ตอนที่ 758: รวบรวมพันธมิตร

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 758: รวบรวมพันธมิตร

เจี้ยนเฉินยืนอยู่ที่ฝั่งของทะเลสาบกว้างใหญ่พร้อมกับเสือขาวที่อยู่ในมือของเขา ในโลกที่เงียบสงัด สิ่งที่เขาได้ยินก็มีเพียงเสียงของน้ำที่ไหลรินเรื่อย ๆ

เจี้ยนเฉินเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปรอบ ๆ ความสงสัยอย่างมากปรากฏขึ้นในตาของเขาและเขาก็พึมพำกับตัวเอง “นี่เป็นมิติภายในวัตถุเซียนเช่นนั้นหรือ ? มันช่างต่างจากโลกข้างนอกเสียจริง ๆ เพราะว่ามันมีพลังเซียนธาตุแสงหนาแน่นกว่าที่เมืองแห่งเทพเจ้าหลายเท่านัก”

มิติภายในวัตถุเซียนนั้นมีภูเขาและแม่น้ำ และดูเหมือนโลกจริง ๆ สิ่งที่แตกต่างก็คือ มันไม่มีท้องฟ้าสีครามเหมือนข้างนอก มันเป็นสีขาวมัว ๆ เหมือนว่ามันมีชั้นแมฆหลายหลายชั้นคลุมอยู่แทน

เจี้ยนเฉินกวาดตามองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะขยายขอบเขตการรับรู้ของเขา มันครอบคลุมไปเป็นระยะ 20 กิโลเมตร แต่เขาก็ไม่พบเจอกับใครเลยแม้แต่คนเดียว

“ดูเหมือนว่าโลกในวัตถุเซียนนี้จะกว้างใหญ่ทีเดียว ผู้แข่งขันหลายพันคนได้เข้ามา แต่ข้าก็ไม่พบใครเลยในรัศมี 20 กิโลเมตรนี้” เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเอง หลังจากนั้น เขาก็ใช้พลังของเขาเพื่อที่จะดูไปที่แหวนมิติที่อยู่ที่มือของเขา แต่ไม่แปลกใจเลยที่มันถูกผนึกไม่สามารถใช้ได้เลยจากพลังที่ลึกลับ

“มันเหมือนกับที่ท่านประธานได้บอกไว้เลย เมื่อเข้ามาในวัตถุเซียนแล้ว แหวนมิติทุกวงจะถูกผนึกโดยพลังจากวัตถุเซียน ไม่เพียงแต่เจ้าจะเอาของฝากเข้าไปไม่ได้เท่านั้น เจ้ายังไม่สามารถเอาของอะไรออกมาได้อีกด้วย” เจี้ยนเฉินคิด

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงน้ำกระจายที่แม่น้ำด้านหลังเจี้ยนเฉิน ปลาตัวใหญ่ยาวครึ่งเมตรพุ่งออกมาจากน้ำและตรงไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วสูงมาก ปากของมันอ้ากว้างอยู่ซึ่งเผยให้เห็นถึงฟันที่แหลมคม ตาของปลานั้นช่างเย็นชาเหลือเกิน

เจี้ยนเฉินไม่ได้แม้แต่ที่จะมองกลับไป เขายกมือขึ้นมาและพลังเซียนประกายแสงรอบรอบก็มารวมตัวกันทันที มันควบรวมกันเป็นกระบี่เซียนธาตุแสงซึ่งพุ่งไปที่ปลาจากการโบกมือของเจี้ยนเฉิน

กระบี่นั้นพุ่งตรงไปที่ปากของปลาและมันระเบิดเสียงดัง พลังงานที่ทรงพลังได้ทำลายปากของปลาจนระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ

บุปผาโลหิตกระจายอยู่ในอากาศ กลิ่นคาวรุนแรงจากเลือดที่ฟุ้งกระจายไปในอากาศและเมื่อทุกอย่างนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน ผลึกขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือที่ชุ่มไปด้วยเลือดก็ตกอยู่ที่พื้น

เจี้ยนเฉินเดินไปและถอนหญ้าที่บังผลึกนั้นออก เขาเช็ดเลือดออกจากผลึกและไม่แปลกในเลยว่าสิ่งนั้นคือแกนอสูร

เจี้ยนเฉินจ้องไปที่แกนอสูรสักพักก่อนที่จะถอนหายใจเบา ๆ เขาพึมพำกับตัวเอง “น่าเสียดายจริง ๆ ที่เปิดแหวนมิติไม่ได้ ข้าไม่มีที่ที่จะเก็บแกนอสูรระดับ 4 นี้ ดังนั้นข้าคงจะต้องทิ้งมันไป” เจี้ยนเฉินเหวี่ยงแขนและขว้างแกนอสูรทิ้งไป

