บทที่ 617 ความกังวลของหยางเฉิน

The king of War

ท่านถังเงียบลงในทันใด หลังจากนั้นไม่นานก็ได้พูดออกมา “ไม่ต้องห่วงหรอก เขาคงรู้แล้วว่าตระกูลเฉานั้นอยู่เบื้องหลังของคลับหวงจิน ในเมื่อจากไปก็คงต้องรู้แน่ชัดแล้วว่าเขาจะไม่มีทางมาทำอะไรในคลับหวงจินได้”

“เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็คงไม่วิ่งเข้าไปในคลับหวงจินเพื่อตามหานายอย่างแน่นอนและจะให้เขามาคอยเฝ้าดูตลอด24ชั่วโมงก็คงไม่ได้ ในคืนนี้พวกเราเองก็จะออกจากเมืองเยี่ยนตูแล้วด้วย”

อวี๋เหวินปิงพยักหน้าพร้อมกับพูดอย่างโล่งใจ “ครับ”

ในอีกด้าน หยางเฉินเองก็กำลังออกจากคลับหวงจิน

“คุณหยาง!”

ในขณะที่เขาเดินออกมาก็ได้ยินเสียงที่ดูดีใจดังมาจากที่ไกลๆ ซึ่งนั่นก็คือสองพี่น้องซ่งหวายี่และซ่งหวาหย่าที่เขาสั่งให้ออกไปหลังจากเกิดความขัดแย้งขึ้นก่อนหน้านี้

“พี่หยาง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ใบหน้าที่ดูละเอียดลออของซ่งหวาหย่านั้นเต็มไปด้วยความกังวลใจ

หยางเฉินส่ายหัวเล็กน้อย “ฉันไม่เป็นอะไร วันนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกเธอกลับกันไปก่อนเถอะ!”

การที่สองพี่น้องมารอตนที่หน้าประตูของคลับหวงจินนั้นเกินความคาดหมายของหยางเฉินนัก

การที่พวกเขามารอที่นี่มันบ่งบอกได้ชัดถึงความเชื่อมั่นที่พวกเขามีต่อหยางเฉิน

ไม่เช่นนั้น ถ้าเกิดหยางเฉินตายอยู่ด้านใน ระยะทางระหว่างพวกเขากับคลับหวงจินก็ไม่ได้ไกลกันมากนัก ซึ่งก็มีโอกาสสูงที่คนของตระกูลเฉาจะตามมาไล่ฆ่าได้

“ในเมื่อคุณหยางไม่ได้เป็นอะไร พวกเราก็สบายใจครับ ไว้เราค่อยหาวันมาเชิญคุณหยางไปงานเลี้ยงก็แล้วกัน”

ซ่งหวายี่ที่ฟังคำพูดของหยางเฉินที่แฝงนัยยะถึงการไล่ให้กลับไปจึงรีบพาซ่งหวาหย่าออกไปในทันที

“พี่ชาย ทำไมไปแล้วล่ะ?พี่หยางเข้าไปหาคนของคลับหวงจินเพื่อช่วยพวกเราเลยนะ ให้เขาอยู่คนเดียวแบบนั้น ถ้าเกิดมีคนของคลับหวงจินไล่ตามมาฆ่าเขาจะทำยังไง?”

ซ่งหวาหย่าพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจหลังจากที่ถูกลากขึ้นรถ

ซ่งหวายี่พูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “นี่เธอคิดว่าถ้าคนของคลับหวงจินตามมาฆ่าคุณหยางจริงๆแล้วพวกเราที่อยู่กับเขาจะช่วยอะไรได้งั้นเหรอ?”

“มันก็เหมือนกับตอนที่อยู่คลับหวงจินก่อนหน้านี้ พวกเราน่ะเป็นแค่ภาระของคุณหยางเท่านั้นแหละ!”

หลังจากซ่งหวายี่พูดจบก็ได้จ้องมองซ่งหวาหย่าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าปฏิกิริยาน้องสาวของตนจะดูผิดปกติไปเล็กน้อย

เมื่อถูกซ่งหวายี่จ้องมอง ซ่งหวาหย่ารู้สึกประหม่าเล็กน้อยพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีนัก “พี่ชาย มองฉันแบบนี้หมายความว่ายังไง?”

“เสี่ยวหย่า นี่เธอชอบคุณหยางเหรอ?” ซ่งหวายี่ถามในทันที

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของซ่งหวาหย่าก็แดงขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ซ่งหวายี่และพูดออกมาอย่างประหม่า “ไม่ใช่ซะหน่อย!”

