“ตำแหน่งผู้เฒ่าหน่วยนภาใช่ว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามใจชอบเว้นแต่ต้องแข่งขันกันเท่านั้น!”
แววตาเจ้าเล่ห์อย่างจิ้งจอกเฒ่าของโจวเหวินอี้เป็นประกายวูบขึ้นมาทันทีในขณะที่ร้องบอกหลิงหยุน
“แข่งขันเช่นใดขอบอกตามตรงว่าข้าต้องการตำแหน่งอาวุโสหน่วยนภาสามตำแหน่ง!”
การที่หลิงหยุนเข้าร่วมหน่วยนภานั้นเขาย่อมต้องการอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุด เพราะเขาไม่ชอบอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใด
“ขึ้นอยู่กับคะแนน..”
แววตาของโจวเหวินอี้เป็นประกายในขณะที่อธิบายให้หลิงหยุนฟัง“ในหน่วยนภาของเรามีภารกิจที่ยากง่ายแตกต่างกันไป แต่ละภารกิจก็จะได้รับคะแนนต่างกันไปเช่นกัน และทุกครั้งที่ปฏิบัติภารกิจสำเร็จ ก็จะได้รับมอบคะแนน หากเจ้าสามารถสะสมคะแนนนี้ได้มากกว่าผู้เฒ่าหน่วยนภาคนอื่น เจ้าก็จะสามารถขึ้นมาแทนที่ของเขาได้..”
“หึ!”
หลิงหยุนหันไปจ้องหน้าโจวเหวินอี้พร้อมกับตอบไปว่า“นี่เหล่าโจว ท่านอย่าล้อข้าเล่นดีกว่า! เท่าที่ข้ารู้มาหน่วยนภาของท่านไม่มีภารกิจมานานเป็นสิบปีแล้วไม่ใช่รึ”
“เจ้าอย่าด่วนใจร้อนฟังข้าพูดให้จบก่อน..”
โจวเหวินอี้รินชาลงในถ้วยให้หลิงหยุนพร้อมกับอธิบายต่อว่า“ความจริงแล้วคะแนนนี้ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับภารกิจที่ทำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น..”
“ยังมีหนทางอื่นอีกงั้นรึ”หลิงหยุนร้องถาม แววตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาทันที
“แน่นอน!”
“ตราบใดที่เจ้าสามารถมอบสิ่งของล้ำค่าให้กับหน่วยนภาไม่ว่าจะเป็นอาวุธ โอสถ ยันต์ สมุนไพรพลังชีวิต หรือทรัพยากรที่ช่วยในการฝึกฝนแบบใดก็ได้ หรือแม้กระทั่งข้อมูลสำคัญ ตราบใดที่สิ่งนั้นมีค่าและสำคัญ ก็จะสามารถนำมาแลกคะแนนให้กับตนเองได้..”
“หากไม่มีสิ่งของข้อมูลใดๆแต่มีความสามารถในการปลุกเสกยันต์ โอสถ หรือกระทั่งสามารถสร้างอาวุธชั้นยอดได้ ก็สามารถมาเบิกวัตถุดิบในการสร้างสรรสิ่งเหล่านั้นจากหน่วยนภา แล้วนำสิ่งของที่สร้างสรรได้มาแลกคะแนนก็ย่อมได้เช่นกัน..”
โจวเหวินอี้อธิบายให้หลิงหยุนฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับดอกไม้บานและในที่สุดเขาก็ได้เผยจุดประสงค์ที่แท้จริงในการชักชวนหลิงหยุนเข้าร่วมหน่วยนภาออกมาเสียที!
หลิงหยุนนั่งฟังด้วยท่าทีสงบนิ่งและได้แต่คิดในใจว่า ‘เจ้าจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ ในที่สุดหางของเจ้าก็โผล่แล้วสินะ!’