“ข้าจ้องอยู่ที่นี่ในอีก 15 วันข้างหน้า ในช่วงเวลานี้ ข้าต้องหาน้ำและอาหารเอง สำหรับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ปกติแล้วนี้คงจะเป็นปัญหาที่ใหญ่อยู่ แย่จริงที่ร่างกายของข้าในฐานะนักสู้นั้นแข็งแกร่ง การที่จะอยู่ถึง 15 วันโดยไม่มีน้ำหรืออาหารจะไม่มีผลกระทบอะไรกับข้าเลยแม้แต่น้อย”

ในขณะที่เขาพูด พลังเซียนธาตุแสงก็เข้ามารวบรวมอย่างรุนแรง และเปลี่ยนรูปอย่างรวดเร็วกลายเป็น เมฆสีขาวยาว 1 เมตรข้างใต้เจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินขึ้นเหยียบเมฆ และมันก็ลอยขึ้นไปทันทีและพาเขาไปด้วย จากนั้นมันก็ลอยหายไปในอากาศ

ในอาณาเขตอื่น ๆ ในวัตถุเซียน มีแนวภูเขาที่ว่างเปล่า ในตอนนี้ ที่ยอดที่สูงที่สุด มีหญิงสวยงามในชุดขาวกำลังยืนอยู่อย่างภาคภูมิ ชุดของนางค่อยข้างตัวเล็กและปลิวไสวไปกับลมพร้อมกับผมที่ยาวของนาง คนผู้นั้นคือหญิงสาวของตระกูลคารา, คารา ลี่เว่ย

ด้านหลังของคารา ลี่เว่ย มีชาย 2 คนในชุดขาวยืนเงียบเงียบอยู่ หนึ่งในนั้นเป็นชายชราอายุเจ็ดสิบกว่าปี และอีกคนเป็นชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะอายุสี่สิบกว่าปี

สามคนนั้นยืนอยู่เหมือนรูปปั้น และไม่มีใครพูดอะไรออกมา

ในตอนนี้เอง ลำแสงสีขาวก็ปรากฏออกมาในที่ไกล ๆ ชายวัยกลางคนหน้าตาหล่อเหลาบนเมฆขาวก็ได้บินเข้ามาที่ซึ่งทั้งสามคนยืนอยู่ หลังจากนั้นเขาก็ป้องมือทำความเคารพไปที่คารา ลี่เว่ย “ขอคารวะคุณหนูใหญ่ ! ” หลังจากพูดจบ ชายนั้นก็ไม่ได้รอที่จะให้คารา ลี่เว่ยตอบกลับและเดินไปด้านหลังนางไปยืนอยู่กับชายทั้งสองที่ยืนอยู่ก่อนหน้านี้

หลังจากนั้น เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 คนอื่น ๆ ในวัยที่ต่างกันก็ได้บินมาจากทุกทิศทุกทางคนแล้วคนเล่า พวกเขาประสานมือทำความเคารพคารา ลี่เว่ยอย่างไม่มีข้อยกเว้น ก่อนที่จะไปยืนด้านหลังนางอย่างเงียบ ๆ

ในไม่ช้า กลุ่มที่มี 3 คนตอนแรกก็ได้กลายเป็น 8 กลุ่มคนเล็ก ๆ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเหล่านี้เป็นสมาชิกของตระกูลคาราและหลังจากที่พวกเขาเข้ามาในวัตถุเซียนแล้ว พวกเขาแต่ละคนก็ติดต่อกันผ่านวิธีพิเศษและมารวมกันในที่ที่หนึ่ง

คารา ลี่เว่ยมองไปด้านหลังนางและพูดอย่างไร้อารมณ์ “เมื่อทุกคนมาอยู่ที่นี่แล้ว พวกเจ้าต้องจำไว้ว่าต้องฟังคำสั่งของข้าในการทดสอบครั้งนี้และห้ามทำอะไรเองโดยพลการ การแข่งขันในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่ผ่าน ๆ มา เพราะมีบางคนที่เป็นตัวอันตรายสำหรับพวกเรา”

“ขอรับคุณหนู ! ” เซียนประกายแสงทั้งหมดตะโกนออกมา แม้ว่าคารา ลี่เว่ยจะอายุน้อยกว่าพวกเขา แต่ความแข็งแกร่งของนางก็เป็นที่หนึ่งในสิบคนที่ยอดเยี่ยมของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ซึ่งทุกคนก็ยอมรับ อีกทั้ง คารา ลี่เว่ยยังมีฐานะที่ยิ่งใหญ่ในตระกูล ไม่เพียงแต่นางจะเป็นบุตรสาวที่รักของหัวหน้าตระกูลคนก่อนเท่านั้น นางยังเป็นที่รักของหัวหน้าตระกูลในตอนนี้อีกด้วย

