คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1187

ในที่สุดซอว์เยอร์ก็ได้พบเจ้าหญิงอีเวตต์ เขาทำภารกิจของเขาสำเร็จแล้ว

“ถอยออกไป!”

อีเวตต์ตะโกนขึ้นอย่างเย็นชา “ถ้าคุณยังเข้ามาใกล้ ฉันจะฆ่าตัวตายทันที”

ในขณะที่พูดเช่นนั้น อีเวตต์ก็ดึงดาบยาวของเธอออกมาและยกขึ้นจ่อที่คอของตัวเอง

เอ่อ…

ซอว์เยอร์รู้สึกตื่นตระหนก ดังนั้นเขาจึงหยุดอยู่กับที่ทันที เขามองไปที่อีเวตต์และพูดขึ้นว่า “อย่าทำเช่นนั้นเลยเจ้าหญิง ผมเป็นว่าที่สามีของคุณ อย่าพยายามข่มขู่ผมเลย”

อีเว็ตต์ทั้งโกรธและอายเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น เธอจึงพูดห้วน ๆ ว่า “ใครบอกว่าคุณเป็นว่าที่สามีของฉัน อย่าบังอาจพูดเช่นนั้นอีก!”

“ก็ได้! ก็ได้! ผมจะไม่พูดอีก!”

ซอว์เยอร์ยกมือขึ้นเพื่อเกลี้ยกล่อมอีเวตต์และพูดต่อยังอดทนว่า “เจ้าหญิงคุณเดินทางเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ตามผมกลับไปที่วังเถอะ ตอนนี้ทั้งจักรพรรดิและจักรพรรดินีต่างก็รู้สึกเป็นกังวลยิ่งนัก”

อีเวตต์จ้องหน้าเขาอย่างเย็นชาและไม่ได้พูดอะไร เธอกำลังพยายามจะหลบหนี

ซอว์เยอร์กล่าวต่อว่า “เจ้าหญิง ฝ่าบาทได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะไว้ชีวิตเด็กคนนั้น”

‘อะไรนะ? พ่อของเธอยอมไว้ชีวิตแอมโบรสอย่างนั้นเหรอ?’

อีเวตต์จ้องมองซอว์เยอร์อย่างตกตะลึงขณะถามเขาว่า “เป็นไปได้ยังไง?”

“ก่อนหน้านี้ ผมไปพบจักรพรรดิเป็นการส่วนตัวและขอร้องให้เขาไว้ชีวิตเด็กคนนี้ ”ซอว์เยอร์พูด พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “จนในที่สุดจักรพรรดิก็ยอมไว้ชีวิตเขา ผมรู้ว่าคุณอาจจะดูถูกผม แต่ผมก็ยังเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อคุณ!”

อีเวตต์ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะถามเขาว่า “ท่านพ่อต้องการทำยังไงกับแอมโบรสต่อไป?”

ซอว์เยอร์เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “จักรพรรดิตัดสินใจที่จะไว้ชีวิตเขา แต่เขาต้องการส่งแอมโบรสไปยังค่ายทหารเพื่อทำงานหนัก!”

สิ่งที่ซอว์เยอร์พูดนั้นเป็นความจริง เจ้าหญิงอีเวตต์เป็นลูกสาวคนโปรดของจักรพรรดิ ดังนั้นเขาจึงเป็นห่วงเธอมาก และเพื่อต้องการให้ลูกสาวของเขากลับมา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไว้ชีวิตแอมโบรส แต่จักรพรรดิจะส่งเขาไปทำงานหนักในค่ายทหาร

‘อะไรนะ? ส่งเขาไปที่ค่ายทหารและต้องทำงานหนักงั้นเหรอ? แต่แอมโบรสอายุเพียงสองขวบเท่านั้น’

สีหน้าของอีเวตต์เปลี่ยนไปทันที เธอรู้สึกสั่นสะท้านขณะที่เธอกอดแอมโบรสเอาไว้ในอ้อมแขนแน่น

ซอว์เยอร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด เขาสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของอีเวตต์ จากนั้นเขาก็เหลือบมองดูเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอก่อนจะพูดขึ้นว่า “เจ้าหญิง การส่งแอมโบรสไปทำงานหนักที่ค่ายทหารเป็นสิ่งที่จักรพรรดิจะยอมจำนวนมากที่สุด ได้โปรดกลับไปกับผมเถอะ”

จากนั้นซอว์เยอร์ก็พูดต่อว่า “ดูเหมือนว่าเขากำลังป่วยหนัก หากคุณยังวิ่งหนีต่อไปเช่นนี้มีแต่จะทำให้อาการของเขาแย่ลงเท่านั้น ทำไมคุณไม่ตามผมกลับไปที่วังและผมจะรีบตามหมอมารักษาเขาทันที เมื่อเขาหายดีแล้วเราค่อยส่งเข้าไปที่ค่ายทหารในภายหลัง”

“แต่…” อีเว็ตต์ยังคงรู้สึกเป็นกังวล เธอพูดขึ้นว่า “แต่ว่าเขายังเด็กมากแล้วเขาจะรับมือกับการอยู่ในค่ายทหารเพื่อทำงานหนักได้ยังไง?”

“เจ้าหญิง” ซอว์เยอร์เองก็รู้สึกเป็นกระวนกระวายมากเช่นกัน เขายิ้มอย่างขมขื่นและปลอบโยนเธอเบา ๆ “ถึงแม้ว่าการอยู่ในค่ายทหารจะยากลำบาก แต่อย่างน้อยคุณก็ได้ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้แล้ว”

ใช่ อย่างน้อยแอมโบรสก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพราะเขาอาจจะตายได้ถ้าหากว่าเธอยังคงดื้อรันพาเขาหนีไปต่อไป

มีเพียงหมอประจำวังเท่านั้นที่จะสามารถช่วยชีวิตของเขาได้ในตอนนี้

อีเว็ตต์กัดริมฝีปากแน่นจนเลือดแทบจะไหล จากนั้นเธอก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ก็ได้! ฉันจะตามคุณกลับวัง”

‘ฮ่าฮ่า! ในที่สุดเจ้าหญิงอีเวตต์ก็ยอมใจอ่อน!’

ซอว์เยอร์หันหลังกลับและตะโกนสั่งกองทัพของเขาอย่างรู้สึกยินดี “รีบพาเจ้าหญิงกลับไปที่วัง!”

จากนั้นทหารหลายสิบนายก็เข้ามาพาอีเวตต์และแอมโบรสกลับเข้าไปในวัง

เมื่อพวกเขามาถึงยังพระราชวัง ซอว์เยอร์ก็รีบไปเรียกหมอเพื่อให้มารักษาอาการป่วยของแอมโบรสทันที

อีเวตต์กัดริมฝีปากแน่น เธอไม่เต็มใจให้หมอนำตัวแอมโบรสออกไป แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ทำอะไรไม่ได้

‘ฉันขอโทษจริง ๆ นะแอมโบรสที่ฉันไม่สามารถปกป้องเธอได้ แต่อย่างน้อยฉันก็ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ได้ เมื่อเธอหายดีและถูกส่งตัวไปยังค่ายทหารฉันจะไปเยี่ยมเธอบ่อย ๆ นะ’