บทที่ 2697 เขาเปลี่ยนไปยังไง?
“เช่นนี้รึ?” ตี้เฮ่ากะพริบตา เก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาลอยขึ้นมา วนรอบตัวกวนย่าหนิงรอบหนึ่ง ซ้ำยังกระโดดโลดเต้นบิดวนไปมาเหมือนเลขแปดด้วย
กวนย่าหนิงตะลึงงัน
เอาเถอะ เห็นแบบนี้แล้วความสามารถพิเศษของท่านจอมพลบ้านเขาก็ไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้นแล้วล่ะ
ตี้เฮ่าไถลลงมาอยู่บนพื้นเสียเลย เขาตัวเตี้ย จึงให้ลู่อู๋หดร่างแล้วหมอบลงไปให้เขาขึ้นขี่
ลู่อู๋ทำตามความต้องการของตี้เฮ่า หดร่างให้มีขนาดเท่าลูกม้าน้อยตัวหนึ่ง คู้หมอบอยู่ข้างกายของกวนย่าหนิง เมื่อตี้เฮ่าขึ้นขี่หลังลู่อู๋แล้วก็อยู่ในระดับสายตาของเขาพอดี “แล้วจอมพลของบ้านเจ้ายังมีความสามารถอะไรอีก?”
กวนย่าหนิงหาใช่คนโง่งม เอ่ยออกไปอย่างระแวดระวัง “เจ้าหนูนี่นายกำลังหลอกถามข้อมูลท่านจอมพลของบ้านฉันสินะ!”
“ท่านจอมพลของบ้านเจ้า? เจ้าแน่ใจหรือ? หากว่าเขาเห็นเจ้าเป็นลูกน้องจริงๆ ทำไมถึงขับยานหนีไปคนเดียวล่ะ? ทิ้งพวกเจ้าไว้ข้างหลังทำไม?”
กวนย่าหนิงอึกอักแล้ว “…เขา…เขาไม่ได้หนีสักหน่อย เขาน่าจะมีธุระบางอย่าง…”
“ถ้ามีธุระทำไมไม่แจ้งพวกเจ้าล่ะ? ทำไมถึงไม่ยอมให้พวกเจ้าติดต่อได้ล่ะ? เขาคงทราบข่าวที่ท่านพ่อของข้ากลับมาแล้วแน่ๆ รู้ว่าสู้ไม่ได้ ดังนั้นเลยชิงหนีไปก่อน ทิ้งพวกเจ้าไว้รับเคราะห์ที่นั่น นายน้อยอย่างข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ จอมพลแบบนี้พวกเจ้าก็ยังติดตามเขามาได้ตั้งนาน แถมยังจงรักภักดีขนาดนี้อีก พวกเจ้าน่าจะติดตามเขามานานปีแล้วกระมัง? คนไร้ยางอายเช่นนี้ยังสามารถเป็นจอมพลของพวกเจ้ามาได้นานขนาดนี้ พวกเจ้าเสียหายหลายแสนจริงๆ…”
กวนย่าหนิงโมโหจนหน้าแดงแล้ว “เด็กน้อยอย่างนายจะไปรู้อะไร? เมื่อก่อนตวนมู่เหยี่ยนไม่ได้เป็นแบบนี้เลย!”
“โอ้ แล้วเมื่อก่อนเขาเป็นแบบไหนล่ะ? เปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เมื่อก่อนเขามีไมตรีจิตต่อเหล่าพี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมา เพื่อพี่น้องแล้วเขาสามารถปักมีดเข้าชายโครงสองข้างได้ ทุกคนมีสุราร่วมดื่ม มีเนื้อร่วมกิน ไหนเลยจะคาดว่าพอเขาเป็นลมล้มพับไปเมื่อสองเดือนก่อน ไม่ง่ายเลยกว่าเหล่าพี่น้องจะช่วยเขาฟื้นขึ้นมาได้ ตัวก็เขาเปลี่ยนไปเลย เหมือนมีภูตผีเข้าสิง ไม่ชอบมาพากล…” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ในใจของกวนย่าหนิงยังคงมีเพลิงโทสะอยู่
เขาต่อยแท่นควบคุมทีหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างหงุดหงิด
“เขาเปลี่ยนไปยังไง? เล่ารายละเอียดมา” น้ำเสียงกระจ่างดังสายลม มีเสน่ห์ดึงดูดเสมือนหยกสายหนึ่งแว่วขึ้นมา
กวนย่าหนิงเงียบลง เขาหันกลับไปตามสัญชาตญาณ มองเห็นเทพศักดิ์สิทธิ์หวงถูผู้นั้นที่ไม่รู้ว่าลืมตาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ดวงตาที่ราวกับดวงดาวอันหนาวเหน็บคู่นั้นร่อนลงบนร่างเขา
ทั้งสองสบตากันแวบหนึ่ง หัวใจกวนย่าหนิงพลันเต้นแรง ในสมองมีเสียงดังหึ่งๆ รู้สึกเพียงว่าโลหิตร้อนระอุพลุ่งพล่านขึ้นมา ความปรารถนาจะระบายความในใจล้นหลามท่วมท้น
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเริ่มเล่าออกมาอย่างหมดเปลือก…
ตี้เฮ่าถอยห่างออกไป ขี่เจ้าม้าน้อยถอยกลับไปอยู่ข้างกายตี้ฝูอี ปีนขึ้นไปบนตักเขา
ตี้ฝูอียื่นมืออุ้มเขาไว้ในอ้อมแขน ลูบหัวเขา เจตนาชมเชย
เขาหลงนึกว่าจอมพลผีสางอะไรนั้นเป็นคนในราชวงศ์ดาวจิ้งจอกคราม ใช้หลานไว่หูเพาะกู่แม่ลูกก็เพื่อสร้างเครื่องจักรสังหาร จะได้เคลื่อนไหวในทวีปนี้ได้สะดวกขึ้น
ต่อมาถูกกู้ซีจิ่วบีบคั้นจนได้แต่หลบหนีไป…
แต่พอได้ยินกวนย่าหนิงเล่าเช่นนี้ ดูเหมือนจะห่างไกลไม่ธรรมดาเช่นนี้แล้ว!