เมฆที่สร้างมาจากพลังเซียนธาตุแสงได้มารวมที่ใต้เท้าของทุกคน ทั้งหมดขึ้นขี่เมฆและลอยตามคารา ลี่เว่ยออกไปไกล

“ท่านลี่เว่ย ในที่สุดข้าก็หาท่านจนพบ รอข้าด้วย” เสียงยินดีปรากฏขึ้นมาจากที่ไกลไกล มันคือศิษย์คนที่สองของท่านประธานของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง หยุนเทียน เขาขี่เมฆแบบเดียวกันและรีบไล่ตามมาจากที่ไกลไกล และตามกลุ่มของคารา ลี่เว่ยทันในไม่ช้า

คารา ลี่เว่ยหยุดและขมวดคิ้วเล็กน้อย นางมองไปที่หยุนเทียนอย่างหมดความอดทน “หยุนเทียน ลี่เว่ยไม่ใช่ชื่อที่เจ้าควรใช้เรียกข้า เรียกชื่อข้าเต็ม ๆ “

หยุนเทียนจ้องมองอย่างว่างเปล่าและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงโทสะในใจของเขา อย่างไรก็ตาม ท่าทางของเขายังคงเหมือนเดิมและเขาพูดด้วยรอยยิ้ม “มันเป็นข้าเองที่ไม่สุภาพก่อนหน้านี้ ข้าหวังว่าท่านคารา ลี่เว่ยจะอภัยให้ข้า ท่านคารา ลี่เว่ย ข้าสงสัยว่าท่านได้พิจารณาข้อเสนอของข้าที่มอบให้เมื่อสองสามวันก่อนหรือยัง ? “

“หยุนเทียน เจ้าต้องการที่จะให้ตระกูลคาราช่วยเจ้าในการจัดการกับหยางยู่เทียน แล้วตระกูลคาราจะได้อะไรตอบแทนล่ะ ? ” คารา ลี่เว่ยเล่นผมของนางอย่างนุ่มนวลและพูดอย่างไร้อารมณ์

“ท่านคารา ลี่เว่ย ท่านคงจะรู้ดีการมีอยู่ของหยางยู่เทียนนั้นขัดขวางข้าในการเป็นประธานคนต่อไป ดังนั้นข้าจำเป็นต้องหยุดเขาจากการเป็นระดับ 7 อีกทั้งความแข็งแกร่งของข้ายังอยู่ในขั้นสูงสุดของขั้นที่ 6 มานานแล้วและข้ามั่นใจมากว่าจะสามารถสำเร็จระดับ 7 ได้ในครั้งนี้ ถ้าข้าสำเร็จในการเป็นระดับ 7 ข้าจะได้เป็นประธานหลังจากนี้ หลังจากนั้น ข้า หยุนเทียน จะประกาศตัวเป็นพันธมิตรกับตระกูลคาราของเจ้า เราจะยืนหยัดไปด้วยกัน ข้าสงสัยว่าท่านคารา ลี่เว่ยคิดเห็นประการใด ? ” หยุนเทียนจ้องไปที่คารา ลี่เว่ยด้วยดวงตาเป็นประกาย

ดวงตาของคารา ลี่เว่ยสดใสขึ้นเล็กน้อย ข้อเสนอของหยุนเทียนทำให้นางสนใจ สมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเป็นองค์กรที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตระกูลใหญ่ทั้งสามเลยและเป็นกลางมาหลายปีโดยไม่เข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ระหว่างตระกูลทั้งสาม ถ้าตระกูลคาราเป็นพันธมิตรกับสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงและร่วมมือกัน ความแข็งแกร่งของตระกูลคาราจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เหนือกว่าตระกูลซาร์ในฐานะตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิ

อย่างไรก็ตาม คารา ลี่เว่ยก็ยังเป็นคนที่ฉลาดเฉลียวอยู่ นางไม่ได้รีบร้อนที่จะตกลงในข้อเสนอของหยุนเทียนและคิดเล็กน้อย นางกล่าว “หยุนเทียน จากที่ข้ารู้มา อาจารย์ของเจ้ายังอยู่ได้อีกเป็นศตวรรษ ด้วยการที่ท่านอาจารย์ของเจ้ายังอยู่ ตำแหน่งประธานจะไม่เป็นของเจ้าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม อีกทั้งไม่ใช่ว่าเจ้าจะไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเราต่อตระกูลซาร์ ในอีกร้อยปี เมื่อเจ้าสำเร็จในการเป็นประธาน ป่านนั้นตระกูลทั้งสามคงถูกรวมโดยตระกลูซาร์ไปเรียบร้อยแล้ว”

