บทที่ 666 เขา...เป็นอะไร

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 666 เขา…เป็นอะไร?
เธอยังไม่ได้บอกเขา อันที่จริงลูกสาวของเขาหย่ากันเรียบร้อยแล้ว

หลายวันมานี้ เพราะว่าเขาเพิ่งจะฟื้นร่างกายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เธอกลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้ว ทันทีที่จิตใจเขาได้รับกระทบกระเทือนจนทนไม่ไหวก็ยิ่งยุ่งไปใหญ่

“ถามแล้ว เขาบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว นี่ล้วนแต่เป็นฝีมือของเนติผู้หญิงคนนั้น เขาคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้ก็ได้ให้เจแปนทางนั้นจับกุมตัวเธอไว้แล้ว พ่อไม่ต้องเป็นห่วง”

เธอทำได้เพียงแค่ปลอบเขา โดยบอกข้อมูลที่เพิ่งได้รู้มาเมื่อตอนหัวค่ำของวันนี้

ดิลกได้ยิน ก็ค่อยรู้สึกโล่งอก

“งั้นก็ดี ผู้หญิงคนนี้ทำให้พ่อคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีจิตใจชั่วร้ายขนาดนี้ สมัยตอนที่พ่อไปมาหาสู่กับแม่ของลูก ก็ไม่เคยเห็นว่าจะเป็นคนอย่างนี้มาก่อนเลย”

พอเขาเอ่ยถึงผู้หญิงคนนี้ ก็มีความโกรธมาก

เส้นหมี่ยืนหัวเราะเยาะอยู่ด้านหลัง : “มีอะไรน่าแปลกใจเหรอคะ? พ่อกับแม่ต่างก็เป็นคนจิตใจดี แน่นอนว่าถูกผู้หญิงใจไม้ไส้ระกำคนนี้หลอกเอาได้ง่ายๆ แม้แต่คุณธนากรหล่อนก็ทำให้หลงเสน่ห์ แล้วพ่อกับแม่ล่ะ?”

ดิลก : “……”

ท้ายที่สุดก็ไม่อยากพูดถึงหัวข้อแย่ๆ ที่ทำให้ไม่สบายใจอีก เขาหยิบผลไม้ที่หั่นไว้อยู่ข้างๆขึ้นมา แล้วก็ค่อยๆ กินอย่างช้าๆ

เส้นหมี่เห็นเข้า ก็รีบลุกขึ้นไปห้องน้ำเติมน้ำร้อนหนึ่งกะละมัง เพื่อเตรียมไว้ให้เขาล้างมือและเท้า

“ใช่แล้ว ในเมื่อหล่อนคิดจะเปิดเผยว่ารักเป็นลูกเมียเก็บของธนากร งั้นหล่อนก็ได้นำหนูนามาเปิดเผยด้วยไหม?” ทันใดนั้น ดิลกที่อยู่ด้านนอกก็ถามประโยคนี้ขึ้นมา

เส้นหมี่ที่กำลังเติมน้ำอยู่ด้านใน ได้ฟังประโยคนี้แล้ว จึงตอบกลับว่า : “ใช่ค่ะ ทำไมล่ะ?”

ดิลก : “งั้นแย่แล้ว หนูนาคือภรรยาของผ.บ.ขุนนาย นี่คือเรื่องที่ตระกูลเทวเทพต่างรู้กัน ผู้หญิงคนนี้จู่ ๆ เปิดเผยมาว่ารักเป็นลูกของหนูนา งั้น….”

“เพล้ง——”

เพียงแค่ประโยคนี้ ในห้องน้ำ เส้นหมี่ที่เพิ่งจะเติมน้ำเต็มเตรียมจะถือขึ้นมา กะละมังน้ำก็คว่ำลงบนพื้นอย่างจัง

ใช่สิ ทำไมเธอนึกไม่ถึงล่ะ?

ผู้หญิงคนนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทำให้ผู้ชายคนนั้นดูกลายเป็นลูกเมียเก็บของคุณท่านกมลภพกับน้องภรรยา แต่ ในโลกใบนี้ นอกจากพวกเขาเพียงไม่กี่คนรู้เรื่องนี้ดี ว่านี่ไม่ใช่ความจริง

ยังมีตระกูลเทวเทพอีก ก็รู้เรื่องนี้!

ภารานินไม่มีทางแอบมีความสัมพันธ์กับพี่เขยของตนเอง เธอคือภรรยาของขุนนาย ตอนนั้นก็กำลังตั้งท้องอยู่!

ในที่สุดเส้นหมี่ก็ได้สติขึ้นมา ทันทีที่เกิดเสียง “วิ้ง” ขึ้นในสมองแล้ว ก็เหมือนกับโดนน้ำเย็นหนึ่งกะละมังสาดลงตั้งแต่ศีรษะลงมา แม้แต่กระดูกของเธอก็รู้สึกเย็นยะเยือก

“หมี่? หมี่?”

