คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1186

“อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะแอมโบรส! ฉันจะพาเธอไปหาหมอเอง!” อีเวตต์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้เห็นว่าเขามีไข้หนาวสั่นจนหมดสติ

อีเวตต์อุ้มแอมโบรสและเร่งฝีเท้าของเธอให้ไวมากยิ่งขึ้น!

ในตอนนี้เป็นเวลาเกือบตีหนึ่ง ดังนั้นทั่วทั้งเมืองหลวงจึงเงียบสงบและที่บนถนนก็ไร้วี่แววของผู้คน

เมื่อพวกเขามาถึงในเมืองหลวง อีเวตต์ก็ยกมือขึ้นทุบประตูของคลินิกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงด้วยเสียงอันดัง

ปัง! ปัง! ปัง!

อีเวตต์ตะโกนออกมาอย่างกระวนกระวาย “หมอ! มีใครอยู่ที่นี่หรือเปล่า? ช่วยเปิดประตูด้วย ได้โปรด มีเด็กกำลังหมดสติ!”

อีเวตต์ เหลือบมองดูแอมโบรสที่หมดสติไป เธอได้เห็นใบหน้าของเขาร้อนผ่าวและริมฝีปากของเขาก็แห้งแตกในขณะที่ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน

“เปิดประตู! มีใครอยู่ไหม? ช่วยเปิดประตูด้วย!” อีเวตต์ตะโกนขึ้นขณะที่เธอยังคงเคาะประตูอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากด้านใน

“อีเวตต์…”

ในเวลานั้น แอมโบรสตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียและพูดอย่างอ่อนแรงว่า “ผมทนไหว ไม่ต้องเป็นห่วงผม พวกเรารีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่ทหารองครักษ์จะตามมาเจอกันเถอะ”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนแรงของแอมโบรส อีเว็ตต์ก็รู้สึกเศร้าใจ เธอยกมือขึ้นแตะหน้าผากของเขา จากนั้นเธอก็สัมผัสได้ว่าเขาตัวร้อนมาก

เธอไม่ต้องการพูดอะไรอีกและรีบอุ้มแอมโบรสไปยังคลินิกอื่นทันที

อีเวตต์พยายามมองหาคลีนิกทุกคลินิกที่อยู่ในเมืองหลวงด้วยร่างที่เปียกโชกไปด้วยน้ำฝน

ในเวลานั้น อีเวตต์ที่กำลังอุ้มแอมโบรสอยู่ในอ้อมแขนเดินมาหยุดอยู่บนถนน ก่อนจะเหลือบมองไปยังพระราชวังที่อยู่ไม่ไกล หัวใจของเธอสั่นไหวจนไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้

หมอคนเดียวที่จะสามารถช่วยรักษาแอมโบรสได้ในเวลานี้ คือหมอที่อยู่ในพระราชวัง

อย่างไรก็ตาม อีเวตต์รู้ดีว่าพ่อของเธอจะต้องไม่ปล่อยแอมโบรสไปถ้าหากว่าเธอพาเขากลับไปที่นั่น และเขาก็จะต้องไม่ยอมให้แอมโบรสได้รับการรักษาอย่างแน่นอน

‘ฉันควรจะทำยังไง?’ ดวงตาของอีเวตต์แดงก่ำภายใต้ความวิตกกังวล เธอแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

“หนาว…หนาวมาก” แอมโบรสพึมพำเบา ๆ ดูเหมือนว่าตอนนี้สถานการณ์จะเริ่มแย่ลง

วินาทีต่อมา ขณะที่เขาอยู่ในอ้อมแขนของอีเวตต์ แอมโบรสก็ละเมอออกมาเบา ๆ ว่า “ผมหนาวจังเลยครับคุณแม่ เมื่อไหร่เราจะได้กลับไปที่จักรวาลโลก? คุณแม่สัญญาว่าจะพาผมไปในสถานที่สนุก ๆ เหล่านั้น…”

แอมโบรสมีอาการคลุ้มคลั่งเพราะมีไข้ขึ้นสูง เขาจึงเข้าใจผิดคิดว่าอีเวตต์เป็นโมนิก้าแม่ของเขา

อีเว็ตต์ปลอบโยนแอมโบรสอย่างอ่อนโยน “อดทนเอาไว้ก่อนนะแอมโบรส ฉันสัญญาว่าฉันจะพาเธอไปยังจักรวาลโลกเมื่อเธอหายดีแล้ว”

อีเวตต์รู้สึกสิ้นหวังเมื่อเธอมองไปยังทุกหนแห่งในเมืองหลวงแต่ก็ไม่เจอคลินิกที่ยังเปิดให้บริการอยู่เลย แล้วเธอจะไปหาหมอจากที่ไหนได้?

จิตใจของอีเวตต์ว่างเปล่าขณะที่ลมหนาวยามค่ำคืนพัดผ่านมาอย่างต่อเนื่อง เธอกอดแอมโบรสเอาไว้ในอ้อมแขนแน่น จากนั้นน้ำตาก็เริ่มไหลลงมา

‘แอมโบรส ขอโทษที่ฉันดูแลเธอไม่ได้’ อีเวตต์พึมพำอยู่ภายในใจอย่างรู้สึกผิด

“ฝ่าบาท!”

ทันใดนั้น เสียงใครบางคนก็ดังขึ้นจากไม่ไกล

อีเวตต์หันกลับไปมองด้วยร่างที่สั่นเทา จากนั้นใบหน้าที่งดงามของเธอก็มืดลงทันที

เธอมองเห็นทหารของกองทัพหลวงยืนห่างจากเธอเพียงไม่กี่สิบเมตร พวกเขาอยู่บนหลังม้าและกำลังเข้ามาใกล้เธอมากยิ่งขึ้น

เขาคือ ซอว์เยอร์ เยตส์ และกองทัพทหารของเขา

‘บัดซบ! ทหารกองทัพหลวงไม่หลับไม่นอนกันเลยหรือยังไง? ทำไมฉันจะต้องเจอพวกเขาในเวลาดึกดื่นเช่นนี้’ อีเวตต์ครุ่นคิดด้วยความตื่นตระหนก

ในเวลานั้น ม้าของซอว์เยอร์ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าอีเวตต์

ซอว์เยอร์รีบก้าวลงจากหลังม้าและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ฝ่าบาท ในที่สุดผมก็พบคุณ…”

ซอว์เยอร์รู้สึกปลาบปลื้มในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น