บทที่ 619 นักฆ่าบุกเข้ามา

The king of War

เขาเคยลองสืบอวี๋เหวินเกาหยางมาก่อน ดูจากปฏิกิริยาของอวี๋เหวินเกาหยางก็พอจะรู้ได้ว่าเขารู้เรื่องความลับ เพียงแต่ไม่เต็มใจที่จะพูดมันออกมา

อวี๋เหวินเกาหยางเป็นพ่อของเขาซึ่งเขาไม่สามารถฆ่าได้ แต่อวี๋เหวินปิงนั้นต่างออกไป

หากเป็นเรื่องด่วน หยางเฉินจะไม่มีทางใจอ่อนอย่างแน่นอน

“ฉันไม่เชื่อ!” ท่านถังเอ่ยปาก

หากส่งอวี๋เหวินปิงให้กับคนที่แข็งแกร่งเหนือชั้นอย่างหยางเฉินแล้วล่ะก็เกรงว่าอวี๋เหวินปิงคงจะถูกฆ่าตายเป็นแน่

“พี่เฉิน ไปพูดไร้สาระกับเขาทำไมเยอะแยะ?พี่หยุดเขาไว้แล้วผมจะไปเอาตัวมันมา” รอยยิ้มที่ดูกระหายเลือดปรากฏขึ้นที่มุมปากของหม่าชาว

เขารับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของท่านถังจึงประมาณตนไม่ไปจัดการกับเขา อย่างไรก็ตามเขาสามารถพาอวี๋เหวินปิงออกมาได้

หยางเฉินไม่ตอบรับอะไรพร้อมกับมองไปที่ท่านถังและถามอีกครั้ง “ท่านแน่ใจนะว่าจะไม่ส่งคนมา?”

ท่านถังส่ายหัว “นอกจากฉันจะตาย!”

“หากเป็นเช่นนั้นก็คงต้องผิดใจกันแล้ว!”

ดวงตาของหยางเฉินค่อยๆเย็นลงพร้อมกับออกคำสั่งไป “ลงมือ!”

“ครับ!”

ในขณะที่หยางเฉินออกคำสั่งไป หม่าชาวก็ได้พุ่งหน้าไปที่รถเบนท์ลีย์

“รนหาที่ตาย!”

ท่านถังตะโกนออกมาอย่างโกรธเคืองพร้อมกับขยับฝีเท้าไปทางหม่าชาว

“คู่ต่อสู้ของท่านคือฉันต่างหากล่ะ”

เพียงแต่ยังไม่ทันที่เขาจะถึงตัวของหม่าชาว หยางเฉินก็ได้มาสกัดที่ด้านหน้าไว้แล้วพร้อมกับชกออกไปหนึ่งที

“โป้ง!”

ท่านถังนั้นไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาหยุดการโจมตีหม่าชาวพร้อมกับชูแขนขึ้นมากันหน้าอกไว้

หมัดของหยางเฉินกระทบเข้ากับแขนของท่านถังอย่างจังจนท่านถังถอยหลังไปหลายก้าว

“ฉันเคารพที่ท่านเป็นผู้อาวุโสจึงไม่ได้อยากจะลงมืออะไรกับท่าน แต่ท่านอย่าได้บังคับกันเลย ท่านก็รู้ดีว่าท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”

หลังจากหยางเฉินชกท่านถังจนถอยลงไปก็ไม่ได้ทำการไล่โจมตีต่อแต่เขากลับพูดเกลี้ยกล่อมแทน

สีหน้าของท่านถังดูเคร่งขรึม เขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉินแต่ตนก็ดันมีภารกิจที่ต้องแบกรับไว้บนบ่าเสียด้วย หากมีอะไรเกิดขึ้นกับอวี๋เหวินปิง มันก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยงในความผิดนี้ของเขา

“ด้วยความแข็งแกร่งของท่านผู้อาวุโส การที่ต้องมาปกป้องสิ่งไร้ค่าเช่นนี้ช่างเป็นสิ่งที่ทำให้ความสามารถเสียเปล่าจริงๆ หากท่านผู้อาวุโสยอมทำตาม ฉันจะมอบตระกูลเฉาให้แก่ท่านและจะจ่ายเป็นสองเท่าให้ท่านเลย”

หยางเฉินพูดต่อ

พละกำลังของท่านถังนั้นแข็งแกร่งกว่าหม่าชาวนัก คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้หากได้มาใช้งานล่ะก็คงเหมือนกับเสือติดปีกเลยล่ะ

