“แม่งฉิบหาย ใครให้แกถ่มน้ำลายใส่กู!” เหลยจ้านทั้งสามคนแอบซุ่มอยู่ข้างหน้าสัตว์ประหลาด ยกทวนสายฟ้าขึ้น และแทงไปที่ท้องของสัตว์ประหลาดอย่างแรง

โฮก!

สัตว์ประหลาดรู้สึกเจ็บปวด และคำรามด้วยความโกรธ แล้วก้ามยักษ์สองข้างบนหัวของมันก็กระแทกไปที่เหลยจ้าน

“ถอย!” จีอู๋หยาตะโกนเสียงดัง เหลยจ้านรีบถอยกลับไปที่ระยะป้องกันของเกราะปา-กว้าทันที

เพียงแต่ เมื่อจีอู๋หยาเผชิญกับการโจมตีอย่างรุนแรงของสัตว์ประหลาด ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครางออกมา และสีหน้าขาวซีด

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?” เหลยจ้านถามด้วยความกังวล ถ้าหากสูญเสียเกราะป้องกันของจีอู๋หยาแล้ว พวกเขาทั้งสามจะไม่สามารถเข้าใกล้สัตว์ประหลาดได้

จางเจิ้นและเซี่ยไห่หลงมองจีอู๋หยาด้วยความกังวลเช่นกัน

จีอู๋หยากล่าวว่า “ผมไม่เป็นไร รีบต่อสู้ให้จบโดยเร็วเถอะ!”

“โอเค!” ทั้งสามคนพยักหน้าพร้อมกัน

“สู้!” จีอู๋หยาตะโกนเสียงดัง ถอนเกราะป้องกันออกอย่างรวดเร็ว กระโดดขึ้น ยกเกราะปา-กว้าขึ้นแล้วกระแทกไปที่หัวของสัตว์ประหลาดอย่างแรง

เหลยจ้าน จางเจิ้น และเซี่ยไห่หลง ต่างยกอาวุธของตนเองขึ้น แล้วโจมตีสัตว์ประหลาดอย่างรุนแรงจากสามทิศทาง

ปัง ๆ ๆ ๆ!

ทั้งสี่คนโจมตีไปที่ร่างของสัตว์ประหลาด เกิดเป็นเสียงทุ้มสี่เสียง ราวกับว่าพวกเขากระแทกเปลือกแข็ง และไม่สามารถทะลวงเกราะป้องกันของสัตว์ประหลาดได้

“แม่งฉิบหาย เปลือกของมันแข็งเกินไปแล้ว!” เหลยจ้านดุด่า

“แล้วจะสู้ได้อย่างไร!” จางเจิ้นรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวมาก รู้สึกเหมือนไม่สามารถทำอะไรสัตว์ประหลาดได้

ขณะนี้ เฟิงเหมียนตะโกน “จุดอ่อนของมันอยู่ที่ดวงตา โจมตีดวงตาของมัน!”

พวกจีอู๋หยาสี่คนมองหน้ากัน และพยักหน้าพร้อมกัน

“เซี่ยไห่หลงกับผมดึงดูดความสนใจของมัน เหลยจ้าน จางเจิ้น พวกคุณโจมตีมัน!”

“โอโค!”

จีอู๋หยาและเซี่ยไห่หลงโจมตีด้านหน้า อาศัยเกราะปา-กว้าของจีอู๋หยา สามารถต้านทานการโจมตีของสัตว์ประหลาดเป็นเวลาสั้น ๆ ได้

ขึ้นอยู่กับว่าเหลยจ้านและจ้างเจิ้นจะสามารถโจมตีจุดอ่อนของสัตว์ประหลาดได้หรือไม่

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมาจากหน่วยที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาเคยฝึกด้วยกันมาก่อน ทำให้พวกเราร่วมมือกันอย่างราบรื่น

สุดท้าย จางเจิ้นปล่อยหมัดทั้งสองไปที่ดวงตาของสัตว์ประหลาด แล้วสัตว์ประหลาดก็ถูกเหลยจ้านตัดหัว

หลังจากการต่อสู้สิ้นสุดลง ทุกคนเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน มองสัตว์ประหลาดที่หัวขาด จีอู๋หยากล่าวว่า “ในเมื่อมันสามารถพ่นพิษได้ ร่างกายของมันต้องมีพิษอย่างแน่นอน ตอนที่เอาแกนอสูรต้องระวังตัวด้วย!”

“วางใจเถอะ เรื่องนี้ผมเชี่ยวชาญ!” เมื่อสักครู่ลี่เซี่ยวไม่ได้ช่วย เขาจึงอาสาไปเอาแกนอสูรมา

จีอู๋หยาพยักหน้า “ไปเถอะ!”

ลี่เซี่ยวกระโดดขึ้นไปอยู่บนหัวของสัตว์ประหลาด สวมถุงมือ แล้วเล็งกริชไปที่กึ่งกลางหัวของสัตว์ประหลาด

ลี่เซี่ยวถือแกนอสูรสีดำขนาดเท่ากำปั้นอยู่ในมือ

“ควรมอบแกนอสูรนี้ให้หัวหน้าจี เขามีความดีความชอบมากที่สุด!” ลี่เซี่ยวเสนอแนะ

“เห็นด้วย!” พวกเขาพยักหน้าตามลำดับ เพราะจีอู๋หยามีความดีความชอบมากจริง ๆ

จีอู๋หยาไม่ใช่คนเหยาะแหยะ เขากล่าวเสียงดังว่า “ตกลง ถ้าผมปฏิเสธ มันจะเป็นการไม่ให้เกียรติทุกคน!”

จีอู๋หยารับแกนอสูรมาจากลี่เซี่ยว แล้วคีย์ตัวเลขลงบนข้อมือ

เฉินโม่เห็นว่าบนหน้าจอเครื่องนับจำนวนที่อยู่บนข้อมือของตนเอง หลังชื่อของจีอู๋หยาเปลี่ยนจาก 0 เป็น 1

จีอู๋หยากล่าวว่า “นี่คือแกนอสูรระดับหนึ่ง ถ้าพวกเราสามารถล่าแกนอสูรสีแดงได้ หนึ่งชิ้นมีค่าเท่ากับสิบชิ้น! อย่างไรก็ตาม สัตว์ประหลาดที่แกนอสูรสีแดง แข็งแก่รงมากกว่าตัวนี้มาก”

“พวกเราทำตามกำลังของตนเองเถอะ อย่าโอ้อวดเด็ดขาด เดินทางต่อเถอะ!”

ทุกคนเดินทางต่อ แต่ไม่พบสัตว์ประหลาดใด ๆ บนพื้นที่ราบแห่งนี้อีก บริเวณสุดที่ราบมีเนินเขาเล็ก ๆ ทุกคนเดินขึ้นไปบนเนินเขา และมองลงไป ด้านล่างมีแม่น้ำ นึกไม่ถึงว่าบริเวณด้านหน้าจะมีเมืองด้วย