ในห้องโถงใหญ่ของอารามหมาป่าสวรรค์ บรรยากาศน่าอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ไม่ใช่ประมุขของอารามหมาป่าสวรรค์ แต่เป็นชายร่างกำยำที่ดูเหมือนอายุประมาณ 35 ปี แม้ว่าอายุของเขาจะไม่ถือว่าแก่ แต่รังสีกดดันที่เขาปล่อยออกมาก็ทำให้เหล่าผู้อาวุโสของอารามหมาป่าสวรรค์เหงื่อแตกพลั่ก สีหน้าของเขามืดมนอย่างยิ่ง เขาเม้มปากแน่น คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
ผู้อาวุโสของอารามหมาป่าสวรรค์ที่อยู่ทั้งสองด้านของห้องโถงใหญ่ตัวสั่นระริก พวกเขายืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
“ใครบอกได้บ้าง นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ชายที่มีสีหน้ามืดมนหรี่ตา เขากวาดตามองเหล่าผู้อาวุโส เสียงของเขาดังก้องไปทั่วทั้งห้องโถง “พูด!” เขาตะคอกพร้อมกับถลึงตามองพวกผู้อาวุโส ก่อนจะทุบฝ่ามือลงบนที่วางแขนอย่างโกรธจัด มันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เศษไม้ปลิวกระเด็นลงบนพื้นหินอ่อน เสียงที่ดังก้องในห้องโถงที่เงียบสงัดทำให้ดังแสบแก้วหูเป็นพิเศษ
ในห้องโถง เหล่าผู้อาวุโสที่เคยมีสถานะสูงส่งในเก้าอารามพากันตัวสั่น พวกเขาคุกเข่าลงทันทีและก้มศีรษะคำนับด้วยความกลัว ร่างกายของพวกเขาไม่สามารถหยุดสั่นได้
ห้าปีที่แล้ว ในการสู้รบที่สำนักธาราเมฆ ปาเฮ่อและผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองหนึ่งพันคนถูกสังหารจนสิ้นที่ยอดเขาฝูเหยา แต่ศิษย์ของเก้าอารามยังกลับมาได้ ตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะสามารถขจัดข้อสงสัยของอาณาจักรบนได้ แต่คิดไม่ถึงว่าคนของอาณาจักรบนจะไม่ถามพวกเขาสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาจับประมุขของเก้าอารามทุกคนไปและส่งคนที่แข็งแกร่งสองคนที่นำผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองจำนวนมากมายึดอำนาจของเก้าอารามอย่างสมบูรณ์
ตั้งแต่นั้นมา เก้าอารามก็กลายเป็นแค่ชื่อเท่านั้น อาณาจักรบนได้เข้าควบคุมจากภายในอย่างสมบูรณ์ พวกเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดเท่านั้น เหล่าผู้อาวุโสของเก้าอารามก็กลายเป็นเพียงขี้ข้าที่ถูกบังคับให้ทำตามคำสั่งของพวกเขา
ชายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ตอนนี้เป็นหนึ่งในสองผู้แข็งแกร่งที่อาณาจักรบนส่งมา พลังของเขาแข็งแกร่งน่ากลัวมาก กระทั่งผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองก็ต้องเคารพเขา นับประสาอะไรกับผู้อาวุโสที่ยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตของพลังวิญญาณสีทองเลย?
สายตามุ่งร้ายของชิวอวิ๋นกวาดมองเหล่าผู้อาวุโสที่ยังคงนิ่งเงียบด้วยความกลัว ความรู้สึกไม่พอใจยิ่งทำให้สายตาของเขาดุดันมากขึ้น
“ไอ้พวกขยะไร้ประโยชน์! ที่พวกเจ้าต้องทำก็แค่หาที่ตั้งของอาณาจักรแห่งความมืดแต่แค่นั้นก็ยังทำไม่ได้ ข้าจะเอาพวกไร้ประโยชน์อย่างพวกเจ้าไปทำไม!”
วิหาร 108 แห่งถูกทำลายภายใน 3 วัน ผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองที่ส่งไปไม่มีใครรอดกลับมาเลยสักคน เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในอาณาจักรกลางจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะได้เห็นศพของผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองด้วยตาตัวเอง ชิวอวิ๋นคงไม่มีวันเชื่อว่าอาณาจักรกลางที่อ่อนแอจะมีคนที่สามารถต่อกรกับผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองจากอาณาจักรบนได้!
แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็ได้เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขาแล้ว ไม่ใช่แค่วิหาร 108 แห่งที่ถูกทำลาย แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน กองกำลังเดียวกันก็เริ่มจู่โจมสาขาต่างๆของเก้าอารามด้วย ไม่ถึงครึ่งเดือน จำนวนผู้เสียชีวิตก็มากมายเกินรับ และสิ่งที่ทำให้ชิวอวิ๋นอยากกระอักเลือดก็คือไม่มีผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองคนใดหนีรอดมาได้เลย ราวกับว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาสามารถหักคอผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองได้อย่างง่ายดาย ไม่มีใครรอดจากชะตากรรมที่น่าอนาถได้เลย ทุกคนถูกฆ่าจนหมด แต่ศิษย์ของเก้าอารามส่วนใหญ่กลับรอดชีวิต!
จากปากคำของศิษย์ที่รอดชีวิตมาได้ เก้าอารามลงความเห็นว่ามีความเป็นไปได้สูงที่พวกที่จู่โจมจะเป็นพวกที่เคยก่อให้เกิดพายุลูกใหญ่ขึ้นในอาณาจักรกลาง – อาณาจักรแห่งความมืด!