สังขารของตวนมู่เหยี่ยนคนนั้นน่าจะถูกคนสลับร่าง!
ตี้ฝูอีคาดเดาถึงข้อนี้แล้ว ย่อมต้องการสอบถามให้ชัดเจน
เขาคร้านจะใช้วาจาหลอกล่อ จึงใช้พลังจิตควบคุมความคิดของกวนย่าหนิงโดยตรงเลย ให้อีกฝ่ายเล่าความจริงทั้งหมดออกมา…
ความจริงแล้วตี้ฝูอีก็สามารถอ่านความทรงจำของกวนย่าหนิงได้ ศาสตร์อาคมแขนงนี้เขาก็ใช้เป็น เพียงแต่อาคมนี้สิ้นเปลืองพลังวิญญาณนัก เพื่อมายังทวีปซิงเยวี่ยแห่งนี้เขาสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงไปไม่น้อยแล้ว อีกทั้งยังทำการช่วยเหลือเยี่ยนเฉิน ช่วยเหลือหลานไว่หูอีก ตอนนี้เหนื่อยล้ามากจริงๆ ถ้าประหยัดแรงได้ย่อมต้องประหยัดแรงไว้
————————————————————————————-
บทที่ 2698 นี่จัดวางตัวหมากไว้มากแค่ไหนกันแน่
โชคดีที่ตอนนี้เขาใช้วิธีนี้ก็ได้ผลไม่เลวเช่นกัน ได้รับข้อมูลทุกอย่างที่เขาต้องแล้ว
ตี้เฮ่าซุกอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างว่าง่าย ริมฝีปากเล็กเผยอขึ้นนิดๆ พึงพอใจเสมือนจิ้งจอกน้อยที่เพิ่งกินไก่มาตัวหนึ่ง
เขาต้องการชดเชยจุดที่ขาดหายไปในวัยเยาว์ เขาต้องเสพสุขกับความรักของบิดาที่ยากจะได้รับมา ถึงอย่างไรเขาก็อยู่ในร่างของเด็กน้อยเยาว์วัย ไม่ว่าจะออดอ้อนอย่างไรทำตัวน่าเอ็นดูเช่นใดก็ไม่เสียบรรยากาศ…
เรื่องราวมากมายเปลี่ยนแปลงไปแล้ว! จุดจบสุดท้ายของท่านพ่อท่านแม่ก็น่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงแล้วกระมัง?
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นเพราะเขาสอดมือเข้าแทรกแซง ทำให้เส้นเรื่องราวเบี่ยงเบนไปมากมายแล้ว แต่ก็ทำให้เรื่องราวที่เดิมทีควรจะเกิดขึ้นในภายหลังเกิดขึ้นก่อนเวลา หรือทำให้เรื่องราวเดิมทีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยปรากฏขึ้นในยามนี้…
อย่างเช่นเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าท่านแม่ของเขาจะไล่ตามเทพผู้สร้างโลก นี่ช่างกล้าหาญชาญชัยยิ่ง!
ท่านแม่ของเขามีความสามารถนัก!
เพียงแต่ เรื่องพวกนี้เดิมทีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อถึงเวลาเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางไหนเขาก็ไม่ทราบเช่นกัน…
….
บนยานอวกาศลำนั้นของจอมพล กู้ซีจิ่วมองหลานไว่หูที่ร่อนออกมา ขมวดคิ้วนิดๆ
เธอย่อมทราบว่าอีกฝ่ายคือตัวปลอม บางทีสังขารอาจจะจริง แต่ไส้ในเป็นของปลอมแน่นอน
เธอนึกว่าอีกฝ่ายอยู่กับเยี่ยนเฉิน กลับนึกไม่ถึงว่า…
‘หลานไว่หู’ ยิ้มบางๆ รูปโฉมมิได้ใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนจิ้งจอกน้อยอีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนประการหนึ่ง “กู้ซีจิ่ว สบายดีหรือไม่?”