และตอนนี้หลิงหยุนก็ได้รู้แล้วว่าโรงประมูลที่หน่วยนภาจัดขึ้นนั้น สามารถสรรหาสิ่งของมาเข้าร่วมประมูลได้อย่างไร
ชาวยุทธภพไม่น้อยที่สามารถปลุกเสกยันต์กลั่นโอสถ และสร้างอาวุธได้ ยิ่งไปกว่านั้นยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติล้วนแล้วแต่มีตระกูลใหญ่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แต่ละตระกูลย่อมต้องให้คนของตนขึ้นเป็นผู้เฒ่าหน่วยนภา มีหรือที่จะไม่ช่วยสนับสนุนให้คนของตนสะสมคะแนนไว้มากๆ
ยกตัวอย่างเฉียวเปียวกับหลี่เจิ้งเฟิงที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหลิงหรืออีกหนึ่งที่ตระกูลเย่ให้การสนับสนุน
หลิงหยุนกำลังครุ่นคิดว่าเรื่องการปลุกเสกยันต์หรือกลั่นโอสถย่อมไม่เป็นปัญหา อีกทั้งเขายังจะได้ทรัพยากรเหล่านี้เข้ากระเป๋าตนเองอีกด้วย หากเป็นเช่นนี้เขาเองก็มีแต่ได้กับได้ นอกจากจะได้คะแนนแล้ว ยังจะได้วัตถุดิบสำหรับเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตระกูลหลิงของตนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
หลิงหยุนหันไปยิ้มให้กับจิ้งจอกเฒ่าโจวเหวินอี้พร้อมกับตอบไปว่า“กรณีนี้หากข้าจะสร้างแหวนพื้นที่ หน่วยนภาจะมอบคะแนนให้กับข้าจำนวนเท่าใด”
หลิงหยุนร้องบอกพร้อมกับจ้องมองแหวนพื้นที่ในมือของโจวเหวินอี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม!
แต่ดูเหมือนโจวเหวินอี้เองก็กำลังรอคอยคำพูดประโยคนี้ของหลิงหยุนอยู่แล้วจึงรีบตอบกลับไปทันที
“ก็ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ภายในของแหวน..”
หลิงหยุนยกมือขึ้นชี้ไปที่แหวนบนนิ้วของโจวเหวินอี้พร้อมกับพูดขึ้นว่า“ขนาดเท่าแหวนบนนิ้วของท่านจะได้รับคะแนนมากเท่าไหร่”
แหวนพื้นที่ในมือโจวเหวินอี้นั้นมีขนาดเท่ากับแหวนพื้นที่ของตี้เสี่ยวอู๋และคนอื่นๆคือขนาดสามตารางเมตร
“พื้นที่ขนาดใหญ่เช่นนี้จะได้รับถึงสามล้านคะแนนทีเดียว!”
โจวเหวินอี้ตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแต่ความจริงแล้วในใจของเขากำลังกระโดดโลดเต้นอย่างที่สุด
“เพียงพอที่จะได้ขึ้นเป็นผู้เฒ่าหน่วยนภาหรือไม่”
หลิงหยุนไม่สนใจท่าทีของโจวเหวินอี้แต่รีบถามกลับไปทันทีว่าเพียงพอหรือไม่ และหากโจวเหวินอี้ตอบว่าไม่เพียงพอ เขาก็จะลุกขึ้นแล้วหันหลังเดินจากไปทันที
เพราะหากแม้แต่แหวนพื้นที่ยังไม่สามารถเทียบกับตำแหน่งผู้เฒ่าหน่วยนภาได้หลิงหยุนก็คร้านที่จะเสาวนากับเขาอีกเช่นกัน
โจวเหวินอี้ยิ้มให้หลิงหยุนพร้อมตอบกลับไปว่า“เฉียวเปียวกับหลี่เจิ้งเฟิงมีคะแนนอยู่คนละ 1.5 ล้าน ส่วนผู้เฒ่าหน่วยนภาอีกคนที่ตระกูลเย่ให้การสนับสนุนอยู่มี 1.8 ล้านคะแนน แหวนพื้นที่ของเจ้าจึงได้ครอบครองตำแหน่งผู้เฒ่าหน่วยนภาเพียงแค่สองตำแหน่งเท่านั้น คือของเฉียวเปียวกับหลี่เจิ้งเฟิง..”