“ท่านคารา ลี่เว่ยไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลไป แม้ว่าท่านอาจารย์ของข้าจะกล่าวว่าท่านมีเวลาเหลืออีกศตวรรษ เขาก็จะไม่ได้อยู่นานถึงขนาดนั้นหรอก ตระกูลทั้งสามก็จะไม่ถูกรวมโดยตระกูลซาร์เช่นเดียวกัน เพราะว่าท่านอาจารย์ของข้ารู้ถึงความทะเยอทะยานอันมหาศาลของตระกูลซาร์ดี ถ้าจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ถูกรวบรวมโดยตระกูลซาร์แล้วละก็ ความแข็งแกร่งของพวกเขาคงอยู่ในระดับที่น่ากลัวมาก ในตอนนั้น บางทีแม้แต่สมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงก็อาจจะตกอยู่ในมือของตระกูลซาร์ด้วย ดังนั้น ท่านอาจารย์ของข้าจะไม่ให้มันเกิดขึ้นแน่นอน”

“เมื่อเรื่องพวกนี้กำลังจะลุกลามใหญ่โต อาจารย์ของข้าจะสละชีวิตของเขาเพื่อการร่ายทักษะต้องห้ามเพื่อต่อต้านหัวหน้าตระกูลซาร์ เมื่อเขาจากไปแล้ว ข้าก็จะกลายเป็นประธาน แม้ว่าท่านผู้อาวุโสสูงสุดจะยังอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจในตำแหน่งประธานอยู่แล้ว อีกทั้ง ด้วยมิตรภาพระหว่างท่านผู้อาวุโสสูงสุดกับท่านอาจารย์ของข้า ไม่เพียงแต่เขาจะไม่เข้ามาแย่งชิงตำแหน่งกับข้าเท่านั้น เขายังจะหนุนหลังข้าอีก เพราะฉะนั้น คนผู้เดียวที่เป็นภัยในการนั่งตำแหน่งประธานของข้าคือหยางยู่เทียนเท่านั้น” หยุนเทียนมั่นใจ เสมือนว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมและมีเพียงหยางยู่เทียนเท่านั้นที่เป็นตัวแปร

หยุนเทียนเป็นศิษย์ของประธานมานานมากแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้เกี่ยวกับการทำงานภายในดี ถ้าเขาต้องการที่จะเป็นประธานของสมาคม เขาจำเป็นต้องมี 2 สิ่ง หนึ่งคือไปให้ถึงระดับ 7 และสองคือมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม เพราะตำแหน่งประธานของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงจะไม่ตกไปอยู่ในมือของคนที่ไร้อนาคต

หยุนเทียนมั่นใจว่าเขาจะเติมเต็มเงื่อนไขแรกได้ในการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับเงื่อนไขที่สองนั้น เขาได้จัดการไปก่อนหน้านี้นานมากแล้ว เขาได้เป็นลูกศิษย์จากท่านประธาน ฉะนั้นความสามารถของเขาจะธรรมดาได้อย่างไร ?

คารา ลี่เว่ยลังเลและหลังจากคิดบางอย่าง นางกล่าว “หยุนเทียน ข้าจะไปกับเจ้าเพื่อหาหยางยู่เทียน ! “

ความยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยุนเทียน “อย่าเพิ่งรีบร้อนไปเลย ท่านคารา ลี่เว่ย แม้ว่าข้าจะไม่เคยเห็นความแข็งแกร่งของหยางยู่เทียนด้วยตาของตัวเอง แต่ข้าก็รู้ว่าเขานั้นแข็งแกร่งมากและยังมีเกราะที่ทรงพลังอีก คงไม่ง่ายที่จะจัดการเขา แม้ว่าข้าจะมั่นใจว่าเราจะสามารถจัดการกับเขาได้ด้วยกลุ่มนี้ แต่กำลังของเราก็จะลดลงไปอย่างมาก และเราอาจจะเสียเปรียบจากกลุ่มอื่นได้ ดังนั้นรออีกสักสองสามวัน ข้าจะตามผู้ช่วยคนอื่น ๆ มา”

หลังจากล่ำรากับคารา ลี่เว่ย หยุนเทียนก็จากไป เขาบินไปบนท้องฟ้าด้วยเมฆขาวและจี้โบราณก็ออกมาปรากฏบนมือของเขา ความคิดของเขาถูกส่งออกจากระหว่างคิ้วของเขาไปที่ชิ้นจี้นั้น เขาใช้วิธีพิเศษในการติดต่อกับคนอื่น ๆ

หลังจากนั้น ความคิดคล้าย ๆ กันก็ออกมาจากจี้และพุ่งเข้าไปที่ระหว่างคิ้วของหยุนเทียน เขาเก็บจี้ เปลี่ยนทิศทาง และพุ่งออกไปทันที