“เธอเป็นน้องสาวแท้ๆของฉันนะ เธอคิดอะไรอยู่ มีเหรอที่พวกเราจะไม่รู้กัน?”

ซ่งหวายี่ถอนหายใจพร้อมกับพูดออกมา “คุณหยางมีครอบครัวแล้วและเขาก็รักภรรยามากซะด้วย ผู้หญิงคนอื่นๆน่ะไม่มีโอกาสหรอก”

เขาตรวจสอบหยางเฉินมานานแล้วและรู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับหยางเฉินด้วย

โดยเฉพาะการที่หยางเฉินเป็นลูกเขยและต้องกล้ำกลืนความอัปยศอดสูเพื่อฉินซีนั้นทำให้เขารู้สึกทึ่งเป็นอย่างมาก

หลังจากวันนี้ได้เห็นความแข็งแกร่งของหยางเฉิน ในใจของซ่งหวายี่กลับประหลาดใจมากกว่าเดิม นึกไม่ถึงเลยว่าชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะเอาใจใส่ได้ถึงเพียงนี้

หลังจากซ่งหวาหย่าได้ฟังคำพูดของพี่ชาย ใบหน้าก็มืดมนในทันทีพร้อมกับก้มหัวและพูดออกมาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “พี่วางใจได้ ฉันรู้ขอบเขตดีว่าผู้ชายอย่างพี่หยางไม่ใช่คนที่ผู้หญิงอย่างฉันจะมีคุณสมบัติไปขอข้องเกี่ยวด้วย”

เมื่อเห็นน้องสาวของตนต้องเสียใจทนทุกข์เช่นนี้ ซ่งหวายี่ก็รู้สึกทนไม่ได้แล้ว ยังดีที่ซ่งหวาหย่าเพิ่งจะเริ่มชอบหยางเฉินเท่านั้น

ความเจ็บปวดระยะยาวนั้นเลวร้ายกว่าระยะสั้นนัก การทำให้ซ่งหวาหย่ารู้ถึงระยะห่างช่องว่างระหว่างหยางเฉินนั้นถือเป็นการช่วยน้องสาวจากความไม่ชัดเจนนี้ได้เร็วที่สุด

“เอาน่า เธอก็อย่าดูถูกตัวเองไป หน้าตาดูดีอย่างน้องสาวพี่อยากได้ผู้ชายแบบไหนล่ะ?” ซ่งหวายี่ปลอบโยนพร้อมกับขับรถออกไป

การเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ประจำปีของคลับหวงจินในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าในบรรดาพี่น้องทั้งสามคนของตระกูลซ่งจะได้รับชัยชนะแต่ท้ายสุดเขาก็ต้องมาตายไปอยู่ดี เขาไม่รู้เลยว่าการกลับมาที่ตระกูลซ่งจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง

เมื่อซ่งหวายี่จากไป หยางเฉินก็ได้กดโทรศัพท์โทรออกไป ไม่นานนักปลายสายอีกฝั่งก็รับอย่างรวดเร็ว “พี่เฉิน!”

“มาที่คลับหวงจินเดี๋ยวนี้!” หยางเฉินเอ่ยปาก

“ครับ!” อีกฝ่ายตอบรับในทันที

สำหรับหยางเฉิน การฆ่าเชื้อสายของตระกูลซ่งหรือแม้แต่การทำให้ตระกูลเฉาต้องขุ่นเคืองนั้นถือเป็นเรื่องที่เล็กน้อย

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้ของเขาคือการหาอวี๋เหวินปิงเจอต่างหาก

ครั้งก่อนอวี๋เหวินปิงนั้นหนีเงื้อมมือของเขาไปได้ แต่ในครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้อวี๋เหวินปิงหนีไปได้อีกแน่นอน

ในตอนนี้เขาทำให้ตระกูลเฉาขุ่นเคือง ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมีคนที่แข็งแกร่งมากกว่านี้โผล่มาอีกไหม

หม่าชาวมาถึงแล้ว บางทีเขาอาจช่วยได้มากกว่าเดิม

ใช้เวลายี่สิบนาที หม่าชาวก็ได้มาถึงที่คลับหวงจินเป็นที่เรียบร้อย

“พี่เฉิน!มาที่นี่ได้ยังไงกัน?”

หลังจากที่หม่าชาวลงมาจากรถก็ได้ตรงเข้าไปหาหยางเฉิน ความสงสัยปรากฏบนใบหน้าของเขา

หยางเฉินพูด “ฉันหาอวี๋เหวินปิงเจอแล้ว!”

