บทที่ 2082 – เผชิญหน้ากับผู้สืบทอดมรดกปีศาจกระบี่ ตงหยวน

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 2082 – เผชิญหน้ากับผู้สืบทอดมรดกปีศาจกระบี่ ตงหยวน
  ชิงสุ่ยดูสถานการณ์และรู้สึกว่าตงหยวนน่าจะเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดในกลุ่ม เขาคือผู้สืบทอดกระบี่ปีศาจและเป็นเหมือนหัวหน้ากลุ่ม
  ส่วนตู่ฟู่ก็เป็นผู้สืบทอดราชาปีศาจ ราชาปีศาจเพชฌฆาตโลหิต ส่วนอีกคนก็เป็นผู้สืบทอดปีศาจศร
  การปรากฏตัวของผู้สืบทอดราชาปีศาจทั้ง 4 ในคราวเดียว ถือว่าน่าประหลาดใจ
  เฉินหวงจ้องมองไปที่ชิงสุ่ย เธอคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นพวกที่รับมือได้ยาก ที่สำคัญที่สุดคือตงหยวนกำลังจ้องมองเธอและชิงสุ่ยด้วยสายตาไม่พอใจ
  “พวกเราไม่มีสิ่งที่เจ้าต้องการ สำหรับเจ้า อย่าได้คิดลามปามผู้หญิงของข้า มิฉะนั้นข้าจะตัดของสงวนของเจ้า และทำให้เจ้ากลายเป็นขันที”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม  เฉินหวงเงียบ ไม่คัดค้านใดๆ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าชิงสุ่ยกล่าวเพื่อใช้เป็นข้ออ้าง แต่มันก็ทำให้เธอหัวใจเต้นเร็ว วิธีที่เธอมองชิงสุ่ยก็แปลกใจเล็กน้อยเช่นกัน เธอมองชิงสุ่ยด้วยสายตาที่อ่อนโยนสร้างความอึดอัดให้กับตงหยวน ผู้หญิงที่เขาก็ฝันมองชายอีกคนด้วยสายตาอ่อนโยน ไม่มีทางที่เขาจะทนไหว
  “ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้หญิงของเจ้า? แม้ว่านางจะเป็นผู้หญิงของเจ้าจริง แต่ตราบใดที่ข้าต้องการ นางจะต้องฟังคำสั่งของข้า นอกจากนี้ ข้ามาเพื่อทวงเตียงหินหยกเยือกแข็งคืน ถ้าเจ้าไม่อยากตาย ก็อยากได้เอาสมบัติของคนอื่นไป อีกไม่นานความวิบัติจะไปหาเจ้า “ตงหยวนจ้องตาเขม่น
  “พวกโง่เอ้ย สงสัยว่าข้าจะประเมินพวกเจ้าสูงไป”เมื่อได้ยินตงหยวนข่มขู่ ชิงสุ่ยก็ตอบกลับด้วยท่าทางเรียบง่าย
  คำตอบของชิงสุ่ย สร้างความตกตะลึงแก่ตงหยวน นี่ก็นานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้าพูดกับเขายาบคายเช่นนี้  ตู่ฟู่หัวเราะ “ตงหยวน ข้าคิดว่ายิ่งพูดนานไปก็เสียเวลาเปล่า เพียงแค่พวกมันรู้ว่าพวกเราเป็นใคร พวกมันก็คงไม่กล้าปฏิบัติต่อเราแบบนี้”
  ปีศาจศรหนุ่มยิ้มกว้าง “วันนี้เป็นวันน่าสนใจ เราไม่เพียงค้นพบเตียงหินหยกเยือกแข็ง แต่เรายังพบบุคคลที่น่าตลกสมเพชอีก 2 คนด้วย”
  ขณะเดียวกัน ปีศาจเงาก็ยังคงเงียบ
  “ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าเป็นเพียงแค่ผู้สืบทอดราชาปีศาจหรอกเหรอ? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่คับฟ้าเพียงใดเชียว? ถ้าหากพวกเจ้ายังมีสติ ก็จงไปซะ มิฉะนั้น อย่าได้มาเสียใจภายหลัง”ชิงสุ่ยตอบกลับไปทันทีโดยไม่ลังเล
  ครั้งนี้คนกลุ่มนั้นตกตะลึงเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ารู้ว่าพวกเขาเป็นใครแต่ก็ยังกล้าพูดแบบนั้น มันมีเพียงแค่ว่าเด็กหนุ่มที่เขากำลังเห็นแข็งแกร่งมากหรือไม่ก็เป็นคนโง่ แต่จากภาพลักษณ์ พวกเขาเชื่อว่าชิงสุ่ยย่อมไม่ใช่คนโง่ หรือว่าชายคนนี้จะมีพรสวรรค์?