หลิงหยุนยิ้มบางแล้วหันไปพูดกับตี้เสี่ยวอู๋ว่า“เสี่ยวอู๋.. เจ้ารีบกลับเข้าเมืองไปหาซื้อแหวนมาทำแหวนพื้นที่เหมือนของเจ้าเพิ่มอีก..”
“ได้เลยพี่หยุน!”ตี้เสี่ยวอู๋ลุกขึ้นทันที
“หากเงินของเจ้าไม่พอก็โทรบอกถังเมิ่งให้โอนเข้ามาอีกล่ะ..”
“เรื่องเงินไม่ต้องห่วงเลยพี่หยุนข้ามีเหลือเฟือ..” พูดจบตี้เสี่ยวอู๋ก็เดินออกไป
โจวเหวินอี้เห็นหลิงหยุนกับตี้เสี่ยวอู๋ลุกขึ้นเช่นนี้ก็ได้แต่ยิ้มออกมาและหันไปพูดกับหลิงหยุนว่า
“ความจริงพวกเจ้าไม่ต้องรีบร้อนเช่นนี้ก็ได้..”
หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆ“ช้าเร็วก็ต้องทำอยู่ดี รีบๆกลับไปทำให้เสร็จวันนี้เลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา..”
โจวเหวินอี้ถึงกับตกใจจนแทบช็อคเขาระล่ำระลักถามกลับไปว่า “แหวน.. เจ้าใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งวันในการทำแหวนพื้นที่งั้นรึ”
หลิงหยุนถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดังแต่กลับไม่ตอบคำถามของโจวเหวินอี้ และได้แต่คิดในใจว่า ‘ข้าใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีด้วยซ้ำไป!’
“เอ่อ..เจ้า.. เจ้าจะทำสักกี่วงรึ”
หลิงหยุนกรอกตาไปมาพร้อมตอบกลับไปว่า“สองวงแลกกับตำแหน่งผู้เฒ่าหน่วยนภาสามตำแหน่ง.. ทำไมรึ!”
“หลิงหยุน..ความจริงเจ้าทำเพิ่มขึ้นอีกสักสองสามวงก็ได้ อย่างน้อยเจ้าก็เก็บรวบรวมแต้มนี้ไว้ได้ เพราะคะแนนพวกนี้สมาชิกหน่วยนภายังสามารถนำมาแลกทรัพยากรอื่นๆที่จำเป็นได้อีก”
หลิงหยุนเริ่มเข้าใจแล้วว่าแต้มคะแนนเหล่านี้คือสิ่งที่ใช้แทนเงินทองภายในหน่วยนภา เหมือนเช่นเงินทองบนโลกใบนี้ หรือหินพลังชีวิตในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง!
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนยังคงยืนกรานเช่นเดิม“สองแลกสามเท่านั้น..”
แหวนพื้นที่นับเป็นสมบัติที่ล้ำค่าและหาได้ยากอย่างยิ่งหลิงหยุนเชื่อว่าทั้งตระกูลหลงและตระกูลเย่จะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปแน่ และจะต้องยินยอมจ่ายไม่ว่าจะในราคาเท่าใดก็ตาม แต่หากทำออกมามาก ราคาของมันก็จะตกลงทันที!
“ได้..ได้.. ตกลง! สองแลกสาม!”
โจวเหวินอี้รู้ได้ทันทีว่าแม้ตนจะคิดใคร่ครวญลึกซึ้งแล้วแต่หลิงหยุนนั้นกลับคิดลึกซึ้งยิ่งกว่าเขาเสียอีก!
นอกเหนือจากในวันข้างหน้าที่ตระกูลหลิงจะมีตำแหน่งผู้เฒ่าหน่วยนภามากกว่าตระกูลหลงและตระกูลเย่แล้ว ทรัพยากรที่มอบให้กับผู้เฒ่าหน่วยนภาทั้งสามตำแหน่ง ยังสำคัญกับหลิงหยุนมากอีกด้วย หากจะว่าไปแล้วหลิงหยุนก็มีแต่ได้กับได้!
