บทที่ 2070 – รักษาพิษ สมาชิกอาศรมเพลิงกำลังใกล้เข้ามา
มังกรรุ้งศักดิ์สิทธิ์
มันคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือเผ่าพันธุ์มาก่อน หญิงสาวคนนี้เหมือนได้รับพรจากสวรรค์ ชิงสุ่ยโยนลูกท้ออมตะจำนวน 5 ลูกให้กับมังกรรุ้งศักดิ์สิทธิ์ เจ้ามังกรกินลูกท้อทั้ง 5 ลูกและบินห่างออกไป
มันต้องใช้เวลาในการย่อย ลูกท้อเธอเป็นผลไม้ที่ช่วยเพิ่มความสามารถและรักษารากฐานมังกรที่ดีที่สุด ตำนานเล่าขานกันว่ามังกรรุ้งศักดิ์สิทธิ์ได้รับการเลี้ยงดูจากพลังฟ้าดิน มันจึงถูกนับว่าเป็นมังกรจากสวรรค์ และพื้นที่ใดก็ตามที่สามารถเลี้ยงดูมังกรุ้งศักดิ์สิทธิ์ได้นั่นก็หมายความว่าที่นั่นจะต้องมีสมบัติ
ต้นท้ออมตะถือว่าเป็นสมบัติของมังกรรุ้งศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นต้นท้อต้นนี้จึงเป็นสิ่งที่วิเศษ
ด้วยลูกท้อแห่งความอมตะและกระบวนการในการช่วยเหลือเฉินหวง มันทำให้เขาบรรลุพลัง เขาไม่คิดว่าดินแดนเต๋าแห่งสวรรค์ของเขาจะพัฒนา ชิงสุ่ยสังเกตสภาพแวดล้อม และสร้างค่ายกลเขาวงกต พร้อมกับปล่อยอสูรแมงมุมมังกร อสูรสยบมังกรและเจ้ากิเลนเพลิงออกมา เพื่อเฝ้าระวังอีกชั้น เขาไม่ต้องการเจอปัญหาใดๆ
“มาเถอะ พวกเรามากินกันคนละ 5 ลูก แต่ก่อนอื่น เรามากินยานี้กันก่อน”ชิงสุ่ยนำเอายาเร่งเวลา 5 ส่วนออกมา เนื่องจากการจะกินผลไม้ทั้ง 5 ผลมันต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี เขาจึงจำเป็นต้องลดข้อจำกัด 5 ปีนั้นออก ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าถ้าหากพ้น 1 ปีไปเขาจะกินมันเพิ่มได้หรือไม่
เฉินหวงกินยาเม็ดโดยไม่ลังเลและรีบกินผลท้ออมตะ
ผู้ฝึกตนไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหาร แต่ถ้าหากพวกเขาต้องการกิน พวกเขาก็สามารถกินทุกอย่างได้ตามต้องการ
ผลไม้ค่อยๆละลายในปาก ความอบอุ่นไหลผ่านไปทั่วร่างกาย เฉินหวงรับรู้ได้ถึงพลังที่แสนอบอุ่นเกิดขึ้นใกล้กับจุดรวมพิษน้ำแข็ง และแล้วมันก็เข้าไปผสมกับพิษน้ำแข็งทันที ใบหน้าของเธอซีดเซียว เพราะพิษน้ำแข็งเริ่มกินพลังจากผลท้อ
ด้วยอัตราความเร็วในการกลืนกิน อีกไม่นานพิษน้ำแข็งก็จะแข็งแกร่งขึ้น
ชิงสุ่ยที่สังเกตเห็นก็รีบวิ่งออกไปใช้นิ้วชี้กดลงไปยังจุดรวมพิษ พลังแปลกประหลาดพุ่งเข้าไปในร่างกายของเฉินหวง บีบพิษน้ำแข็งให้กระจาย พลังบริสุทธิ์ของผลท้อกลับมาหลอมรวมกันอีกครั้ง นี่คราวนี้ปริมาณของมันเพิ่มพูนขึ้น และเริ่มเข้าไปผสมรวมกับพิษน้ำแข็ง
