Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 805 ลงมือ
เมื่อจากกันกับหลี่เสี่ยวปิง เย่เซิ่งเทียนก็รีบตรงดิ่งไปหาหุบเขาฉินหลิง

ภายในรถ เขากับฉินโจงแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างกัน ขอแค่เขาบอกตำแหน่งที่อยู่ของตระกูลฉิน และให้ความร่วมมือกับเขาในการทำให้ฉินมิ่งสงบ เขาก็จะช่วยให้ตระกูลฉินอยู่ได้ด้วยตัวเอง จากนี้ไปจะคอยดูแลด้วย

ฉินโจงเป็นหุ่นเชิดมานานหลายปี แน่นอนว่าเขามีความทะเยอทะยาน

ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง

ไม่มีใครยอมส่งผลประโยชน์ให้คนอื่นหรอก

ถึงญาติอย่างเขาจะเกิดในตระกูลฉิน แต่ก็เป็นเรื่องหลายร้อยปีก่อนแล้ว

หลายปีมานี้ พวกเขาส่งทรัพยากรให้บ้านใหญ่มานับไม่ถ้วน แต่สิ่งที่ได้กลับมามันไม่เยอะเลย

พวกเขาบ่นกันมานาน แต่เพราะว่าบ้านใหญ่แข็งแกร่ง จึงไม่กล้าพูดอะไรมาก

เมื่อก่อนไม่ได้ไม่เคยลอบกัด แต่ถูกบ้านใหญ่จับเจ้าบ้านในตอนนั้นมาฆ่าอย่างเลือดเย็น จากนั้นมาก็ไม่เคยมีใครกล้าต่อต้านอีกเลย

ตอนนี้พอได้โอกาสอีกครั้ง ฉินโจงจึงไม่อยากปล่อยไป

อีกทั้ง เย่เซิ่งเทียนยังแสดงจุดยืนของตัวเอง สิ่งนี้ทำให้ฉินโจงที่ลังเลอยู่ก่อนแล้วรีบตอบตกลงในทันที

อีกอย่าง ตอนนี้ไม่ใช่ว่าฉินโจงอยากอยู่ด้วยตัวเอง แต่เรือของฝั่งบ้านใหญ่กำลังจะล่มแล้ว เจ้าเทพและขุนหลวงกำลังจะล้างโคตรบ้านใหญ่ ฉินโจงคนอย่างเขาจะทำอะไรได้?

ดังนั้น ฉินโจงจึงรับปากกับเย่เซิ่งเทียนว่าจะให้ความร่วมมือ

“ถึงว่าล่ะทำไมหาไม่เจอ ที่แท้ก็อยู่ส่วนลึกของฉินหลิงนี่เอง ซ่อนตัวได้ลึกลับกันจริงๆนะ”

เย่เซิ่งเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา ตระกูลฉินแห่งฉางอานเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดตัวหนึ่ง ตระกูลฉินที่แท้จริงไม่มีใครรู้ว่าอยู่ไหน

ถึงหยางทาวจะตามสืบมาหลายปี แต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไร

ตระกูลหนึ่งที่มีประวัติความเป็นมายาวนานพันกว่าปี ถ้าไม่มีฝีมือแบบนี้ เย่เซิ่งเทียนคงไม่เห็นตระกูลฉินอยู่ในสายตาหรอก

เย่เซิ่งเทียนมาตามที่อยู่ที่ฉินโจงให้ มาที่ด้านหน้าของหน้าผาหักของหุบเขาฉินหลิง

หน้าผาหักๆแบบนี้ดูไปแล้วปกติทุกอย่าง เมื่อมองด้วยตาเปล่าแทบไม่มีอะไรผิดปกติเลย

เนื่องจากถูกปกคลุมไปด้วยค่ายกล ถึงจะใช้เครื่องมือที่มีความซับซ้อนก็ยากที่พบเห็น

ถึงว่าล่ะหยางทาวตามหามานานหลายปีขนาดนี้ยังหาตำแหน่งที่อยู่ของตระกูลฉินไม่พบ

บนหน้าผาหักมีรอยแตก เหมือนเป็นการแตกโดยธรรมชาติของภูเขา แต่แท้จริงแล้วมันคือร่องรอยของค่ายกล

