ภายใต้แรงกดดันของผู้นำ ทุกคนในตระกูลเฉินไม่เอ่ยปากพูดอีก แต่ในใจของทุกคนรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก อีกสามวันถ้าหากยังหาตัวเฉินโม่ไม่เจอ คนคนนั้นก็จะทำให้ตระกูลเฉินเลือดนอง

“รอดูก่อนว่าผู้นำจะหาตัวช่วยได้ไหม ถ้าหากทางการไม่สนใจเรื่องนี้ งั้นพวกเราจะต้องให้ผู้นำตามเฉินโม่กลับมา!” คนตระกูลเฉินแอบตัดสินใจ

สมรภูมิห้าประเทศ จีอู๋หยาและคนอื่นๆ ปกป้องเฉินโม่อย่างแน่นหนา ไม่กล้าที่จะลดละแม้แต่ชั่วครู่เดียว

เฉินโม่เข้ากรรมฐานหนึ่งชั่วโมง ถึงจะลืมตาขึ้น

“อีกนานแค่ไหนถึงจะสิ้นสุด?” เฉินโม่ถามขึ้น

“ยังมีอีกแปดกว่าชั่วโมง!” เหลยจ้านพูด

เฉินโม่พยักหน้า “เพียงพอแล้ว พวกนายตามสบาย ฉันไปทำธุระนิดหน่อย!”

“ตกลง!” จีอู๋หยาและคนอื่นตอนนี้เริ่มเชื่อใจเฉินโม่อย่างไม่มีเงื่อนไขแล้ว

หลังจากเฉินโม่ออกไป จีอู๋หยาพูด “พวกเราล่าสัตว์อสูรต่อเถอะ!”

เฉินโม่รอดข้ามพื้นที่ขนาดใหญ่ มีความคิดหนึ่งเกิดขึ้นในตอนที่เขาฆ่าคนประเทศอเมสองคนนั้น

เพียงแต่เป็นเพราะการต่อสู้ที่ดุเดือดเมื่อครู่ เขาไม่มีโอกาสได้ทำ

ตอนนี้ ยังอยู่ห่างจากเวลาจบเกมอีกระยะหนึ่ง พอดีกับที่เฉินโม่สะดวกที่จะทำเรื่องนี้

อีกอย่างผ่านการสู้รบดุเดือดเมื่อครู่ ระหว่างสี่ประเทศที่เหลือเกิดแตกแยกขึ้น เริ่มแยกกันปฏิบัติการ เปิดทางให้เฉินโม่ไปทำเรื่องนี้พอดี

เฉินโม่ระเบิดความเร็วเต็มที่ ถึงแม้พละกำลังในตอนนี้ฟื้นฟูไม่ถึงหนึ่งในสาม แต่คนพวกนั้นก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาตรงไหน

เฉินโม่ไม่กังวลว่าจะถูกรุมโจมตีอีกครั้ง

ในที่สุดเฉินโม่มาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง หาคนประเทศฟาเหล่านั้นพบ

อาเธอร์และคนอื่นที่กำลังต่อสู้อยู่กับสัตว์อสูรตัวหนึ่งอยู่ เมื่อเห็นเฉินโม่ที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน ก็ตกตะลึงทันที

อาเธอร์จะชักกระบี่ในหินออกมา เหมือนกับกังวลว่าถ้าหากชักออกมาช้าเกินก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว

เพียงแต่เฉินโม่กลับห้ามเขาไว้

“ไม่ต้องกังวล ฉันเพียงแค่อยากจะมาทำธุรกิจกับพวกนาย!”

อาเธอร์เข้าใจภาษาหัวเซี่ย มือข้างหนึ่งวางลงบนกระบี่ในหิน รับประกันว่าจะสามารถชักกระบี่ออกมาได้ทุกเมื่อ ถึงได้วางใจเจรจากับเฉินโม่

“นายอยากจะทำธุรกิจอะไรกับพวกเรา?” อาเธอร์ถามขึ้นอย่างสงสัย

ในมือของเฉินโม่จู่ๆ ปรากฏแกนอสูรหลายชิ้น แล้วพูด “นายอยากได้แกนอสูรไหม? อยากจะเป็นที่หนึ่งไหม?”

อาเธอร์ขมวดคิ้ว มองเฉินโม่อย่างไม่เข้าใจ “นายจะหวังดีขนาดนี้เชียว? พวกเราเหมือนว่าจะเป็นศัตรูกันนะ!”

เฉินโม่ยิ้มบางพูด “แน่นอนว่าฉันไม่ได้หวังดีขนาดนั้น ฉันพูดแล้วว่าทำธุรกิจ เพียงแค่นายสามารถให้ของที่ฉันต้องการได้ ต่อให้เอาอันดับหนึ่งให้นายจะเป็นเช่นไร?”

อาเธอร์มองเฉินโม่อย่างระมัดระวัง ไม่กล้าเชื่อสักเท่าไหร่ “นายไม่เอาที่หนึ่ง? ประเทศของนายจะยินยอม? เพื่อนร่วมทีมเหล่านั้นของนายจะยินยอม?”

เฉินโม่หัวเราะเยาะ “ฉันเพียงแสดงหาพละกำลังสูงสุด อย่างอื่นฉันไม่สนใจ ต่อให้ฉันคว้าที่หนึ่งให้ประเทศ ประเทศก็ไม่มีทางให้สิ่งที่ฉันต้องการ”

อาเธอร์ยังไม่เชื่อ หน้าตาสงสัย

“ตรงไปตรงมาหน่อย อยากจะได้ที่หนึ่งไหม?” รอยยิ้มของเฉินโม่ร้ายกาจมาก แฝงไปด้วยความข่มขู่ เพียงแค่ไม่ใช่คนโง่ ก็สามารถฟังออกได้ว่าถ้าหากอาเธอร์ไม่แลกเปลี่ยนกับเฉินโม่ เช่นนั้นเฉินโม่อาจจะไปแลกเปลี่ยนกับประเทศอื่น

อาเธอร์ทอดถอนใจประโยคหนึ่ง “คนหัวเซี่ยคาดเดาได้ยากจริงๆ!”

“พูดมา นายอยากจะแลกอะไรกับฉัน? บอกไว้ก่อนนะ กระบี่ในหินกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ในมือของพวกเราไม่มีทางให้นาย!” อาเธอร์พูดอย่างจริงจัง

เฉินโม่พูด “วางใจได้ กระบี่กระจอกเล่มนั้นในสายตาของพวกนายคือของล้ำค่า ในสายตาของฉันไม่มีประโยชน์อะไรด้วยซ้ำ สิ่งที่ฉันอยากได้คือสิ่งนี้!”

พูดจบ ในมือของเฉินโม่มีหินทิพย์ชิ้นหนึ่ง เป็นหินที่รีดไถมาจากผีโชคร้ายประเทศอเมสองคนนั่น

“หินพลังงาน!” อาเธอร์ประหลาดใจเล็กน้อย

“นายรู้จักมัน? ดูท่านายน่าก็มีสินะ!” เฉินโม่จับสีหน้าของอาเธอร์ได้ จากนั้นจ้องมองเขาจี้ถาม

อาเธอร์พยักหน้า “ของสิ่งนี้ถึงแม้จะหายาก แต่เป็นสิ่งที่พวกเราใช้ประจำ พวกเรามีมันอยู่แล้ว!”

ได้ยินคำตอบของอาเธอร์ที่มั่นใจเช่นนี้ เฉินโม่ดีใจ แต่ใบหน้ากลับสงบนิ่งพูดขึ้น “นายมีเท่าไหร่? ฉันใช้แกนอสูรแลก!”