เวลานี้แม้โจวเหวินอี้จะเป็นถึงหัวหน้าของเหล่าผู้เฒ่าหน่วยนภาอีกทีแต่ใช่ว่าเขาจะสามารถดำรงในตำแหน่งนี้เพียงคนเดียวลำพัง โจวเหวินอี้เองก็จำเป็นต้องมีพรรคพวกที่ให้การสนับสนุนตนด้วยเช่นกัน เมื่อคิดได้เช่นนี้หลงิหยุนจึงหันไปพูดกับโจวเหวินอี้ว่า
“เหล่าโจวไม่ทราบว่าตำแหน่งหัวหน้าผู้เฒ่าหน่วยนภาของท่าน ต้องใช้แต้มจำนวนเท่าไหร่รึ!”
“หนึ่งร้อยล้าน!”
โจวเหวินอี้ตอบหลิงหยุนไปตามความจริงจากนั้นจึงยิ้มอย่างสงบพร้อมตอบกลับไปว่า “ทำไม! เจ้าอยากจะได้ตำแหน่งนี้งั้นรึ?! ไม่ยาก.. เจ้าทำแหวนพื้นที่มาอีกสามสิบวงมอบให้ข้าในคราวเดียว..”
“ข้าไม่สนใจ!”
หลิงหยุนถามไปเพราะความอยากรู้เท่านั้นเองเขาไม่มีเวลามากพอที่จะมาทำหน้าที่อะไรแบบนี้แน่!
แต่ในใจก็อดนึกประหลาดใจไม่ได้ว่าเหตุเหล่ายอดฝีมือจึงยินยอมใช้เงินทองมากมาย เพื่แลกกับตำแหน่งหัวหน้าเช่นนี้ด้วย
หนึ่งร้อยล้านคะแนน..ต้องแลกมาด้วยอะไรมากมายบ้าง “หลิงหยุน..แม้แต้มคะแนนของเจ้าจะเพียงพอให้สามารถขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งผู้เฒ่าหน่วยนภาได้ แต่หน่วยนภาของเราก็มีกฏว่าต้องมีผู้เฒ่าหน่วยนภาเจ็ดคนขึ้นไปประชุมเห็นชอบด้วย เจ้าจึงจะได้ขึ้นเป็นผู้เฒ่าหน่วยนภาอย่างแท้จริง”
โจวเหวินอี้ไม่ลืมที่จะอธิบายให้หลิงหยุนฟัง..
หลิงหยุนโบกไม้โบกมืออย่างไม่ใส่ใจนักพร้อมกับตอบไปว่า“ทำตามที่ท่านเห็นควร!”
แววตาของหลิงหยุนเป็นประกายเมื่อคิดว่าหากตนได้ตำแหน่งผู้เฒ่าหน่วยนภามาสามที่นั่ง ก็จะมีสิทธิ์ในการออกเสียงในเรื่องต่างๆของหน่วยนภาได้ และด้วยจำนวนเสียงที่มีไม่น้อย หากเขาไม่เห็นด้วยกับเรื่องใดๆ ก็ยากนักที่จะผ่านมติของหน่วยนภาไปได้..
เพราะในจำนวน11 เสียงนั้น ตระกูลหลิงมีถึงสี่เสียงหากนับรวมโจวเหวินอี้ไปด้วย ส่วนตระกูลหลงมีสอง ตระกูลเย่มีสอง อีกสามเสียงนั้นหลิงหยุนไม่ได้ใส่ใจนัก.. โจวเหวินอี้เห็นแววตาเป็นประกายของหลิงหยุนก็พอจะคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จึงได้แต่ยิ้มและพูดออกไปว่า
“พ่อหนุ่มนี่เจ้าเข้าใจโครงสร้างการทำงานของหน่วยนภาหมดแล้วสินะ!”
หลิงหยุนจ้องมองโจวเหวินอี้สองคนมองตากันพร้อมกับยิ้มอย่างเข้าใจ จากนั้นโจวเหวินอี้ก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“พวกเจ้าสองคนตามข้ามา!”
จากนั้นจึงเดินนำหลิงหยุนกับโม่วู๋เตาไปที่โกดังของศูนย์บัญชาการใหญ่หน่วยนภา
“ตามธรรมเนียมของหน่วยนภาหากรับสมาชิกใหม่เข้ามา ก็จะให้พวกเขาได้มาเลือกอาวุธคนละหนึ่งชิ้นภายในโกดังแห่งนี้!”