ดิลกได้ยินเสียงผิดปกติข้างใน ก็รีบลุกขึ้นเข้าไปดู

แต่ในเวลานี้ จู่ ๆ เส้นหมี่ก็พุ่งออกมาจากด้านใน : “พ่อ คือ….หนูจู่ ๆ คิดขึ้นได้ว่ามีธุระ พ่อกินก่อนนะ หนูออกไปสักครู่”

หน้าเธอขาวซีด ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เธอก็ตื่นตระหนกจนไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้

ดิลกมองดูเธอ

บางที เขาอาจจะไม่เข้าใจสถานการณ์ของเธอตอนนี้เป็นอย่างไร แต่ พ่อเข้าใจลูกสาวตัวเองดีที่สุด ความวิตกกังวลของเธอ ความกังวลใจของเธอ ยังมีความหวาดกลัวลึกๆในใจของเธอ…….

เขารู้สึกได้ทั้งหมด

“ได้ ลูกไปเถอะ ระวังตัวด้วยนะ”

“อืม”

เส้นหมี่ราวกับถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ รีบวิ่งออกไปจากห้องผู้ป่วยในทันที

เธอสมควรตายจริงๆ ทำไมตอนบ่ายเธอถึงได้ละเลยข้อมูลสำคัญส่วนนี้ไปได้ล่ะ?

ถ้าหากพูดว่าตระกูลเทวเทพรู้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นก็คือลูกของภารานิน ถ้าอย่างนั้น ความเป็นไปได้ที่สุด ก็คือตอนนี้ไปหาเขาแล้ว แล้วหลังจากที่หาเขาเจอแล้ว จะเป็นอย่างไร?

ฆ่าเขาทิ้ง?

หรือว่าพาตัวเข้ากลับไปตระกูลเทวเทพ?

เธอขับรถไป และวิ่งอย่างรวดเร็วไปตามท้องถนน ในสมองของเธอ กลับไม่กล้าที่จะไปคิดถึงเรื่องนี้

เพราะว่า เธอค้นพบว่า ถึงแม้พวกเขาหย่าร้างกันแล้ว ตอนที่เธอจากมา ถูกเขาทำร้ายมาขนาดนั้น แต่ เมื่อเธอได้ยินข่าวนี้ ก็ยังคงตื่นตระหนก และหวาดกลัวอย่างควบคุมไม่ได้

เส้นหมี่ขับรถมาถึงบ้านแล้ว จากนั้นรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปยังในประเทศอย่างรวดเร็ว

“ฮัลโหล?”

“ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกกำลังติดสายหนึ่งอยู่….”

ในสายโทรศัพท์ มีเสียงอันเย็นชาและระบบหุ่นยนต์ดังขึ้น เส้นหมี่ได้ยินถึงกับหน้าถอดสีเป็นสีขาว

นี่คือถูกบล็อกเบอร์แล้วเหรอ?

ยอมใจเลยจริงๆ พอหย่ากัน ไม่กี่วันที่เธอมาที่นี่ ไม่มีแม้แต่คำทักทายก็ช่างเถอะ แต่นี่กลับบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของเธอไปแล้ว

เส้นหมี่อดกลั้นความโกรธภายในใจไว้ รีบหาเบอร์โทรศัพท์อีกเบอร์และกดโทรออกไป

“ตู๊ด….ตู๊ดตู๊ด……..”

โชคดี คราวนี้ โทรติดแล้ว

“ฮัลโหล? คุณนาย? ทำไมคุณโทรมาล่ะครับ?” ในสายโทรศัพท์ เคมีผู้ซึ่งกดปุ่มรับสายยืนมองหมายเลขโทรศัพท์สายเข้านี้ แปลกใจเป็นอย่างมาก ในความคลุมเครือนี้ เหมือนจะได้ยินถึงความตื่นตระหนกบ้างเล็กน้อย

ตื่นตระหนก?

เส้นหมี่รู้สึกและจับได้แล้ว เธอก็รีบถามขึ้นมาทันที : “ฉันเห็นข่าวแล้ว พวกคุณทางนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เขา… ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

ตอนที่เธอเอ่ยถึงคนคนนั้น น้ำเสียงก็หยุดชะงักไป

เคมีรีบส่ายหัวปฏิเสธ

“ไม่มีอะไรไม่มีอะไร คุณนายไม่ต้องเป็นห่วงครับ ท่านประธานของพวกเราสบายดีครับ เมื่อสักครู่เพิ่งจะประชุมเสร็จครับ”

“จริงเหรอ?”

เส้นหมี่ไม่ค่อยจะเชื่อ

แต่ในเวลานี้ จู่ ๆ ก็มีเสียงใจร้อนมากดังผ่านในสายโทรศัพท์มา : “เคมี นายทำอะไรอยู่? ใครบอกให้นายออกไปโทรศัพท์? ไม่ต้องทำแล้วเหรอ?”

เคมี : “……..”

เส้นหมี่ : “……..”