บทที่ 2067 – เธอปลดปล่อยตัวตน ปรนเปรอ

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 2067 – เธอปลดปล่อยตัวตน? ปรนเปรอ
  เธอเหลือเวลาที่จะมีชีวิตรอดอยู่อีกเพียงไม่กี่วัน ถ้าถึงตอนนั้นจริง เขาจะเป็นคนที่ทำให้เธอมีชีวิตรอด เขาจะลงเอยดูวิธีนั้นเธอช่วยเธอจริงๆหรือ? หากเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ต้องเลือกเธอจะทำอย่างไร?
  เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอคิดเรื่องนี้ เธอจะหน้าแดงหัวใจเต้นเร็ว
  ชิงสุ่ยเองก็รู้สึกสับสนที่เห็นอารมณ์อันผันผวนของเธอ เขาลืมตาขึ้นและถามเฉินหวง “มีอะไรผิดปกติรึ? ท่านรู้สึกไม่สบายหรือเปล่า?”
  ในขณะที่เขากล่าวเขาก็รีบกอดเธอ แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าร่างกายของเธอไม่ได้เย็น ด้วยเหตุนี้เขาจึงตรวจชีพจรเธอแทน
  ยิ่งเห็นท่าทางวิตกกังวลของชิงสุ่ย เฉินหวงก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เธอรู้สึกดีที่มีผู้ชายคอยดูแลและเต็มใจปกป้องเธอ เธอจึงยิ้มและตอบกลับว่า “ข้าไม่เป็นอะไร ท่านตั้งใจจะใช้วิธีใดช่วยชีวิตข้า?”
  ชิงสุ่ยมือสั่น เขามองหญิงสาวโฉมงามทรงเสน่ห์แล้วเอามือไปแตะหน้าผากของเธอ “เออ ท่านก็ดูสบายดีนะ แต่…”
  “ไปตายซะ!!”เฉินหวงผลักหน้าอกชิงสุ่ยออกไปด้วยสัญชาตญาณ
  แรงผลักของเธอ เป็นตัวบอกกับชิงสุ่ยว่าเธอสบายดี เขาแค่กำลังล้อเล่น แต่แล้วบางอย่างก็เกิดขึ้น เฉินหวงประกบริมฝีปากของเธอกับริมฝีปากของชิงสุ่ย
  ผู้ชายจะทนแรงกระตุ้นแบบนี้ได้อย่างไร ชิงสุ่ยสวมกอดเอวเฉินหวง แต่เขาก็รีบหยุดการเคลื่อนไหว เพราะความคิดมากมายไหลเข้ามาในหัวของเขา
  ในตอนแรกเฉินหวงต้องการที่จะยืนขึ้นและจากไป แต่จู่ๆเธอก็นึกภาพว่าเธอมีชีวิตอยู่อีกไม่นานและเธอก็ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ข้างหลัง เธอไม่เคยชอบผู้ชายคนไหนเลย ไม่เคยมีลูกเลย ไม่เคยจับมือผู้ชายมาก่อน นับประสาอะไรกับจูบ …
  ดังนั้นเธอจึงไม่ขยับ บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่เทพเจ้ามอบให้เธอก่อนตาย อย่างน้อยวิธีนี้เธอก็จะได้สัมผัสกับความรักที่ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถมีได้ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เธอก็หน้าแดงและค่อยๆหลับตาลง
  ชิงสุ่ยตกตะลึง เขารู้ว่าการที่ผู้หญิงหลับตาในเวลาแบบนี้หมายความว่าอย่างไร
  เขาจูบและเริ่มดูดดื่มริมฝีปากที่เหมือนกลีบดอกไม้ ความรู้สึกสดชื่นและอ่อนโยนช่วยให้จิตใจของชิงสุ่ยปลอดโปร่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในขณะที่เธออยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอก็บิดตัวไปมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยหัวใจที่เต้นแรง นี่เป็นครั้งแรกของเธอที่มีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ชาย
  ชิงสุ่ยขยับมือของเขาไปที่ข้างหลังเธอ เขาทำให้หัวใจของเธอสงบลงโดยอาศัยทักษะหัตถ์พลิ้วไหวสะเทือนวิญญาณ ชิงสุ่ยไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนที่อ่อนไหวมาก เพียงเวลาชั่วครู่เดียวหลังจากจูบอย่างดูดดื่ม เขาก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจของเธอที่ไม่สงบ ร่างกายของเธอก็สั่นเทา เร็วขึ้นและเร็วขึ้น จนในที่สุดร่างกายของเธอก็บิดเล็กน้อยและกอดชิงสุ่ยแน่น
  เฉินหวงไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เธอขดอยู่ในอ้อมแขนของชิงสุ่ย และไม่อยากจะออกไปไหน เธอไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย
  “แม่นางเฉินหวง”ชิงสุ่ยตบหลังเธอ
  “หืม”เฉินหวงส่งเสียงเบาๆ
  “ดูเหมือนท่านกำลังรู้สึกเขินอาย โปรดอนุญาตให้ข้า…..”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
  “ไม่!!”เฉินหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
  ชิงสุ่ยรีบหมุนตัวเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งให้เธอลงไปอยู่ด้านล่าง เฉินหวงตกใจอย่างมาก ในขณะที่ชิงสุ่ยสังเกตเห็นว่าเธอหลับตาลง เขาก็ยังคงพยายามควบคุมความปรารถนาของตน