“แต่เวลานี้พวกเจ้ามีแต้มคะแนนมากเทียบเท่าผู้เฒ่าหน่วยนภาจึงมีสิทธิ์เลือกไปคนละห้าชิ้น!”
ระหว่างที่พูดโจวเหวินอี้ก็ได้ทำการเปิดกุญแจคลังอาวุธของหน่วยนภา.. ภายในนั้นมีทั้งหอกทวน ดาบ กระบี่ ขวาน ตะขอ สามง่าม และอีกมากมาย อาวุธทุกชนิดล้วนแล้วแต่ทำจากวัสดุชั้นดี
“โอ้โห!!”
“อาวุโสโจวหน่วยนภามีอาวุธมากมายถึงเพียงนี้เชียวรึ!”
โม่วู๋เตาร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นแต่เขาไม่กล้าเรียกโจวเหวินอี้ว่าเหล่าโจวเหมือนหลิงหยุน
โจวเหวินอี้พยักหน้ายิ้มๆ“พวกเจ้าต่อสู้เพื่อประเทศชาติ จะปล่อยให้ไม่มีอาวุธดีๆได้อย่างไรกันเล่า พวกเจ้าเลือกไปได้เลย..”
“ขอบคุณอาวุโส..”
หลิงหยุนยิ้มกว้างพร้อมกับพูดขึ้นว่า“คนละห้าชิ้นรึ ข้าจะเป็นผู้เลือกเอง..”
พูดจบหลิงหยุนก็ตรงเข้าเลือกอาวุธที่ใหญ่และหนักที่สุดโดยไม่สนใจว่ามันจะเป็นอาวุธชนิดใดเขาเลือกไปทั้งหมดสิบห้าชิ้นและเก็บเข้าไปไว้ในแหวนของตนเองทันที เวลานี้หลิงหยุนไม่ได้ต้องการอาวุธแต่เข้าต้องการวัสดุที่จะไปหลอมทำเป็นอาวุธต่างหาก เขาจึงต้องเลือกชนิดที่ใหญ่ที่สุดและหนักที่สุด
เห็นหลิงหยุนเรียกอาวุธทั้งสิบห้าชิ้นเข้าไปเก็บในแหวนของตนเองเช่นนั้นโจวเหวินอี้ก็ได้แต่นึกอิจฉา เพราะพื้นที่ภายในแหวนของหลิงหยุนคงต้องกว้างขวางใหญ่โตยิ่งนัก จึงสามารถจุของได้มากมายถึงเพียงนี้
จากนั้นทั้งหมดก็เดินกลับไปที่ห้องรับแขกดังเดิมเป็นเวลาเดียวกับที่ตี้เสี่ยวอู๋กลับมาพอดีเช่นกัน เขายื่นแหวนแพลตตินั่มจำนวนสิบสองวงให้กับหลิงหยุน
“เหล่าโจวข้าจะสร้างแหวนพื้นที่ ท่านอย่าแอบมองล่ะ!” หลิงหยุนร้องบอกโจวเหวินอี้ที่กำลังจ้องมองตาเขม็ง..
จากนั้้นหลิงหยุนก็เรียกหินพลังชีวิตออกมาสิบกว่าก้อนแล้วหมอกหนาก็พวยพุ่งขึ้นมาล้อมรอบ ทำให้โจวเหวินอี้ไม่สามารถมองเห็นหลิงหยุนได้ ภายในเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงหลิงหยุนจึงถอนค่ายกลออก และกลุ่มหมอกสีขาวเล็กๆก็จางหายไปทันที จากนั้นเขาก็โนแหวนพื้นที่สองวงให้กับโจวเหวินอี้ พร้อมกับแสร้งทำเป็นบ่นว่า
“เฮ้อ..ฝีมือของข้าตกไปมากทีเดียว แหวนจำนวนสิบสองวงข้ากลับทำสำเร็จเพียงแค่สองวงเท่านั้น!”
ความจริงแล้วหลิงหยุนสร้างแหวนพื้นที่ได้ทั้งหมดสิบสองวงส่วนอีกสิบวงอยู่ในแหวนจักรวาลของตน!