บทที่ 667 แผนผัง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 667 แผนผัง
ในเวลาประมาณหนึ่งวินาที หลังจากเหมือนมีสิ่งของอะไรบางอย่างมาแทงเข้าที่หัวใจของเธอ ความกังวลใจและความรีบร้อนต่างๆที่มีก็หายเข้ากลีบเมฆไปหมดสิ้น เธอยกมือขึ้นและวางสายโทรศัพท์ลง!

ที่แท้ ก็เป็นเธอที่คิดมาไปเอง

ที่แท้ ก็เป็นเธออีกที่ยุ่งวุ่นวาย!

เขาสามารถที่จะบล็อกเบอร์ของเธอได้ จากนั้นมายืนถามอยู่ข้างเลขาคนนี้ด้วยอารมณ์โมโหว่าเขาโทรคุยกับใคร เส้นประสาทเส้นไหนของเธอผิดปกติกันแน่? ถึงได้โง่เง่าคิดว่าเขาจะตกอยู่ในอันตราย?

เส้นหมี่เกลียดถึงขีดสุด ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองไปหนึ่งฉาด!

แต่ เธอยังไม่รู้ โทรศัพท์มาครั้งนี้ อันที่จริงตอนที่เธอเพิ่งจะกดวางสาย โทรศัพท์อีกฝั่งหนึ่ง แสนรักที่เพิ่งจะเย็บบาดแผลเสร็จ ก็ล้มตึงกลับลงบนเตียงอย่างจัง

แม้แต่จะหายใจก็ไม่ออก

“ท่านประธาน ผม….”

“นาย … นายจำเอาไว้ ต่อไปนี้ อย่ารับ….สายโทรศัพท์จากเธอ!!”

ผู้ชายที่เหงื่อท่วมศีรษะ เหมือนกับเพิ่งถูกดึงขึ้นมาจากในน้ำ จ้องมองผู้ช่วยคนนี้และกัดฟันกรอด และด่าออกมาทีละคำทีละคำ

เคมีรีบรับปากทันทีด้วยน้ำตาคลอเบ้า

จากนั้นไม่กี่นาที ดลธีก็เข้ามา

“ท่านประธาน วุฒิพลเขาไม่ปล่อยพวกเราเอาไว้แน่ ท่านฆ่าม็อกกาลูกชายของเขา เขาจะต้องมาจัดการจนที่นี่ราบเป็นหน้ากลองแน่ ๆ ผมเดาว่า ครั้งนี้ที่มาเป็นเพียงแค่….คนมาดูลาดเลาแค่นั้น”

ดลธีมองไปที่ Boss ผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังนอนอยู่นั้นที่แม้แต่แรงจะเงยหน้าก็แทบไม่มี ในใจรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก

เขาคาดเดาได้ว่าสงครามครั้งนี้สู้รบได้ยาก

แต่ ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ นี่เพียงแค่สามวัน ดราก้อน แชนท์ของพวกเขาก็ได้รับความสูญเสียมากขนาดนี้แล้ว แม้แต่เจ้านายคนนี้ของเขา ก็ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องนอนอยู่ที่นี่

“ไม่เป็นไร เพียงแค่กาวินไปถึงเมืองหลวง ก็ไม่มีอะไรแล้ว”

ผู้ชายคนนี้นอนพูดอยู่ตรงนั้น ทั้งๆที่ได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนั้นแล้ว แต่ ในเวลานี้ ตรงริมมุมปากขาวซีดของเขา กลับมองเห็นเป็นรอยยิ้มเลือดเย็นราวกับสัตว์ป่าดุร้าย

ดลธีเห็นเข้า ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชาหนังศีรษะ

การแสดงออกทางสีหน้าเช่นนี้ มันช่างน่ากลัวจริงๆ

ตั้งแต่สามวันก่อนที่กาวินออกเดินทาง พวกเขาก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาพาสิ่งของอะไรไปด้วย?

แต่ ในช่วงสามวันมานี้ เจ้านายหนุ่มผู้อยู่ตรงหน้าคนนี้ กลับดูนิ่งสงบเกินกว่าปกติอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับวันนั้นในออฟฟิศหลังจากที่เขาฆ่าม็อกกาแล้ว เรียกพวกเขาเข้าไปเก็บศพอย่างเรียบเฉย ไม่มีความตื่นกลัวแม้แต่น้อย บอกให้พวกเขานำใส่กระสอบขนออกไป เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ชั้นบนสุด ช่วงบ่ายก็ยังคงไปทำงานทั้งครึ่งวันบ่าย

คนอย่างนี้ ช่างน่ากลัวมากจริงๆ

เพราะว่า ใครก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าในใจลึกๆเขากำลังคิดอะไรอยู่ แน่นอนว่า ก็อย่าหวังว่าเขาจะพูดออกมาให้คุณฟัง

หรือว่า เขาต้องการให้กาวินตรงไปบ้านตระกูลเทวเทพเพื่อลอบฆ่าชายแก่คนนั้นเหรอ?

