ถึงแม้ว่าเมืองจะกลายเป็นซากปรักหักพังไปนานแล้ว แต่ก็ยังสามารถเห็นลักษณะที่งดงามของสมัยนั้นได้

“ไป ไปดูกันเถอะ!” จีอู๋หยากระโดดลงไปจากเนินเขา

ดังคำกล่าวที่ว่า มองแล้วใกล้แต่ความจริงไกล ถึงแม้ว่าเมื่อมองแล้ว เมืองนั้นไม่ไกลมาก แต่เมื่อเดินไปแล้ว ก็จะรู้ว่าความจริงแล้วมันไกลมาก

หลังจากเดินประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็เดินมาถึงแม่น้ำสายนั้น

น้ำในแม่น้ำเป็นสีน้ำตาล ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นสีน้ำตาลทั้งหมด

“ที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่? พวกคุณเคยเห็นน้ำในแม่น้ำเป็นสีน้ำตาลแบบนี้ไหม?” ในที่สุดเหลยจ้านก็อดสงสัยไม่ได้ และเอ่ยถาม

ไม่มีใครตอบ เพราะไม่มีใครรู้

จีอู๋หยากล่าวว่า “อย่าเพิ่งศึกษาประวัติศาสตร์ของที่นี่ รีบล่าสัตว์ประหลาดกันเถอะ ตอนนี้คนประเทศฟามีแกนอสูรห้าชิ้นแล้ว”

ขณะที่กำลังพูด ทันใดนั้น น้ำสีน้ำตาลในแม่ก็กลายเป็นน้ำเดือด

เฟิงเหมียนตะโกนว่า “มีสัตว์ประหลาด ทุกคนรีบถอยก่อน”

พวกเขาถอยอย่างรวดเร็ว เฉินโม่ยืนอยู่ด้านหลัง มองแม่น้ำที่กำลังเดือด แล้วหัวงูขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น

เพียงแค่หัวงูก็ใหญ่เท่ารถยนต์แล้ว

เหลยจ้านกล่าวด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ “แม่งฉิบหาย นี่มันตัวอะไรกันแน่?”

หัวของงูค่อย ๆ โผล่ออกมา แต่สัตว์ประหลาดตัวนี้กลับไม่ใช่งู หัวเป็นงูและมีกระดองเหมือนเต่า แต่ไม่มีขา ถ้าหากมันมีแขนและขา มันก็จะเหมือนเต่าดำ สัตว์เทพพิทักษ์ในตำนานของประเทศหัวเซี่ยแล้ว

ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีขา แต่มันก็เร็วมาก เลื้อยไปบนพื้นเหมือนงู

จีอู๋หยาออกคำสั่งอย่างสงบ “ตามกฎเดิม เหลยจ้านไปหยั่งเชิงก่อน!”

“ครับ!” ถึงแม้เหลยจ้านจะคิดเรื่องนี้มาตลอดทาง แต่เมื่อต้องต่อสู้จริง ๆ เขาก็ไม่ได้อืดอาดยืดยาดแม้แต่น้อย

จีอู๋หยาและจางเจิ้นตามไปด้วย พวกเขาสี่คนรับผิดชอบโจมตีด้านหน้า

ขณะที่เซี่ยไห่หลงกำลังจะเดินไปข้างหน้า ทันใดนั้น เขาก็หันกลับมามองเฉินโม่ และกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “เฉินโม่ ในเมื่อหัวหน้าจีไม่ได้มอบภารกิจให้นาย งั้นนายก็เป็นกองหนุนให้พวกเรา และลงมือช่วยพวกเราในช่วงเวลาวิกฤต!”

“ไม่ต้องเป็นห่วงผม คุณระวังตัวด้วย” เฉินโม่รู้เจตนาดีของเซี่ยไห่หลง แต่เฉินโม่ไม่ใส่ใจ เขาบำเพ็ญเซียนเป็นเวลาหกร้อยปีแล้ว ถ้าถือสาเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ แล้วเลียนแบบผู้กล้าที่เมื่อโกรธขึ้นมา ก็ฆ่าคนทันที ถ้าเป็นเช่นนั้น การบำเพ็ญเซียนก็ไร้ประโยชน์

จีอู๋หยามีคุณสมบัติเป็นผู้บัญชาการ เขามีวิสัยทัศน์กว้างไกล และภายใต้คำสั่งของเขา ถึงแม้การล่าสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นจะทำให้ทุกคนรู้สึกอกสั่นขวัญหาย แต่ทุกคนก็ปลอดภัย

คราวนี้พวกเขาได้แกนอสูรสีดำระดับหนึ่ง แต่คราวนี้พวกเขามอบให้เหลยจ้าน เพราะเหลยจ้านใช้ทวนสายฟ้าสร้างความดีความชอบมากที่สุด

หลังจากฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนี้แล้ว พวกเขาดินมุ่งหน้าไปที่เมืองนั้นต่อ

ที่นี่ไม่มีกลางวันหรือกลางคืน ท้องฟ้ามืดครึ้มตลอดเวลา พวกเขาไม่รู้ว่าเดินนานแค่ไหนถึงมาถึงเมืองนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากพวกเขามาถึงเมืองนี้แล้ว พวกเขาตกตะลึงกับความใหญ่โตของเมืองนี้

เมื่อพวกเขาเห็นเมืองนี้ใกล้ ๆ แล้ว ตกใจมากกว่าการมองจากเนินเขาเป็นสิบเท่า!

พวกเขายืนอยู่บนเขตแดนของเมืองนี้ และมองด้วยความตะลึง

แม้แต่เฉินโม่ก็ยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะไม่มีเมืองใหญ่โตเช่นนี้อยู่บนดาวไอกา เขาเคยเห็นบนดาวเคราะห์บางดวงที่เทคโนโลยีล้ำหน้า แต่ก็มีน้อยมาก แม้แต่ขนาดเมืองหลวงของประเทศอเม ก็ยังไม่ถึงหนึ่งในสิบของเมืองนี้

แต่น่าเสียดาย เมืองที่ใหญ่โตแห่งนี้ แต่ตอนนี้ไม่มีอาคารที่สมบูรณ์แล้ว

มันเหมือนกับถูกฝ่ามือใหญ่ทุบจนแตกละเอียด

“ไม่ต้องตะลึงแล้ว เข้าไปดูข้างในกันเถอะ” จีอู๋หยากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม หลังจากกล่าวจบ เขาก็เดินนำเข้าไปในเมือง

พวกเขารีบเดินตามไปทันที เหลยจ้านแสดงนิสัยเดิมออกมาอีกแล้ว เขาเริ่มกล่าวพึมพำ “โอ้สวรรค์ เมืองนี้โอ่อ่าหรูหราใหญ่โตกว่ายานจิงสิบเท่า นี่คือเมืองใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา!”

ลี่เซี่ยวพูดโจมตีเหลยจ้านแบบไม่สอดคล้องกับกระแสนิยม “คุณมองให้ชัดเจน นี่มันเป็นซากปรักหักพัง”