บทที่ 2071 – จบสิ้นตั้งแต่กระบวนท่าแรก เหมือนถูกตบหน้า
ชิงสุ่ยจ้องมองคนเหล่านั้นด้วยความมั่นใจ และรู้ดีว่าคนพวกนี้กำลังจะหมดโชค ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่มีใครเทียบได้กับชิงสุ่ยหรือแม้แต่เฉินหวง
ความแข็งแกร่งของชิงสุ่ยโดยพื้นฐานยังคงเท่าเดิม แต่เมื่อเสริมพลังด้วยพลังสวรรค์แห่งเต๋า เขาจะสามารถแสดงพลังได้สูงกว่าปกติหลายเท่า ตัวอย่างเช่น ถ้าหากเขาโจมตีด้วยพลัง 1 พันล้านเต๋า เมื่อเสริมผ่านพลังสวรรค์แห่งเต๋าเขาจะโจมตีได้ถึง 2 พันล้านหรือไม่ก็ 3 พันล้านเต๋า
ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลาย มันเป็นความรู้สึกแตกต่างจากการมาที่นี่ครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง การได้เห็นกลุ่มคนหยิ่งผยองเข้ามาใกล้ มันเหมือนกับกำลังดูกลุ่มตัวตลก ปัญหาเดียวที่มีก็คือกลุ่มคนกลุ่มนี้ไม่ใช่ตัวตลกธรรมดา แต่เป็นตัวตลกที่มีขุมกำลังอันน่ากลัวคอยสนับสนุน
คนที่ถูกเรียกว่าพี่สาม เดินมาข้างหน้าพร้อมกับจ้องมองชิงสุ่ยและเฉินหวง แต่สายตาของเขามุ่งเน้นไปที่เฉินหวงเป็นส่วนใหญ่ เขาไม่คิดที่จะซ่อนความหื่นกระหายเลยแม้แต่น้อย นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้ที่เกิดจากครอบครัวอำนาจและครอบครัวสามัญชน เหล่าคนที่มาจากครอบครัวอำนาจมักจะแสดงตัวหยิ่งผยองโดยไม่รู้ตัว
เขาเป็นพวกที่เชื่อว่าหญิงสาวโฉมงามทุกคนเป็นของเขา มันคือมุมมองที่ฝังแน่นอยู่ในใจตั้งแต่เกิด สวรรค์อันดับหนึ่งพวกเขาอันดับสอง ทุกครั้งที่พวกเขามองหญิงสาวสวยงาม พวกเขาจะไม่สนใจสถานการณ์ ทำทุกอย่างเพื่อจับตัวพวกเธอปรนเปรอตัวเอง
ชิงสุ่ยเข้าดูการแสดงออกของชายคนนั้น นึกถึงคำพูดกล่าวเตือนที่เขาเคยเตือนฮัวเล่ย ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟังเลย
“ไอ้สารเลว ถ้าหากเจ้ายอมคุกเข่ากราบเท้าข้า ข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า” ชายคนนั้นหัวเราะยิ้มเยาะขณะกล่าวขู่ชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยไม่ใส่ใจคำพูด เขายังคงสงบ ส่วนเฉินหวงเองก็ไม่มีท่าทีจะกังวล เธอเจอคำพูดเหล่านี้มามาก และมันก็ไม่มีผลอะไรกับเธอ
“ข้าคือฮัวหยุนแห่งอาศรมเพลิง แม่นางน้อยมากับข้า ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดีในอาศรมเพลิง เจ้าจะไปได้ทุกที่ในแผ่นดินเพลิงระอุโดยไม่มีผู้ใดกล้าขวาง”ชายคนนั้นจ้องมองเฉินหวงด้วยสีหน้าหยาบคาย
รอยยิ้มแห่งความเย่อหยิ่งแสดงให้เห็นถึงภูมิหลังที่สูงส่ง สำหรับผู้หญิงที่ไม่ได้เผชิญโลกกว้าง พวกเธอคงจะตกหลุมรักชายคนนี้ สำหรับเฉินหวง เขามีชีวิตต่ำต้อยยิ่งกว่าแมลง
“ชิงสุ่ย ทำไมข้ารู้สึกว่าชายคนนี้มันงี่เง่าโง่เขลาเหลือเกิน?”เฉินหวงถามชิงสุ่ยพร้อมกับหัวเราะ
“นั่นก็เพราะว่าเขาเกิดมาโง่ไงล่ะ”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
คำพูดของชิงสุ่ยเป็นคำดูถูกเหยียดหยามแต่ก็ตรงประเด็น เฉินหวงเองก็ได้ยินสองพี่น้องคนนั้นคุยกัน เธอจึงรู้สึกว่าทั้งสองคนนี้ต่ำยิ่งกว่าสัตว์
ชิงสุ่ยหัวเราะ “ถ้าหากข้าไม่ด่าพวกเขาสักที ข้าคงอึดอัด”
ฮัวหยุนตกตะลึงและโกรธมาก เขามันเป็นฝ่ายที่ด่าคนอื่นว่าเป็นคนโง่มาโดยตลอด จึงไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถูกเรียกเช่นนั้น ฮัวหยุนฝืนยิ้มออกมา แต่ก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร “ไอ้สาระเลว แกอยากตายมากสินะ?”