“เด็กชายตัวดีนั่นไม่คิดเลยว่าจะมาซ่อนตัวอยู่ที่คลับหวงจิน”

หม่าชาวยิงฟันยิ้มออกมา ถึงแม้ว่าจะเป็นรอยยิ้มแต่ก็เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเจตนาที่ต้องการจะฆ่าอย่างรุนแรง

หยางเฉินที่ไม่กล้าละเลยจึงได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าอีกรอบ

“พี่เฉิน ถึงแม้ว่าคลับหวงจินจะเป็นของตระกูลเฉาแล้วมันทำไมกันล่ะ พวกเราก็แค่ตรงดิ่งเข้าไปแล้วก็บังคับอวี๋เหวินปิงให้ออกมา ฉันจะดูว่าใครจะมาขวางไว้ได้?” หม่าชาวพูดด้วยใบหน้าที่ก้าวร้าว

เขาเป็นพี่น้องข้างกายที่สนิทที่สุดของหยางเฉินและรู้ดีอย่างแน่นอนว่าหยางเฉินต้องการรู้เรื่องความลับของแม่มากแค่ไหน

อวี๋เหวินปิงนั้นถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี

หยางเฉินขมวดคิ้ว “ตระกูลเฉานั้นเป็นหนึ่งในตระกูลเดอะคิง ในเมื่อฉันออกจากชายแดนเหนือมาแล้วก็ไม่ถือว่าฉันเป็นผู้รักษาแดนเหนืออีกต่อไป หากต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆฉันก็ไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว แต่พวกนายล่ะ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หม่าชาวก็เงียบลงในทันที รู้สึกอัดอั้นตันใจอยู่เล็กน้อย

เขารู้ความหมายของหยางเฉินดีเลยล่ะ ด้วยอำนาจของตระกูลเฉา หากเป็นจริงเช่นนั้นก็คงมีการจัดแจงเหล่าคนที่แข็งแกร่งของตระกูลมาสักสองสามคนและต่อให้เป็นตัวเขาเองก็คงต้องตายอย่างไม่น่าสงสัยเลยล่ะ

ยิ่งไปกว่านั้น หยางเฉินยังมีภรรยาและลูกสาวอีกต่างหาก

เวลาผ่านไป หยางเฉินนั่งยังคงนั่งอยู่ในรถและยังไม่ตัดสินใจที่จะออกไป

หม่าชาวนั่งอยู่ตำแหน่งคนขับรถ ตาทั้งสองดวงจ้องมองไปที่ประตูคลับหวงจิน

“ออกมาแล้ว!”

หยางเฉินที่หลับตาและนั่งอยู่ที่เบาะหลังก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับมองไปที่ประตูและพูดขึ้นมา

เมื่อคำพูดของเขาหลุดออกมาก็มีร่างสองร่างของชายชราและเด็กหนุ่มเดินออกมาพอดี

ขณะที่หม่าชาวกำลังจะลงจากรถก็ถูกหยางเฉินห้ามเอาไว้ “รอก่อน!”

สองคนที่ออกมาจากคลับหวงจินนั้นก็คืออวี๋เหวินปิงและท่านถัง

ท่านถังดูระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก เมื่อออกมาจากคลับหวงจินก็ได้ตรวจสอบมองไปรอบๆ

เขาไม่รู้ว่าหยางเฉินนั้นอยู่ที่นี่หรือไม่ แต่ตัวเขามีความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีนัก

“ท่านถัง เด็กนั่นคงออกไปแล้วล่ะใช่ไหม?” ใบหน้าของอวี๋เหวินปิงเต็มไปด้วยความกังวล ถามออกมาอย่างขาดความมั่นใจ

ท่านถังเอ่ยปาก “อาจจะ!”

ทั้งสองขึ้นรถเบนท์ลีย์สีดำในทันที

“ตามไป!” หยางเฉินออกคำสั่ง

หม่าชาวสตาร์ทรถในทันทีพร้อมกับขับตามไปอย่างไม่ห่างไกลกันนัก

ท่านถังที่นั่งอยู่ในรถเบนท์ลีย์รู้สึกจิตใจไม่สงบ ตากระตุกอย่างไม่หยุดหย่อนและรู้สึกอยู่บ่อยครั้งว่าอาจเกิดเรื่องขึ้น

แต่อวี๋เหวินปิงนั้นกลับไม่มีความรู้สึกนี้เลย เขาคิดว่าเขารอดพ้นจากสายตาของหยางเฉินแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดูเย้ยหยันพร้อมกับพูดว่า “หยางเฉิน ปากก็บอกว่าอยากจะมาจับฉัน นายน่ะอ่อนหัดเกินไป!”