  “เจ้าเป็นใคร? เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าพวกเราเป็นใคร?”ปีศาจเพชฌฆาตตกใจอย่างมาก เขาจ้องมองชิงสุ่ยและเฉินหวงด้วยสายตาพยาบาท
  “ข้ามองดูรู้ตั้งแต่ครั้งแรก พวกเจ้าคงคิดว่าในดินแดนฟ้าอุดรไม่มีใครต่อต้านพวกเจ้าได้ พวกเจ้าจะคิดว่าจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นสินะ? ลองสู้ดู แล้วพวกเจ้าจะรู้พลังของข้า”ชิงสุ่ยยิ้มกว้าง และค่อยๆระเบิดพลัง
  รัศมีเทพสงคราม และพลังค่ายกลก่อตัวรอบตัวเขา
  เฉินหวงจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสีหน้าตกใจ ชายหนุ่มข้างกายที่มักจะทำอะไรน่าตลกขบขันเพิ่มพูนพลังขึ้นในระดับที่น่าประหลาดใจจนเธอรู้สึกมั่นใจ เธอเองก็เปิดใช้งานทักษะพายุปราการดอกไม้ พร้อมกับเรียกกระบี่บุปผามาปรากฏในมือ
  ชิงสุ่ยตรงไปที่ตู่ฟู่  เป็นธรรมดาที่ตงหยวนผู้นำกลุ่มจะไม่เกรงกลัวเฉินหวงและชิงสุ่ย เขาหัวเราะและดึงกระบี่ยาวสีฟ้าครามออกมา ชิงสุ่ยที่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นศาสตราวุธพิเศษ
  กระบี่เยือกน้ำค้าง
  นี่คือกระบี่ที่ทรงพลัง มันเป็นกระบี่ยาวประเภทเยือกแข็ง ด้วยพลังของกระบี่ ชิงสุ่ยก็พบว่าคู่ต่อสู้ที่เขากำลังเผชิญหน้าก็ไม่ธรรมดา โชคดีที่ร่างกายของเขามีคุณสมบัติกายา 9 หยาง พลังเยือกแข็งจึงไม่ส่งผลอะไรกับเขา
  “มาเลย พวกเจ้าเข้ามาให้หมด!!”ชิงสุ่ยเรียกง้าวทองทะลวงศัตรูออกมาพร้อมกับกล่าวเย้ยหยัน
  เพราะว่าเขามองพลังของคู่ต่อสู้ออกคร่าวๆ เขาจึงไม่จำเป็นต้องเรียกอสูรของตัวเองออกมา
  “ถึงแม้ว่าข้าจะรู้ว่าเจ้าพยายามจะหลอกข้า แต่ข้าก็ไม่อยากรังแกผู้หญิง”ตงหยวนตวัดกระบี่และก้าวไปข้างหน้า  แต่ละก้าวของเขาเหมือนกำลังเดินผ่านพื้นที่ระหว่างสวรรค์และโลก มันให้ความรู้สึกแปลก แต่ละก้าวเดินเหมือนดาวตกที่เกิดขึ้นพร้อมกัน 8 จุด ยิ่งไปกว่านั้นในแง่ของความเร็ว เขาเทียบเท่าได้กับชิงสุ่ย
  “ก็ได้ เช่นนั้นพวกเราก็มาปิดฉากสงครามภายในชั่วพริบตาให้รู้ว่าใครเป็นฝ่ายอยู่หรือใครเป็นฝ่ายไป “ชิงสุ่ยยิ้ม
  ตงหยวนพยักหน้า “เพียงแค่ข้าคนเดียวก็พอแล้ว”
  “เตรียมรับมือ”
  เมื่อชิงสุ่ยกล่าวจบเขาก็หายตัวได้ไปพร้อมกับตงหยวน
  ดอกบัวบานสำแดงลำดับที่ 9
  ดอกบัวทั้ง 9 ดอกปรากฏเหนือร่างของชิงสุ่ย แต่ละดอกหมุนกระจัดกระจายไปหลายทิศทาง สร้างคลื่นพลังกดดันแห่งความตายอันน่ากลัว
  ส่วนฝั่งของปีศาจกระบี่ตงหยวน ก็ปรากฏให้เห็นเป็นกระบี่ 3 เล่ม ที่กำลังปลดปล่อยคลื่นพลังเยือกแข็ง
  ชิงสุ่ยระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ความสามารถของศัตรูที่อยู่ตรงหน้านั้นเหนือว่าเขา เขาจึงไม่อาจซ่อนความสามารถที่แท้จริงได้
  ปราณจักรพรรดิ!!
  ทักษะล่าสังหาร!!
  ความเร็วของตงหยวนลดลงครึ่งหนึ่ง ความสามารถของเขาหายไปเกือบ 2 เท่าตัว ความเช้ามาทำให้เขาอึดอัด ความเร็วในการต่อสู้คือส่วนสำคัญ หากเราไม่พอก็จะเข้าถึงศัตรูไม่ได้ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน ทรงพลังมากเพียงใด เมื่อไม่ถึงตัวศัตรูมันก็ไร้ประโยชน์
  ตงหยวนตะโกนด้วยความไม่พอใจ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อระเบิดพลังกลับคืนสู่สถานะเดิม อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อาจฟื้นความเร็วของเขาได้ สิ่งที่เขาทำได้คือผลักกระบี่ยาวเข้าหาชิงสุ่ย  กระบี่ตะวันตก
  ชิงสุ่ยมองดูกระบี่ยาวที่พุ่งเข้ามาหาเขา จู่เขาก็รู้สึกว่าเขาไม่อาจหลบมันได้ ข้อดีของกระบี่เยือกน้ำค้างคือการแช่แข็งบรรยากาศ ทำให้บริเวณรอบข้างที่สัมผัสกับตัวกระบี่กลายเป็นน้ำแข็ง ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นกรงล้อม
  ชิงสุ่ยระเบิดพลังจากกายา 9 หยาง ง้าวทองคำลวงศัตรูลุกเป็นไฟ ทักษะ9รากฐานบรรพกาลศึกถูกเปิดใช้งาน
  ครึ้นนนนน
  ชิงสุ่ยเผาผลาญทุกสิ่งอย่างราบเป็นหน้ากลอง