ลู่ฝานฟังไปพลาง เปิดใจกว้างจดจำเอาไว้

หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดอาจารย์เหลยกับอาจารย์ถิงยวนก็รีบกลับมา

ทั้งสองกลายเป็นลำแสง เพิ่งลงมาถึงพื้นก็ดึงลู่ฝานขึ้นมา

“ลู่ฝาน มาๆ ตามพวกเราไปข้างนอกหน่อย”

อาจารย์เหลยพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า

เทียนหยาจื่อก็พูดขึ้นมาว่า “เจ้าเหลย พวกนายจะทำอะไร จะพาเขาไปไหน”

ถิงยวนพูดว่า “กลับสาขา อาจารย์มีคำสั่งให้พาลู่ฝานกลับไปที่สาขาสายฟ้า!”

เทียนหยาจื่อได้ยินคำว่าอาจารย์ ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีทันที “ท่านอาจารย์ของพวกนายเหรอ อย่าบอกนะว่าท่านที่อยู่บนเขาคนนั้น”

อาจารย์เหลยพยักหน้าพูดว่า “ใช่ เทียนหยาจื่อ นายวางใจเถอะ เราไม่ทำอะไรลู่ฝานแน่นอน ประมาณ 10-15 วันก็กลับมาแล้ว ไม่นานหรอก”

ลู่ฝานรีบผละออกมา มองอาจารย์เหลยแล้วพูดว่า “10-15 วันเหรอครับ ไม่ได้ครับๆ ผมยังมีเรื่องสำคัญต้องทำ พวกคุณมีเรื่องอะไรกันแน่ครับ ผมต้องไปด้วยเหรอครับ”

อาจารย์เหลยขมวดคิ้วพูดว่า “ลู่ฝาน อย่าบอกนะว่านายไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสาขาสายฟ้า”

ลู่ฝานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนเคยได้ยินรางๆ จากที่ไหนครั้งหนึ่ง แต่จำไม่ได้แล้วจริงๆ

ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ไม่รู้จักครับ”

อาจารย์เหลยกับอาจารย์ถิงยวนมองหน้ากัน ถิงยวนพูดว่า “ลู่ฝาน แหวนในมือนาย เป็นแหวนจิ่วเซียวเชียวนะ”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ใช่ครับ อย่าบอกนะว่าเกี่ยวข้องกัน แต่อาจารย์บอกผมว่าคนที่เกี่ยวข้องกับแหวนนี้ตายไปหมดแล้ว เหลือแค่ผมกับอาจารย์สองคน”

อาจารย์เหลยตกตะลึง

“อาจารย์! นายมีอาจารย์ด้วย! อาจารย์นายยังมีชีวิตอยู่ไหม ชื่ออะไร”

ลู่ฝานพูดว่า “ขอโทษด้วยครับ อาจารย์สั่งไว้ว่าห้ามบอก อาจารย์ผมยังมีชีวิตอยู่ครับ”

เหมือนถิงยวนนึกอะไรขึ้นได้ เขาพูดด้วยสายตาประหลาด “ลู่ฝาน อาจารย์นายแซ่หวูใช่ไหม”

ลู่ฝานพูดอย่างตกใจว่า “รู้ได้ยังไง”

ทันใดนั้นถิงยวนกับอาจารย์เหลยทรุดลงบนพื้นทันที

แววตาที่ทั้งสองคนมองลู่ฝาน เหมือนเห็นผี ลูกตาแทบจะหลุดออกมาแล้ว

ลู่ฝานกับเทียนหยาจื่อมองทั้งสองคนอย่างไม่เข้าใจ เห็นได้ชัดว่าเทียนหยาจื่อก็ไม่ค่อยรู้ แต่เขารู้สึกว่าเรื่องราวดูผิดปกติ อย่าบอกนะว่าอาจารย์ของลู่ฝาน เป็นผู้สูงส่งระดับเทพ

ผ่านไปนาน อาจารย์เหลยค่อยๆ พูดว่า “เป็นแบบนี้จริงด้วย ท่านอาจารย์พูดไว้นานแล้วว่าท่านหวูไม่มีทางตาย”

ถิงยวนลุกขึ้นยืน จู่ๆ เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น ก้มตัวคำนับลู่ฝาน

ลู่ฝานตกใจจนช็อก อาจารย์เหลยเห็นการกระทำของถิงยวน คิดไม่ถึงว่าเขาจะคุกเข่าทำความเคารพเช่นกัน

จู่ๆ สายตาที่เทียนหยาจื่อมองลู่ฝานเปลี่ยนไป

ลู่ฝานพูดอย่างตกใจว่า “พวกคุณทำอะไรครับ รีบลุกขึ้นเถอะครับ”

ถิงยวนค่อยๆ พูดว่า “ศิษย์สาขาสายฟ้าทุกคน พบศิษย์ของท่านหวู ก็เหมือนกับพบท่านหวู คุณชายลู่จะไม่ยอมกลับไปสาขาสายฟ้ากับเราจริงๆ เหรอครับ ถ้าท่านอาจารย์เจอนาย ต้องดีใจเป็นอย่างมากแน่นอน”

ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ไม่ครับ ผมไปไม่ได้ อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไปไม่ได้ครับ”

อาจารย์เหลยกัดฟันพูดว่า “งั้นก็ได้ เราบังคับคุณชายลู่ไม่ได้ รอให้คุณชายลู่จัดการเรื่องเรียบร้อย แล้วตามเราไปสาขาสายฟ้าได้ไหม”

ลู่ฝานเงียบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “แม้ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในเมื่อทั้งสองท่านยอมรอ เมื่อถึงตอนนั้นผมไปแน่นอนครับ”

อาจารย์เหลยกับถิงยวนพยักหน้า อาจารย์เหลยพูดว่า “ถิงยวน นายอยู่ที่นี่ ฉันจะกลับสาขาสายฟ้าไปขอคำแนะนำจากอาจารย์”

ถิงยวนส่งเสียงตอบรับ จากนั้นพูดกับลู่ฝานว่า “คุณชายลู่ ช่วงนี้ผมอยู่สถาบันบู๊องอาจตลอด โปรดรับยันต์หยกชิ้นนี้ไว้ ถ้าคุณชายจะออกเดินทาง หรือมีปัญหาอะไร ให้บีบมันจนแตก แล้วผมจะไปหาทันที”

เมื่อพูดจบ ถิงยวนไม่รอให้พูด เอายันต์หยกยัดใส่มือลู่ฝาน ไม่ให้โอกาสลู่ฝานได้ปฏิเสธเลย