  ความบริสุทธิ์และความสะอาดแฝงไปด้วยความมีเสน่ห์ แม้ว่าเธอจะนอนราบกับพื้น แต่หน้าอกอันกลมมนของเธอก็ยังคงเต่งตึงชูชัน ชิงสุ่ยที่กดอยู่บนร่างกายของเธอ เขาไม่อาจอธิบายได้เลยว่าหัวใจของเขานั้นกำลังปั่นป่วนเพียงใด
  เฉินหวงลืมตาขึ้นเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าตัวของเธอนั้นจะยอมให้คนอื่นมานอนทับด้านบน ปัญหาเดียวของเธอตอนนี้คือเธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าของเธอนั้นอึดอัด
  “ชิงสุ่ย ข้าขอตัวไปเปลี่ยนชุด”เฉินหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเธอเขินอาย
  ชิงสุ่ยยิ้มเจือนๆ “ว่าแต่ท่านช่วยบอกข้าได้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้ท่านรู้สึกอย่างไร? มิฉะนั้น ข้าจะไม่ลุกขึ้น”
  “ชิงสุ่ย อย่าเลย นี่ยังเร็วเกินไป……..”น้ำเสียงของเฉินหวงดูนุ่มนวลลง
  ชิงสุ่ยขยับออกจากร่างกายและพยุงเธอให้นั่งตรง “ไปเถอะ ออกจากที่นี่กัน”
  “ตกลง”   เมื่อเวลาแห่งความสนุกจบลง เฉินหวงก็ฟื้นคืนสู่สภาวะปกติ
  เธอยิ้มหวานให้กับชิงสุ่ยแล้วกล่าวว่า “ท่านเป็นอะไรหรือ?”
  ชิงสุ่ยยิ้ม เขารู้ดีว่าเธอคงไม่อาจทำใจยอมรับความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นกะทันหันได้ ก่อนหน้านี้ ชิงสุ่ยก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะสานต่อความสัมพันธ์นี้อย่างไร แต่ความคิดของเขายังคงเหมือนเดิม เขายังคงยืนกรานที่จะไม่ลุกลามหรือหลีกเลี่ยง
  “ไปข้างหน้ากัน หาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยออกเดินทาง”ชิงสุ่ยยื่นมือไปทางเฉินหวง
  เฉินหวงเอื้อมมือไปจับมือของเขาขณะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า การเดินเล่นบนโลกที่เต็มไปด้วยดอกไม้ช่างแสนมีความสุข
  “ชิงสุ่ย การรู้เรื่องของข้ามันอาจส่งผลไม่ดีต่อท่าน เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะบอกท่านเอง หากในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่ข้าไม่สามารถหนีไปจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้จริงๆแล้ว มันคงจะดีกว่าหากท่านไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับมัน”เฉินหวงกระซิบบอกชิงสุ่ย
  “ไม่ต้องกังวล ท่านจงเชื่อใจข้า เมื่อข้าบอกว่าท่านจะไม่ตาย ท่านก็ต้องไม่ตาย”ชิงสุ่ยตอบกลับ
  เขาคือหมอปาฏิหาริย์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะรักษาได้ทุกอย่าง เพราะโลกใบนี้เต็มไปด้วยสิ่งแปลกปลอมมากมาย ตัวอย่างของพิษที่ติดอยู่ในตัวเฉินหวงก็เป็นตัวอย่างที่ดี ที่เขารักษาไม่ได้ ถ้าหากเขาแข็งแกร่งกว่านี้หน่อย โอกาสที่เขาจะรักษาได้ก็คงจะมีสูง และการรักษาก็คงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาหนอนผีเสื้อเพลิง
  “ข้าก็หวังเช่นนั้น!!”
  “ท่านมีแผนการอะไร? ฉันอยากจะบอกข้าหรือไม่?”เฉินหวงถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
  “จริงๆแล้ว ข้าเองก็ไม่ได้มีแผนการเจาะจง ข้าไม่เคยคิดจะพิชิตโลกทั้งใบ และก็ไม่อยากสร้างนิกายใหญ่ควบคุมผู้คนนับล้าน ความปรารถนาเดียวของข้าคือการได้อยู่เคียงข้างครอบครัว แต่เมื่อภรรยาของข้าติดพันกับบ้างยัง ข้าจึงจำเป็นต้องช่วยพวกเธอ สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่จะทำกันได้ง่ายๆ แม้ว่าจะเป็นถึงผู้สืบทอดมรดกแห่งเทพสงครามทองคำ หลายต่อหลายสิ่งก็ยังคงอยู่เหนือการควบคุมของข้า อันที่จริงแล้ว ข้าเองก็เริ่มรู้สึกว่าข้าไม่ใช่ผู้ที่คุมชะตาชีวิตตัวเองอีกแล้ว”ชิงสุ่ยอธิบายด้วยอารมณ์ ดูเหมือนจะมีปัญหาบางอย่าง
  “ไม่ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนก็เป็นแบบนั้นหรือ? บางคนมีชีวิตเพื่อทำบางอย่าง บางคนก็มีชีวิตเพื่อแก้แค้น ทุกคนเริ่มสูญเสียตัวตน เพื่อคนที่ห่วงใย แต่ในไม่ช้า เมื่อไม่มีจุดหมายคนทุกคนก็จะหลงทางไม่รู้ว่าชีวิตที่เหลือควรจะเป็นอย่างไร “เฉินหวงคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะพูด