บทที่ 1773 ผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางมนุษย์

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1773 ผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางมนุษย์

 

ภายในเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูต ผู้อมตะสองคนยืนเผชิญหน้ากัน

 

ฟางหยวนถอนหายใจ “เรามีเวลาจํากัด ข้าจะกล่าวตามตรง ข้าต้องการทําธุรกรรมกับตระกูลจือท่านสนใจงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันของข้าหรือไม่?”

 

จ่อชิวหยุตกตะลึงก่อนที่สายตาเย็นชาของเขาจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“เส้นทางแห่งความฝัน? ข้าได้ยินผิดไปหรือไม่?” ดวงตาของชื่อชิวหยูเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้น

 

ฟางหยวนมีวิธีเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันให้กลายเป็นมนุษย์ เขาเคยใช้มันในการต่อสู้กองกําลังใหญ่ทั้งหมดต่างรู้สึกอิจฉาวิธีการของเขา

 

ฟางหยวนมีวิญญาณกาลเวลา เขาเดินทางมาจากอนาคต ไม่แปลกที่เขาจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางแห่งความฝัน

 

อาจกล่าวได้ว่างานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันของฟางหยวนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกยุคนี้

 

“หากข้าบอกท่านว่าข้าได้รับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลมาจากอาณาจักรแห่ง ความฝันท่านจะคิดอย่างไร?” ฟางหยวนยิ้มและกล่าวอย่างไม่เป็นทางการ แต่มันเห มือนหินก้อนใหญ่ที่ถูกโยนเข้าสู่หัวใจของจื่อชิวหยูและทําให้มันเกิดการสั่นไหว

 

“โอ้ จริงหรือ?” จ่อชิวหยูถูกล่อลวง เขาไม่สามารถรักษาความสงบได้อีกต่อไป

 

ฟางหยวนหัวเราะ เขาสร้างบทสนทนานี้ขึ้นมาเพื่อลดความก้าวร้าวของอชิวหยู เมื่อถึงจุดนี้เขาก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์

 

สิ่งนี้แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้า

 

ฟางหยวนโยนวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลออกไปอีกครั้ง “ผู้อาวุโสลองดูนี้”

 

จ่อชิวหยูรับมันไว้อย่างระมัดระวังราวกับกลัวมันจะบินหนีไป

 

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันเอาไว้ มันน่าสนใจมาก

 

จือชิวหยูเลียริมฝีปากและรู้สึกคอแห้ง

 

เขาประทับใจมาก

 

จ่อซิวหยูต้องบังคับให้ตนเองสงบลง “เจ้าต้องการทําธุรกรรมใด?”

 

“ข้าต้องการอาณาจักรแห่งความฝัน มอบอาณาจักรแห่งความฝันให้ข้า แล้วข้าจะมอบงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันให้ท่าน”

 

จ่อชิวหยูปฏิเสธ “นี่เป็นเรื่องยาก อาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้เกือบทั้งหมดอยู่ภายใต้การคุ้มกันของกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้”

 

ฟางหยวนยิ้ม “ผู้อาวุโสจือ ข้าต้องการอาณาจักรแห่งความฝันบนภูเขาอี้เทียน ท่านคือผู้รับผิดชอบค่ายกลวิญญาณอมตะ ข้ารู้ว่ามีประตูลับซ่อนอยู่มากมาย มันง่ายสําหรับท่านที่จะขโมยอาณาจักรแห่งความฝันออกมาโดยไม่มีปัญหาใดๆ”

 

การแสดงออกของจื่อชิวหยูเปลี่ยนไปอีกครั้ง

 

ฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจน!

 

ประตูลับบนภูเขาอี้เทียนเป็นความลับและความภาคภูมิใจของชื่อซิวหยู เขาสร้างพวกมันขึ้นมาภายใต้สายตาของกองกําลังใหญ่ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ทั้งหมด เขากลั่นแกล้งคนเหล่านั้นที่ขาด ความรู้ความเข้าใจบนเส้นทางแห่งค่ายกล

 

“ข้าคิดว่าข้าสามารถหลอกทุกคน แต่ผู้ใดจะคิดว่ามันจะไม่สามารถหลุดรอดจากสายตาของฟางหยวน

 

ยืม อาจไม่ใช่เพียงฟางหยวน เห้อ…ข้าประเมินอัจฉริยะของโลกนี้ต่ําเกินไป

 

จ่อชิวหยูคิด

 

ในความเป็นจริงฟางหยวนได้รับข้อมูลนี้มาจากจ่อชิวหยูในชีวิตก่อนหน้า

 

ฟางหยวนคิดถึงคํากล่าวที่ว่าศัตรูตัวฉกาจที่สุดของคนผู้หนึ่งมักเป็นตัวคนผู้นั้นเอง

 

ฟางหยวนยังกดดันจือชิวหยูต่อไป

 

การเจรจาคือการต่อสู้ แม้มันจะไม่ตรงไปตรงมาเหมือนการต่อสู้ แต่มันยังเป็นการต่อสู้ในแง่ของไหวพริบและยุทธวิธี

 

เปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า ตอนนี้ฟางหยวนมีข้อได้เปรียบมากเกินไป เขาแข็งแกร่งขึ้นเพราะข้อมูลที่เขามี เขารู้จักคู่ต่อสู้เป็นอย่างดี นั่นทําให้เขาสามารถวากลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพกระทั่งคนเช่นจือชิวหยูก็ยังตกเป็นเหยื่อ

 

การเจรจาจบลงอย่างรวดเร็ว ฟางหยวนเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างท่วมท้น

 

จ่อซิวหยูตกลงทําธุรกรรมแต่สถานะของเขาค่อนข้างน่าขายหน้า

 

แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น

 

ประการแรก

 

มารถทําสิ่งใด มันเสียงเกินไปหากเขาพยายามจัดการฟางหยวน 56N5

 

ประการที่สอง หากเขาร่วมมือกับฟางหยวน ฝ่ายหลังจะหยุดปล้นสะดมแหล่งทรัพยากรของตระกูลจือเขาจะได้รับงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝัน สิ่งนี้ดึงดูดใจมากเกินไป

 

ประการสุดท้าย จ่อชิวหยูยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าคนทรยศ เขาต้องการหาคนทรยศเหล่านี้เขาอาจสามารถค้นหาพวกเขาผ่านฟางหยวน

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ์ ภาคใต้น้อย

 

ภูเขาที่ว่างเปล่า มันเป็นภูเขาหินที่ไร้พืชพันธุ์

 

ผู้อมตะระดับหกเผ่ามนุษย์หินยืนอยู่บนยอดเขาและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

“หลังจากมิติช่องว่างกลายเป็นถ้ําสวรรค์ มันแตกต่างจากแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก!”

 

“มันทั้งยิ่งใหญ่และงดงาม ขนาดของมิติช่องว่างจักรพรรดิใหญ่โตเกินจินตนาการ สมกับเป็นปาฏิหาริย์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ!”

 

ทุกครั้งที่มองมัน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินชื่อเฉิงต้องถอนหายใจเสมอ

 

ความยิ่งใหญ่ของมิติช่องว่างจักรพรรดิกทําให้เขาไม่มีความคิดที่จะต่อต้านฟางหยวนแม้แต่น้อย

 

ด้านหลังเขา กลุ่มผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์หินกําลังพูดคุยกัน

 

“ หลังจากใช้เวลามากกว่าสิบวัน ในที่สุดพวกเราก็สามารถสร้างภูเขาลูกนี้!”

 

“ข้ารู้สึกเหนื่อยมาก เราต้องทํางานตั้งแต่เช้าจนถึงดึกทุกวัน”

 

“ข้าได้ยินมาว่าการสร้างภูเขาลูกนี้เป็นภารกิจที่ได้รับมาจากตัวตนบนจุดสูงสุด”

 

“เพื่อให้ภารกิจเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว เราต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลและใช้วิญญาณอย่างต่อเนื่องวิญญาณอย่างน้อยสามสิบดวงตายในกระบวนการนี้…”

 

“เจ้าไม่รู้สึกว่าการหลอมรวมวิญญาณที่นี่มีโอกาสประสบความสําเร็จสูงงั้นหรือ?”

 

“เห้อ…เราจะได้รับรางวัลเมื่อภารกิจสําเร็จ ข้าหวังว่านายท่านผู้อมตะจะให้รางวัลใหญ่กับพวกเรา”

 

“หุบปาก! พวกเจ้ามีคุณสมบัติที่จะวิจารณ์นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ผู้นั้นงั้นหรือ?” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป

 

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์หินก้มศีรษะลงด้วยความหวาดกลัว

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่แสงสีเขียวส่องประกายขึ้นบนท้องฟ้า จากนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น

 

มันคือร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวน หัวใจของทุกคนเต้นระรัวขณะที่พวกเขาเร่งคุกเข่าลงแสดงความเคารพ

 

“ผู้ใต้บังคับบัญชาทักทายนายท่าน!” ชื่อเฉิงทักทายด้วยทัศนคติที่อ่อนน้อมถ่อมตน

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนพยักหน้าและถาม “ภารกิจสําเร็จหรือไม่?”

 

ภารกิจของฟางหยวนไม่ใช่เพียงการสร้างภูเขาแต่มันยังรวมถึงค่ายกลวิญญาณอมตะภายในภูเขาอีกด้วย

 

ชื่อเฉิงรายงาน “นายท่าน ข้าจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไฟตามรูปแบบที่นายท่านมอบให้เรียบร้อยแล้ว นายท่านเพียงต้องกระตุ้นใช้งานมัน”

 

ฟางหยวนส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปตรวจสอบก่อนจะพยักหน้า เขาค่อนข้างพอใจ

 

ฟางหยวนเห็นชื่อเฉิงต้องการกล่าวบางสิ่งแต่ไม่กล้าพูดออกมา ดังนั้นเขาจึงเป็นฝ่ายเปิดปากถาม “เจ้าต้องการกล่าวสิ่งใดกับข้าหรือไม่?”

 

ชื่อเฉิงกระพริบตา เขาแสดงออกด้วยความไม่สบายใจก่อนจะตัดสินใจกล่าว “ข้าได้ยินมาว่านายท่านต่อสู้และได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ตอนนี้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้กําลังหวาดกลัว กระทั่งจ่อชิวหยูก็ไม่สามารถทําสิ่งใด เขาทําได้เพียงมองนายท่านจากไปเท่านั้น…”

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาเข้าใจคํากล่าวของชื่อเฉิง เขาขัดจังหวะ “ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินของเจ้าต้องการให้ข้าหยุดและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขใช่หรือไม่?”

“โปรดอภัยด้วย!” ชื่อเฉิงเร่งขอโทษด้วยความหวาดกลัว“นี่เป็นความคิดของข้าเท่านั้น ผู้อาวุโสสูงสุดของเรากําลังฝึกฝนอยู่ที่เกาะบัวหินพวกเขาไม่ทราบ!”

 

ฟางหยวนเย้ยหยันอยู่ภายใน

 

เผ่ามนุษย์หินมีความคิดที่แตกต่าง พวกเขาต้องการใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขและพัฒนาไปอย่างช้าๆ พวกเขาเกลียดความเสียง พวกเขารักการซ่อนตัวอยู่ในถ้ําหรือนอนหลับอยู่ใต้ดินเป็นเวลาหนึ่งศตวรษหรือมากกว่านั้น

 

พวกเขาไม่ต้องการให้ฟางหยวนเสี่ยง หากฟางหยวนตาย มิติช่องว่างจักรพรรดิ์จะถูกเปิดเผยพวกเขาจะมีอันตราย

 

แต่สิ่งนี้จะเป็นไปได้อย่างไร?

 

ฟางหยวนไล่ล่าชีวิตนิรันดร์ เป้าหมายนี้จะเป็นไปได้หลังจากทําลายวิญญาณชะตากรรมเท่านั้นหากวังสวรรค์ประสบความสําเร็จในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม พวกเขาจะไม่ปล่อยฟางหยวนไปและจะฆ่าเขาในวันหนึ่ง

 

การซ่อนตัวและหยุดชะงักจะนําไปสู่ความสิ้นหวัง มีเพียงช่วงเวลาของการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่ภาคกลางถูกโจมตีโดยอีกสีภูมิภาคเท่านั้นที่เขาจะมีโอกาสประสบความสําเร็จ

 

ความปรารถนาของเผ่ามนุษย์หินจะไม่เป็นจริง ไม่เพียงเท่านั้นแต่พวกเขายังต้องต่อสู้เพื่อฟางหยวนในอนาคต พวกเขาถูกผูกติดอยู่กับฟางหยวนแล้ว พวกเขาไม่สามารถแยกตัวออกไป

 

แท้จริงแล้วคํากล่าวของชื่อเฉิงเป็นความคิดของผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินทั้งหมด เขาเป็นเพียงตัวแทนกล่าวมันออกมาเท่านั้น

 

นี่เป็นกลยุทธ์ทางการเมือง

 

ฟางหยวนไม่ปฏิเสธและไม่ตอบรับ เขาโบกมือ “นําทุกคนออกจากภูเขาลูกนี้”

 

“ทราบแล้ว”

 

เมื่อเห็นชื่อเฉิงนํากลุ่มมนุษย์หินเดินห่างออกไป ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนเริ่มกระตุ้นการทํางานของค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ทันใดนั้นอุณหภูมิบนภูเขาพลันพุ่งสูงขึ้น ต่อมาเปลวไฟก็ปะทุขึ้นบนยอดเขาพร้อมกับลาวาที่ไหลลงมาจากยอดเขา

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินที่เฝ้ามองจากระยะไกลอ้าปากค้าง นี่เป็นการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง

 

หัวใจของชื่อเฉิงสั่นไหวเช่นกัน

 

แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าเกิดขึ้นหลังจากนี้

 

มือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า มันใหญ่โตพอๆกับภูเขา เมื่อนิ้วทั้งห้ากางออก ต้นไม้จํานวนนับไม่ถ้วนก็ถูกโยนลงไปยังภูเขาไฟ

 

พวกมันถูกปลูกลงในลาวา ต้นไม้เหล่านี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกมันส่องแสงออกมาราวกับดวงอาทิตย์

 

มันคือต้นไม้แสง!

 

ครูต่อมา มือขนาดใหญ่ก็ส่งวิหคเพลิงจํานวนมากลงไปยังภูเขาไฟ

 

กระบวนการทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของฟางหยวน ไม่มีเหตุร้ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

 

ชื่อเฉิงอ้าปากค้าง เขามองฉากเหล่านี้ด้วยความตกตะลึง

 

แม้เขาจะรู้ว่าฟางหยวนก้าวเข้าสู่ระดับแปดแล้ว แต่เขายังไม่รู้สึกตกใจเท่ากับการได้เห็นความอัศจรรย์ด้วยตาของตนเอง

 

มีวิหคเพลิงบรรพกาลหลายตัวอยู่ท่ามกลางฝูงวิหคเพลิง วิหคเพลิงบรรพกาลเพียงตัวเดียวก็สามารถสังหารชื่อเฉิงได้อย่างไม่มีปัญหา

 

สุดท้ายฟางหยวนยังทิ้งฝูงนกทุกชนิดบนเส้นทางแห่งไฟเอาไว้บนภูเขา

 

“จากนี้ไปเรียกมันว่าภูเขาวิหคเพลิง มันจะเป็นแหล่งทรัพยากรของเผ่ามนุษย์หินของพวกเจ้า” ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลากล่าวกับชื่อเฉิง

 

ชื่อเฉิงรีบคุกเข่าลงขอบคุณด้วยความตื่นเต้น

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลายิ้ม “ลุกขึ้น ข้าเคยกล่าวไว้แล้วว่าจะช่วยพวกเจ้า แหล่งทรัพยากรขนาดกลางนี้เป็นรางวัลสําหรับการทํางานหนักของพวกเจ้าในการสร้างภูเขา”

 

“ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นี้รู้สึกละอายใจนัก” ชื่อเฉิงรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เปรียบเทียบกับภูเขาวิหคเพลิงการทํางานหนักที่พวกเขาทุ่มเทไม่ถือว่ามีนัยสําคัญแม้แต่น้อย

 

วิญญาณและทรัพยากรทั้งหมดที่ใช้สร้างภูเขาวิหคเพลิงล้วนมาจากฟางหยวน นี่คล้ายกับการมอบของขวัญให้กับพวกเขา

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลากล่าวเสริม “ข้าจะมอบภารกิจให้กับพวกเจ้าอีกในอนาคตภูเขาวิหคเพลิงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย”

 

ชื่อเฉิงมีนงง คํากล่าวของฟางหยวนมีความหมายลึกซึ้ง

 

ต้นไม้แสงและวิหคเพลิงเหล่านี้มาจากที่ใด?

 

เขาปล้นมันมา

 

ฟางหยวนกล่าวว่าภูเขาวิหคเพลิงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย นี่หมายความว่าเขาจะปล้นและเสี่ยงต่อไป!

 

ชื่อเฉิงไม่กล้าโต้แย้ง เขายังรู้สึกยินดีเล็กน้อยหลังจากได้รับของขวัญชิ้นนี้

 

“ด้วยภูเขาวิหคเพลิง เผ่ามนุษย์หินของข้าจะสามารถลุกขึ้น!”

 

“ปัญหาของท่านฟางหยวนไม่ใช่ปัญหาของข้า ท่านฟางหยวนมอบหมายหน้าที่ผู้นําเผ่าให้ข้าทรัพยากรเหล่านี้เป็นทรัพยากรในการบ่มเพาะของข้าเช่นกัน ตราบเท่าที่ไม่มีสิ่งใดผิดพลาดข้าจะสามารถยกระดับการบ่มเพาะได้อย่างแน่นอน!” ชื่อเฉิงรู้สึกเร้าร้อน

 

เนื่องจากกลยุทธ์ทางการเมืองของฟางหยวน ชื่อเฉิงจึงถูกแยกออกจากกลุ่มผู้อมตะ เผ่ามนุษย์หินคนอื่นๆ

 

ภูเขาวิหคเพลิงเหมาะสมกับเผ่ามนุษย์หิน พวกเขาสามารถนอนพักอยู่ที่นี่

 

ฟางหยวนคิด ต่างจากชีวิตก่อนหน้า คราวนี้ข้ารับมนุษย์กลายพันธุ์จํานวนมากเข้ามา ข้าต้องเลี้ยงดูและสนับสนุนพวกเขา ข้าต้องให้ความสนใจและมอบแหล่งทรัพยากรให้กับพวกเขา

 

ฟางหยวนสามารถใช้วิธีบนเส้นทางแห่งทาสเพื่อปราบปรามเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ แต่ในกรณีนั้นเขาจะสูญเสียโอกาสในการเลี้ยงดูพวกเขา

 

“ข้าต้องการทําความเข้าใจเส้นทางมนุษย์ มันไม่เหมือนเส้นทางแห่งทาส ทุกคนมีความคิดและความปรารถนาของตนเอง เพื่อรักษาองค์กร ข้าต้องพิจารณาความคิดและอารมณ์ของสมาชิกไม่มีบุคคลสองคนที่เหมือนกันอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าพวกเขาจะคล้ายกันมากเพียงใดผู้คนก็ยังแตกต่างกันไปในเส้นทางของแต่ละคน…ดือ?”

 

ทันใดนั้นแรงบันดาลใจบางอย่างพลันพุ่งผ่านจิตใจของฟางหยวนราวกับสายฟ้า

 

มันคือความเข้าใจบนเส้นทางมนุษย์

 

ฟางหยวนแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อน เส้นทางมนุษย์…เป็นเช่นนี้ ข้ามีท่าไม้ตายบนเส้นทางมนุษย์มาตลอด

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ความสําเร็จบนเส้นทางมนุษย์ของฟางหยวนก้าวเข้าสู่ระดับผู้เชี่ยวชาญ

 

ผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางมนุษย์!