ยิ่งไปกว่านั้นร่องรอยเหล่านี้ยังเรียบง่ายมาก ถ้าไม่ใช่ผู้มีฝีมือ คงจะไม่สามารถหามันเจอเลย

แต่นี่ไม่สามารถขัดขวางเย่เซิ่งเทียนได้

ตาเฒ่าหลินตอนนั้นนอกจากจะสอนวิชาบู๊และการแพทย์ ยังสอนเรื่องค่ายกลกับเขาด้วย

ตอนนั้นเพื่อวิจัยเรื่องค่ายกล เขาถูกตาเฒ่าหลินทารุณมาไม่น้อย

เมื่อเห็นค่ายกลตรงหน้า เป็นเพียงแค่ค่ายกลพรางตา จุดที่ฉลาดที่สุดก็คือการทำให้หุบเขาทั้งลูกสร้างเป็นค่ายกลอาณาเขตขนาดใหญ่

ดังนั้นถ้าอยากอ่านค่ายกลแบบนี้ออก จะต้องดูจากภาพรวม ลำพังผาหักดูจากร่องรอยของผาหักไม่มีทางดูออกแน่นอน

ประกอบกับค่ายกลถูกตระกูลลี้ลับผูกขาด บนโลกใบนี้ คนที่สามารถอ่านค่ายกลออกมา มีไม่เกินห้าคน

เย่เซิ่งเทียนกำลังค้นหาตาของค่ายกล ถ้าจะให้บุกเข้าไปเขาสามารถทำได้ แต่แบบนั้นจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น และก่อให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็น

ขอแค่หาตาของค่ายกลเจอ ค่ายกลพรางตาของหุบเขาลูกนี้ก็จะถูกทำลาย และจะเป็นการโจมตีตระกูลฉินในขณะที่ยังไม่ทันตั้งตัว

เย่เซิ่งเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มองไปยังน้ำตกที่อยู่ไม่ไกลกัน จากนั้นก็คิดได้ว่า“หรือว่าตาค่ายกลจะอยู่ด้านล่างของน้ำตก”

เขารีบรุดเข้าไปทันที และมองดูอย่างละเอียด สุดท้ายก็ล็อกตำแหน่งหนึ่งไว้

“เป็นไปตามมันอยู่ในนี้ ค่ายกลบนโลกใบนี้ ยากที่จะหนีพ้นหยินหยางและธาตุทั้งห้า อยากจะให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ทำได้แค่อาศัยพลังของธรรมชาติ”

ตาค่ายกลอยู่ภายใต้น้ำตก สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเย่เซิ่งเทียน

ภายใต้น้ำตก มีค่ายกลขนาดเล็ก เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนค่ายกลขนาดใหญ่ทั้งหมด

เย่เซิ่งเทียนจัดวางค่ายกลขนาดเล็กใหม่ แบบนี้ค่ายกลจะยังคงดำเนินต่อไป และไม่สูญเสียเครื่องมือที่ใช้พรางตา ในขณะเดียวกันคนของตระกูลฉินก็ไม่มีทางรู้ตัวด้วย

หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จ เย่เซิ่งเทียนก็กลับไปเบื้องหน้าของผาหักอีกครั้ง

เมื่อเห็นผาหักเปลี่ยนเป็นช่องแคบระหว่างภูเขา คฤหาสน์หลังใหญ่และแปลกตาก็ตั้งอยู่ในช่องแคบระหว่างภูเขา เหมือนเมืองเล็กๆ

ในเวลานี้เอง เย่เซิ่งเทียนก็ได้รับข้อความส่งมาจากคนของหอมังกรเทพว่ามาถึงแล้ว!