ตี๋เหรินเห็นภาพนี้ อดชมเชยในใจไม่ได้ “เป็นตระกูลที่เด็ดเดี่ยวห้าวหาญจริงๆ!”

แต่ยิ่งเป็นอย่างนี้ยิ่งต้องฆ่า ไม่งั้นมีปัญหาไม่รู้จบแน่ๆ!

“ตายซะ!”

ตี๋เหรินตวาดเสียงดัง

เสียงเหมือนสายฟ้าสะเทือน เมื่อฝ่ามือลงมา เหมือนท้องฟ้าถล่มลงมาด้วย

พลังปราณที่ลู่เฮ่าหรานและคนอื่นปล่อยออกมา เหมือนเปลวเทียนกลางสายลม หายลับไปอย่างรวดเร็ว

ลูกหลานตระกูลลู่จำนวนไม่น้อยหลับตาลง รอความตายมาถึง

แต่ทันใดนั้นเอง เงาคนสองสามคนปรากฏออกมาอย่างกะทันหัน

เหมือนพวกเขาเหาะมาในอากาศ มีสองคนเดินออกมาจากอากาศเวิ้งว้าง

ดาบกระบี่ฝ่ามือหมัด!

ทำลายพลังฟ้าดินทั้งหมดในพริบตา พวกตี๋เหรินช็อกคาที่

พลังชี่สลายหายไป ราวกับดอกไม้ที่สะท้อนในกระจก ดวงจันทร์สะท้อนบนผิวน้ำ เพียงการโจมตีเดียวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

กลางอากาศ มีเงาคนปรากฏออกมาอีกสี่คน

คนแรกเท้าเปล่า มีม้วนหนังสือเสียบตรงเอว เขาคือบัณฑิตหน่วยองครักษ์เสิ่นหวา

คนที่สองถือดาบหักอยู่ที่มือซ้าย มีสายฟ้ากะพริบอยู่บนตัว

คนที่สามหัวล้านหน้าแดง มีแสงสีแดงเคลื่อนไหวอยู่บนหมัด

คนที่สี่เคราขาวเลยเอว ถือกระบี่ยาวหนึ่งเมตรอยู่ในมือ

ตี๋เหรินมองทั้งสี่คน มีเลือดหยดในปาก พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “พวกนายเป็นใคร”

เซียนบำเพ็ญชี่อีกสองคนมีรอยแผลน่ากลัวบนตัว เหมือนทั้งตัวทรุดลงอย่างรวดเร็ว

บัณฑิตพูดอย่างเฉยเมยว่า “อีซูแห่งหน่วยองครักษ์เสิ่นหวา ได้รับคำสั่งจากองค์ชายรองให้มาคุ้มครองตระกูลลู่ ดูเหมือนมาได้ทันเวลาพอดี”

นักบู๊สายฟ้าพูดอย่างราบเรียบว่า “เหลยเฟิงซาน ผู้ป้องกันแนวหน้าของสาขาสายฟ้า หลังจากได้รับเชิญมาดูสำนักจิ่วเซียว พวกนายโชคร้ายมาก”

คนหัวล้านหัวเราะแล้วพูดว่า “หานหั่วไห่ตระกูลหาน ผู้ท่องไปในใต้หล้า จัดการสุนัขรับใช้แบบพวกนาย ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรอก”

ผู้อาวุโสเคราขาวพูดว่า “เทียนเจี่ยอีตระกูลเทียน ผู้จัดการดูแลตงหวา ได้รับคำสั่งจากผู้อาวุโสให้มาคุ้มครองตระกูลลู่”

เมื่อทั้งสี่คนแนะนำตัวเสร็จ ตี๋เหรินหน้าซีดเหมือนคนตาย

หน่วยองครักษ์เสิ่นหวา สาขาสายฟ้า ตระกูลหาน ตระกูลเทียน

ไม่ว่าจะเอาอำนาจด้านไหนออกมา ก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะหาเรื่องได้ ถึงเป็นไท่จื่อ เจอกับอำนาจพวกนี้ ก็ต้องไตร่ตรองถึงความสามารถที่มีอยู่

แต่ตอนนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าอำนาจทั้งสี่ด้านจะส่งคนมาคุ้มครองตระกูลลู่!