ไอ้หยา!

จู่ ๆ ดลธีก็เกิดความคิดอันน่าตกใจอย่างมากนี้ออกมา คิดแล้วนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย

เคมี : “นายทำอะไร?”

ดลธีกลืนน้ำลายเฮือก ได้สติตื่นตัวขึ้นมา รู้สึกว่าความคิดนี้เหลวไหลจริงๆ ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง จึงค่อยๆ คายคำพูดออกมาสองสามคำอย่างช้าๆ ว่า : “ไม่มีอะไร…”

“ในเมื่อไม่มีอะไร งั้นก็ดี พวกเราออกไปกันเถอะ ให้ท่านประธานได้พักผ่อน ฉันยังต้องกลับไปบริษัทอีก”

เคมีพึมพำหนึ่งประโยค จากนั้นก็เดินออกมาจากในห้อง

——

หิรัญชากรุ๊ป

หลังจากที่เคมีกลับมาถึงแล้ว ก็คิดอยากจะไปหาผู้ถือหุ้นคนเก่าๆ สองสามคนนั้นก่อน ซึ่งจากสถานการณ์ในตอนนี้ คาดว่าท่านประธานคงจะมาบริษัทไม่ได้อีกสองสามวัน จึงต้องให้พวกเขาทำหน้าที่แทนไปก่อน

แต่ทันใดนั้น เขาเห็นคนคนหนึ่งที่หน้าประตูทางเข้าตึก

“คุณคณาธิป? ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ?”

เขาแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อมองไปที่ผู้ชายที่ยืนใส่แว่นตาอยู่ตรงประตูทางเข้า แต่ไม่ว่าจะเป็นสภาพทางจิตใจหรือรูปลักษณ์นั้นต่างกับเมื่อก่อนมาก เขาจึงหยุดชะงักลง

เขาแปลกใจจริงๆ เพราะว่าหลังจากที่เนติถูกจับกุมตัว ทางเจแปนก็ไม่มีข่าวคราวใดๆอีกเลย

เขายังคิดว่า คนคนนี้ก็ถูกจับกุมไปพร้อมกับแม่ของเขาด้วย

“แสนรักล่ะ?”

คณาธิปกลับไม่ตอบคำถามนี้ ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ เพียงแค่จ้องไปที่เคมีแล้วถามประโยคนี้ขึ้นมา

เคมีหัวเราะ : “ทำไมผมต้องบอกคุณล่ะ?”

จากนั้น เขาก้าวเท้าเดินจากไป

“คุณรอผมก่อน” คณาธิปราวกับว่าเสียสติไปแล้ว รีบยื่นมือไปจับเขาไว้ทันที!

“คุณบอกแสนรักว่า ผมมาหาเขา ไม่ใช่มาเพื่อแก้แค้น ผมแค่มาเพื่อให้เขาปล่อยแม่ของผม ถ้าหากเขาตกลง ผมสามารถนำซาจาทั้งหมดมาให้กับเขาได้!”

ผู้ชายคนนี้ คว้าเคมีไว้แน่น พร้อมเสนอข้อเสนอที่ยากจะเชื่อได้นี้ออกมา

เคมีตกตะลึง

เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า? เพื่อแม่แบบนี้ คุ้มค่าเหรอ? เขารู้หรือไม่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของตัวหล่อนเอง แม้แต่ลูกชายแท้ๆคนนี้ก็หักหลังไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง?

เคมีไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง

แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่ได้หัวเราะเยาะเขาอีก แต่หลังจากที่ยื้อดึงแขนหลุดออกมาจากมือของเขาแล้ว เขาก็มองเขาอย่างเรียบเฉย

“คุณกลับไปเถอะ ท่านประธานของพวกเราไม่เคยสนใจซาจาของคุณอยู่แล้ว ที่เขาต้องการ ก็เพียงแค่ชีวิตของคนที่ฆ่าคุณท่านของพวกเรามาชดใช้เท่านั้น”

จากนั้น เคมีก็เดินเข้าไป

ทิ้งไว้เพียงแค่ชายคนนี้ให้ยืนมึนงงอยู่ตรงนั้น เวลาผ่านไปนานมาก เขาไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหวใดๆ

อันที่จริงทำไมเขาจะไม่รู้ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะให้เขาช่วยชีวิตเธอ

เธอทำเรื่องเลวร้ายไว้กับเขามากมาย เธอบอกว่าทำเพื่อหวังดีต่อเขา แต่ ทุกเรื่องที่เธอทำนั้น กลับเห็นเขาแค่หมากที่ไม่ต่างอะไรกับหมากตัวอื่นๆของเธอ