำเรื่องไม่เข้าเรื่องเลยโดนยกเลิกสัญญาจึงทำให้คุณซูคืนสภาพเดิมให้หมอนั่นสินะ” กวงหยวนคิดได้ดังนั้นถึงกับนิ่งอึ้งไป

 

“เป็นไปได้ยังไงกัน ไม่มีทางเป็นไปได้” เลขาเองก็ประหลาดใจไม่ต่างกัน เธอพลางคิดไปว่าการทำศัลยกรรมจะทำให้สองคนนี้จะเปลี่ยนโฉมไปได้มากขนาดนี้ได้ยังไงกัน มันยากที่จะเชื่อได้เพราะตัวเธอเองก็เห็นและผ่านการศัลยกรรมมาบ้างก็ไม่เห็นว่าจะมีเทคโนโลยีหรือวิธีการใดที่จะทำได้ถึงขนาดนี้ ถ้าเธอต้องไปทำเองล่ะก็แน่นอนว่าต้องเสียเงินไปจำนวนมากกว่าจะได้สวยหล่อขนาดนี้ได้

“คุณซูนี่คือพระเจ้าในร่างมนุษย์โดยแท้ เธออย่าเอาเรื่องนี้ไปแพร่งพรายที่ไหนล่ะ” กวนหยวนพูดออกมา

“เข้าใจแล้วค่ะ” เลขาพยักหน้าและรู้ดีว่าเรื่องนี้อ่อนไหวมากแค่ไหน

“วูจู่มันฆ่าตัวเองแท้ๆ” หลังจากเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องสตรีมของวูจู่ในตอนนี้กวงหยวนเองก็อดที่จะสบถออกมาไม่ได้ เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้คนแบบนี้จะดิ้นต่อไปได้อีกกี่น้ำกัน