กู้ซีจิ่วหรี่ตาเล็กน้อย “อูอู๋เหยียน?!”
‘หลานไว่หู’ ผงะไปแวบหนึ่ง แย้มยิ้ม ครานี้เป็นรอยยิ้มเลื่อมใส “ช่างสมกับเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเทพศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ ไม่แน่เชื่อว่าจะจดจำข้าได้เร็วขนาดนี้”
ปีนั้นนางเคยครองร่างของกู้ซีจิ่วช่วยหลงฟั่นปองร้ายตี้ฝูอี กู้ซีจิ่วก็เคยปะทะกับนางอยู่หนเดียวเท่านั้น ถึงขั้นที่ไม่เคยพบตัวจริงของนางเลยด้วยซ้ำ ไม่นึกเลยว่าจะจดจำนางได้…
กู้ซีจิ่วพลันกำมืออยู่ในแขนเสื้อ มองพินิจนางเล็กน้อย “ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะยังขายชีวิตรับใช้เขาอยู่!”
หลงฟั่นคืออวตารของฟั่นเชียนซื่อ ตอนนั้นอูอู๋เหยียนรับใช้หลงฟั่น ตอนนี้ก็รับใช้ฟั่นเชียนซื่ออีก ภักดีต่อนายเดียว
อูอู๋เหยียนยิ้มน้อยๆ “แน่นอน อู๋เหยียนมีนายเพียงคนเดียว”
“เช่นนั้นโม่เจ้าล่ะ?”
“เขา…” อูอู๋เหยียนส่ายหน้า “เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของนายท่านแห่งข้าเท่านั้น”
แม้แต่โม่เจ้าก็เป็นตัวหมากของฟั่นเชียนซื่อ…
นี่ฟั่นเชียนซื่อจัดวางตัวหมากไว้มากแค่ไหนกันแน่?!
เมื่อก่อนเขาอยู่ข้างกายโม่เจ้าในฐานะลูกน้อง ทำงานไปตามคำสั่ง ดูไม่เหมือนตัวเขาเลย เพื่อให้ได้ร่างโคลนนิ่งที่เข้ากับตัวเธอกู้ซีจิ่วถึงได้ยอมกล้ำกลืนฝืนรับความอยุติธรรมงั้นหรือ?
เห็นได้ชัดว่ายามนั้นเขาลอบจัดวางทุกอย่างไว้แล้ว จากนั้นก็ผลักโม่เจ้าให้ออกมารับเคราะห์แทน…
เขาสิถึงจะเป็นบอสใหญ่ตัวจริง!
เขาจัดเตรียมทุกอย่างไว้ในทวีปซิงเยวี่ยตั้งแต่หมื่นปีก่อนแล้ว อย่างเช่นเกื้อหนุนโม่เจ้า ชักนำชาวดาวจิ้งจอกครามให้เดินทางมาก่อเกิดเป็นเผ่าจิ้งจอกคราม…
นี่เป็นการวางหมากไว้รอบตัวตี้ฝูอีชัดๆ!
คิดจะฉวยโอกาสที่ตี้ฝูอีหาประสบการณ์ชีวิตอยู่ในโลกเบื้องล่างปองร้ายเขา…
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตี้ฝูอีจะแข็งแกร่งมากพอ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้ฟื้นฟูความทรงจำและฐานะของเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ พลังยุทธ์น่าจะสู้เทพผู้สร้างตนนี้ไม่ได้ ฟั่นเชียนซื่อคิดจะฉวยโอกาสตอนที่เขาอยู่โลกเบื้องล่างเล่นงานเขาให้ตายก็ง่ายดายเหมือนพลิกฝ่ามือ เช่นนั้นเหตุใดเขาถึงไม่ลงมือตรงๆ ล่ะ? จะอ้อมเป็นวงใหญ่โตเช่นนี้ไปทำไม? วางแผนมานานขนาดนี้ทำไม?
ที่แท้แผนการสำคัญที่สุดของเขาคืออะไรกันแน่?
กู้ซีจิ่วเม้มปากนิดๆ ข้อมูลที่เธอได้รับมายังคงน้อยเกินไป ดังนั้นจึงคาดเดาออกเพียงว่าทุกอย่างที่ฟั่นเชียนซื่อกระทำล้วนพุ่งเป้าไปที่ตี้ฝูอีเท่านั้น ส่วนจุดสำคัญที่สุดเธอยังไม่สามารถสันนิษฐานออกมาได้…
เธอพินิจดูอูอู๋เหยียนอีกคราหนึ่ง หน้าท้องของนางป่องนิดๆ มิได้เอวบางอ้อนแอ้นแล้ว
————————————————————————————-