“เจ้า? โง่หรือเปล่า? อยากจะฆ่าข้า? เจ้ามันเป็นเพียงแค่คนโง่ที่มีความรู้ในการต่อสู้แค่ผิวเผิน ทำไมถึงไม่กล้ายกย่องตัวเอง แล้วไอ้สองคนที่อยู่ด้านข้างเจ้าเป็นใครล่ะ? พวกเขามาที่นี่เพื่อคอยปกป้องเจ้าสินะ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญหรือ? เจ้ามันก็เป็นเพียงแค่คนโง่”ชิงสุ่ยหัวเราะลั่น
ฮัวหยุนโกรธจนแทบจะระเบิด คำดูถูกเหยียดหยาม กำลังบั่นทอนศักดิ์ศรี โดยเฉพาะตัวของเขาที่อยู่ในกลุ่มผู้ยิ่งใหญ่อย่างอาศรมเพลิง
“เจ้ามันช่างโง่ยิ่งนัก”ฮัวหยุนระเบิดความโกรธ
“สงสัยว่าเจ้าจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่คนโง่ เจ้ามันโง่ดักดาน วันนี้จะเป็นวันซวยของเจ้าและจะเป็นวันฝันร้ายที่สุดของเจ้า”ชิงสุ่ยตอบกลับด้วยคำพูดเหยียดหยาม สีหน้าท่าทางของเขายิ่งกระตุ้นความหล่อทองฮัวหยุน
“ข้าจะมอบความตายให้กับเจ้า!! ที่บังอาจมาหัวเราะข้า!!”
ฮัวหยุนดึงกระบี่ยาวสีแดงออกมาและทะลวงเข้าหาชิงสุ่ย
กระบี่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ในมือของเขาเป็นกระบี่ที่มีชื่อว่ากระบี่ลาวาซึ่งเป็นกระบี่ที่หล่อมาจากโลหะไฟที่ได้มาจากก้นบึ้งของหินหนืดเพลิง การที่ชิงสุ่ยได้เผชิญหน้ากับคนของอาศรมเพลิงก่อนหน้านี้ มันทำให้เขาสังเกตเห็นว่ากลุ่มอาศรมเพลิงเน้นฝึกฝนทักษะวิทยายุทธเกี่ยวกับไฟ ธาตุไฟเป็นธาตุที่บ้าระห่ำที่สุดท่ามกลางธาตุทั้ง 5 และมีพลังโจมตีรุนแรงครอบคลุม
กระบี่ยาวสีแดงเพลิงปลดปล่อยลำแสงสีแดง ปลายกระบี่สาดเปลวเพลิงพวยพุ่งชนมีความยาวกว่า 1 เมตร เมื่อเปลวเพลิงผสมเข้ากับพลังปราณต้นกำเนิด ความร้อนของมันก็เข้าสู่จุดหลอมละลาย แม้กระทั่งอากาศยังถูกทำให้บิดเบือน
ชิงสุ่ยหัวเราะไม่เห็นการโจมตีของศัตรู ยังมีคนกล้าแสดงกระบวนท่าไฟต่อหน้าชิงสุ่ยที่มีความสามารถในการลบล้างพลังไฟ 70 ส่วน นี่มันคือเรื่องน่าตลก ชิงสุ่ยตอบโต้กับไปด้วยทักษะฝ่ามือกระชากมังกร
ฮัวหยุนที่เห็นชิงสุ่ยใช้มือเปล่ารับการโจมตีกระบี่ เขาก็ตะโกนด้วยความโกรธว่า “ตาย!!”
ปัง
และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชิงสุ่ยจับกระบี่ยาวของฮัวหยุนได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเขาจะไม่ใช้กระบวนท่าใดเขาก็สามารถรับกระบี่ของฮัวหยุนได้อยู่ดี ถึงเขาจะลบล้างความเสียหายจากไฟได้ถึง 70 ส่วน แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่าน เพียงแต่มันไม่ได้สร้างความเสียหายกับตัวเขา
ฮัวหยุนตกใจอย่างหนัก ชิงสุ่ยรับการโจมตีของเขาโดยไม่บาดเจ็บ เขาพยายามจะดึงกระบี่ออกจากมือชิงสุ่ย แต่เขากลับรู้สึกเหมือนมันติดอยู่ในหิน เขาขยับมันไม่ได้เลย และในไม่ช้าเขาก็ถูกชิงสุ่ยโจมตีเข้าอย่างจังด้วยศอก
ปังงงง
ฮัวหยุนกระอักเลือดขณะปลิวลอยอยู่บนอากาศ ชิงสุ่ยว่าจำเป็นต้องโจมตีต่อ เพราะพลังที่เขาโจมตีออกไปมันทำให้ฮัวหยุนต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปอย่างน้อยครึ่งปี
นี่คือความแตกต่างของพลัง ความแตกต่างที่ฮัวหยุนกล่าว ความแข็งแกร่งระหว่างอัจฉริยะและสามัญชน คำพูดของเขากลายเป็นผีคอยหลอกหลอนตัวเขาเอง และมันก็กลายเป็นการตบหน้าฮัวหยุนโดยตรง