พิษน้ำแข็งกลืนกินมันอีกครั้ง ฉะนั้นชิงสุ่ยจึงรีบนำเข็มทองคำออกมาและฝังลงบนร่างกายของเธอ 3 เล่ม พลังที่ถ่ายทอดลงไปจากตัวแขนเหมือนปราการป้องกันขนาดใหญ่ ที่ขวางกั้นไม่ให้พิษน้ำแข็งเข้ากลั่นพลังลูกท้อ ในเมื่อปริมาณพิษคงที่ แต่พลังบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นพลังบริสุทธิ์จึงเริ่มบั่นทอนพิษน้ำแข็งให้แตกเป็นส่วนเล็กๆ
ชิงสุ่ยยังคงถ่ายทอดพลังปราณของเขาเข้าสู่พื้นที่พิษอย่างสม่ำเสมอ การได้รับทั้งพลังธรรมชาติและปราณแห่งการหวนคืนจะยิ่งทำให้พิษน้ำแข็งอยู่ในสภาพวิกฤต พลังชำระล้างบริสุทธิ์ที่แข็งแกร่งขึ้นค่อยๆปรับสภาพพิษน้ำแข็งให้กลายเป็นกลาง
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เมื่อพิษน้ำแข็งถูกทำให้เป็นกลางด้วยพลังล้างพิษ ชิงสุ่ยก็เริ่มใช้การฝังเข็มเพื่อเร่งกระบวนการ ลูกท้ออมตะถูกใช้เป็นฐานในการเสริมสร้างร่างกาย และเริ่มชำระล้างเส้นลมปราณ
การชำระล้างใช้เวลากว่า 3 วัน ในที่สุดพิษน้ำแข็งในร่างกายของเฉินหวงก็ถูกกำจัดอย่างสมบูรณ์ ชิงสุ่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขณะที่เขาดึงเข็มทองคำออกมาอย่างช้าๆ สวรรค์คงจะเห็นใจเฉินหวง เธอไม่จำเป็นต้องตามหาผีเสื้อเพลิงอีกต่อไปแล้ว
นอกจากนี้ ผลของการเดินทางก็ได้เปลี่ยนความโชคร้ายให้กลายเป็นพลังของพวกเขา
“พวกเราไม่จำเป็นต้องตามหาหนอนผีเสื้อเพลิงอีกแล้ว”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความโล่งอก
“ท่านช่วยชีวิตข้าหลายต่อหลายครั้ง ข้าจะต้องตอบแทนบุญคุณท่านด้วยวิธีใด?”เฉินหวงกล่าวด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มจางๆ ขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าชิงสุ่ย กลิ่นอายความน่าหลงใหลมันดูจะยิ่งแข็งแกร่งกว่าทุกครั้งที่เคยเป็น
มันเหมือนราวกับกำลังหลงใหลในความงามยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว เฉินหวงจ้องมองชิงสุ่ยอยู่อย่างเงียบๆ มันทำให้เขารู้สึกเรากับว่าเขาไม่คู่ควรจะยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แมวความกล้าในจิตใจของเขาจะเพิ่ม แต่เขาก็ยังไม่สามารถขจัดความรู้สึกแบบเดิมไปได้
“ตอบแทนข้าด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ของท่าน ในชีวิตนี้ ดูเหมือนโชคชะตาของเราจะเกี่ยวพันกัน อย่าทิ้งข้าไป”
“แม้ว่าท่านจะไม่ต้องการทำอะไรกับข้า แต่ข้าก็จะยอมทำตามทุกอย่าง ท่านคือผู้ช่วยชีวิตข้ แต่ดูเหมือนว่าท่านเองก็เป็นคนเอาบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญไปจากข้าด้วย”เฉินหวงกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