จู่ๆ ตี๋เหรินรู้สึกว่าพวกเขาประมาทลู่ฝานเกินไป ถึงขั้นที่ทั้งใต้หล้าประมาทลู่ฝานเกินไป

คนที่สามารถเชิญสี่อำนาจใหญ่มาดูแลได้ จะเป็นคนธรรมดาเหรอ

ตี๋เหรินเงยหน้าถอนหายใจยาว แล้วพูดว่า “เตี้ยนเซี่ย ครั้งนี้เตี้ยนเซี่ยหาเรื่องผิดคนแล้วจริงๆ!”

นักบู๊สายฟ้าตบฝ่ามือลงบนตัวตี๋เหรินอีกครั้ง พลังสายฟ้ารุนแรงระเบิดท่อนล่างของตี๋เหรินออกเป็นชิ้น

“คนพูดจู้จี้จุกจิก ฉันจะไว้วิญญาณนาย ให้ป้ายวิญญาณของนายเห็นหน้าฉันชัดๆ จำเอาไว้ ฉันไม่สนว่าประมุขนายคือใคร ฉันคุ้มครองคนตระกูลนี้!”

เหลยเฟิงซานพูดอย่างองอาจ

หานหั่วไห่หัวล้านที่อยู่ข้างๆ หัวเราะแล้วพูดว่า “นับฉันเข้าไปด้วย เมื่อกี้เห็นพวกเด็กตระกูลลู่น่าสนใจมาก ฉันกะจะรับเป็นศิษย์สัก 1-2 คน”

เมื่อพูดจบ หานหั่วไห่ซัดหมัดใส่เซียนบำเพ็ญชี่สองคนที่อยู่ทั้งสองข้าง ทันใดนั้นหมัดกระแทกมิติจนยุบเป็นหลุมใหญ่

หลังจากนั้นมิติหมุนวนร่างของเซียนบำเพ็ญชี่ทั้งสองคน หายไปไม่เหลืออะไรเลย

อีซูชักมือกลับมาแล้วพูดว่า “ภารกิจสำเร็จ ฉันไปละ ยุ่งอยู่นะเนี่ย!”

พูดจบ อีซูเหยียบเข้าไปในมิติแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ผู้อาวุโสลูบเครามองหานหั่วไห่ แล้วมองเหลยเฟิงซาน จากนั้นยิ้มบางๆ แล้วหายไป

ตี๋เหรินส่งเสียงหึเบาๆ เป็นเสียงสุดท้าย จากนั้นก็ตายคาที่ ตัวครึ่งหนึ่งหล่นลงมาบนพื้น

ลูกหลานตระกูลลู่มองศพของตี๋เหริน ไม่พูดอะไรอยู่นาน

การเปลี่ยนแปลงนี้รวดเร็วเกินไปจริงๆ!

หานหั่วไห่กับเหลยเฟิงซานลอยลงมา เหลยเฟิงซานปรบมือแล้วพูดว่า “นี่คือตระกูลของลู่ฝานเหรอ ไม่ต้องกลัว พวกเรามาคุ้มครองพวกนาย มีเหล้าไหม มีเนื้อไหม จัดของกินมาสิ!”

ลู่เฮ่าหรานหัวเราะแล้วพูดเสียงดังว่า “มีครับๆๆ!”

ขณะนั้นบนท้องฟ้า หัวหน้าเขตอี้ว์กลายเป็นลำแสง มาถึงอย่างล่าช้า

“เกิดอะไรขึ้น ตาเฒ่าลู่ เกิดอะไรขึ้น”

ตอนนี้ลู่เฮ่าหรานเพิ่งตั้งสติได้ ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น! พวกนายว่าใช่ไหม!”

พวกลูกหลานตระกูลลู่ที่อยู่ด้านหลัง กำลังตกอยู่ในอาการช็อก

แต่เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะสบายใจของลู่เฮ่าหราน ทุกคนก็หัวเราะตาม

ลู่หาวปรบมือแล้วพูดว่า “ใช่ครับ เป็นแค่เรื่องเล็กสำหรับตระกูลลู่ครับ!”

พูดจบ ลู่หาวตะโกนให้คนเตรียมเหล้าและอาหาร ในเวลาเดียวกันก็พึมพำว่า “ลู่ฝานนะลู่ฝาน นายไปทำอะไรไว้ที่เมืองหลวงอีกแล้ว!”