ชิงสุ่ยขยับมือทำลายค่ายกล จากนั้นก็เอื้อมมือไปก่อนเฉินหวง “พื้นที่บริเวณแถวนี้ไม่ค่อยจะดี ทำไมพวกเราไม่ลองแวะเวียนอยู่รอบๆก่อนจะกลับละ”
ก่อนที่เฉินหวงจะให้คำตอบกลับชิงสุ่ย สัตว์อสูรลอยฟ้าขนาดใหญ่ก็ปรากฏตัวจากระยะไกล เฉินหวงจ้องมองชิงสุ่ยและหัวเราะเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าปัญหากำลังจะมาถึง”
“สมาชิกอาศรมเพลิง”แม้ว่าแขกที่ไม่คาดคิดจะยังอยู่ห่างไกล แต่ชิงสุ่ยก็สามารถระบุอัตลักษณ์พวกเขาได้ทันทีผ่านสัญลักษณ์บนเสื้อผ้า เขาไม่คิดเลยว่าคนกลุ่มนี้จะไล่ตามพวกเขามาถึงส่วนลึกทะเลดอกไม้ ชิงสุ่ยกำลังอารมณ์ดี เขาจึงไม่รังเกียจที่จะต้อนรับแขกด้วยหมัดของเขา ด้วยเหตุการณ์ที่เฉินหวงกำลังมอบให้เขา เขาจึงไม่อยากเสียเวลากับคนกลุ่มนี้
“แม้ว่าสมาชิกอาศรมเพลิงจะโหดเหี้ยม แต่พวกเขาก็แข็งแกร่ง พวกเขาได้รับยกย่องติดอยู่ใน 5 อันดับพลังแห่งแผ่นดินเพลิงระอุ”เฉินหวงอธิบายขณะเฝ้ามองดูคนของอาศรมเพลิงเข้ามาใกล้
“ว่าแต่ท่านรู้หรือไม่ว่ากลุ่มพลังใดแข็งแรงที่สุดในแผ่นดินเพลิงระอุ?”ชิงสุ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินเพลิงระอุก็คือตระกูลเพลิงระอุ พระราชวังอมตะเพลิงระอุ”
ในขณะที่เฉินหวงกำลังกล่าว สมาชิกของอาศรมเพลิงก็เข้ามาใกล้ พวกเขามาพร้อมกับเสียงตะโกน “นั่นมันไอ้เด็กบัดซบ ข้าจะทำให้เจ้าต้องตายอย่างน่าสยดสยอง!!”
เสียงของฮัวเล่ยเต็มไปด้วยความโกรธ การถูกทำให้ขายหน้ามันเป็นความโกรธแค้นที่เขาไม่อาจทนได้ การสร้างความแค้นเคืองต่อเขา มันเท่ากับการสร้างความแค้นเคืองต่ออาศรมเพลิง
ชิงสุ่ยมองดูกลุ่มคนนับสิบ และจดจำฮัวเล่ยได้เป็นอย่างดี ด้านหลังของเขาอีกหลายคนเป็นชายวัยกลางคน โดยที่มีอีก 2 คนดูอ่อนกว่าคนอื่น
“ข้าขอบอก น้องเจ็ด เจ้าทำเป็นหูหนวกทุกครั้งที่ข้าบอกให้เจ้าฝึกฝนด้วยวิธีการที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ข้าก็ต้องขอยอมรับเลยว่า หญิงสาวคนนี้มีเสน่ห์อย่างที่เจ้าว่า”คนที่พูดเป็นผู้ชายหล่อเหลา ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
“พี่สาม ท่านจะต้องช่วยข้า ข้าจะไม่ยอมทนเด็ดขาด หญิงสาวคนนั้น ข้าขอมอบเป็นของเล่นให้ท่านเป็นคนแรก เมื่อท่านเบื่อเมื่อไหร่ ข้าก็ขอต่อ ข้อเสนอดูดีหรือไม่?”ฮัวเล่ยกล่าวอย่างสุภาพ
“ดูเหมือนข้อตกลงจะเสร็จสิ้น พี่สาม ความแข็งแกร่งของมันเองก็ไม่ธรรมดา แม้ว่าท่านพี่สามจะเป็นอัจฉริยะของอาศรมเพลิงแต่ท่านก็โปรดระมัดระวังตัวด้วย”ฮัวเล่ยกล่าวเตือน
“ข้าจะแสดงความแข็งแกร่งให้เจ้าดูเป็นขวัญตา แล้วเจ้าจะรู้ว่าความแตกต่างมันเป็นอย่างไร”ชายคนนั้นกล่าวด้วยความมั่นใจ