ตอนนี้เขาตัดสินใจที่จะพาครอบครัวมาที่เมืองเยี่ยนตู ศัตรูที่จะพบหลังจากนี้ก็จะมีแต่แข็งแกร่งขึ้นไปทุกที

หากได้รับการคุ้มครองของชายที่แข็งแกร่งอย่างท่านถังล่ะก็คงสามารถบรรเทาความกดดันได้ไม่น้อยเลยล่ะ

เพียงแต่มันคงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านถังจะมาติดตามหยางเฉิน เขาส่ายหัว “ตระกูลเฉามีพระคุณต่อฉันมากนัก ตระกูลเฉามอบชีวิตให้กับฉัน เพื่อตระกูลเฉาแล้วต่อให้ตายก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณ!”

ในที่สุดหยางเฉินก็ได้รู้ว่าการที่จะให้ท่านถังมาติดตามตนนั้นคงเป็นเรื่องที่ไร้ความหวัง

“หากเป็นเช่นนั้นก็คงต้องผิดใจกันแล้วล่ะ!”

สีหน้าของหยางเฉินค่อยๆเย็นชาลง เขาไม่เคยใจอ่อนให้กับศัตรู

ท่านถังเองก็ไม่กล้าที่จะประมาท เขาระเบิดปล่อยพละกำลังออกมาในทันที ขยับเท้าพร้อมกับพุ่งร่างตรงไปที่หยางเฉิน

ด้วยฝีมือชั่วขณะหนึ่งทำให้เขาไปพุ่งมาอยู่ที่ด้านหน้าของหยางเฉินแล้ว

“ปึง!”

หยางเฉินเองก็ไม่ออมมืออีกต่อไป เขาต่อยเข้าไปที่หน้าอกของท่านถัง

เห็นเพียงร่างของท่านถังนั้นเหมือนกับว่าวที่เชือกขาดสะบั้น ลอยล่องไปหลายเมตรพร้อมกับตกลงมาอย่างแรง

ความเร็วของท่านถังนั้นเร็วมากแต่ทางด้านของพละกำลังนั้นยังห่างไกลกับหยางเฉินนัก

ท่านถังนั้นไม่ได้ต้านทานกำลังแรงชกของหยางเฉินเลยแม้แต่น้อย เขาเลือดกระอักปากและลมหายใจก็ห่อเหี่ยวลงไปมาก

แต่ถึงยังไงเขาก็ยังคงกระเสือกกระสนดิ้นรนที่จะลุกขึ้นมา ในใจรู้สึกตกตะลึงอย่างถึงที่สุด

เดิมทีตอนที่เขาอยู่คลับหวงจิน เขาก็คิดว่าอยู่เสมอว่าการแสดงออกของหยางเฉินนั้นถือว่าแข็งแกร่งมาก จนถึงตอนนี้เขาถึงตอบสนองได้ว่าฝีมือที่หยางเฉินหยิบออกมาตั้งแต่ต้นจนจบนั้นช่างดูเรียบง่าย

ส่วนในเรื่องของความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหยางเฉินว่ามีมากเพียงใด เขาเองก็ไม่แน่ชัดนัก

เพราะเขาเองก็ยังไม่เคยใช้กำลังบีบบังคับให้หยางเฉินแสดงส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา

ในเวลานี้ หม่าชาวเองก็เดินมาถึงด้านหน้าของรถเบนท์ลีย์พร้อมกับต่อยไปที่กระจกรถและลากคนขับออกมา

ต้องจัดการคนขับก่อนถึงจะมั่นใจได้ว่าอวี๋เหวินปิงจะไม่สามารถหลบหนีไปได้

ภายในรถ

อวี๋เหวินปิงเมื่อเห็นหม่าชาวทุบกระจกรถจนแตกพร้อมกับนำตัวคนขับออกไป เขาก็ตกใจกลัวจนแทบบ้า

“ฉันควรทำยังไงดี?”

อวี๋เหวินปิงตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เขารู้สึกเสียใจที่ได้มาเป็นศัตรูกับหยางเฉิน

แต่มาเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้ว

“ไอ้หนู จะลงจากรถเองหรือว่าจะให้ฉันลากลงมา?”

หม่าชาวพูดด้วยรอยยิ้ม

“ฉัน…ฉันลงไปเอง!” ในที่สุดอวี๋เหวินปิงก็ตัดสินใจได้

หม่าชาวใช้น้ำเสียงบังคับให้ลงจากรถ ตนลงจากรถเองคงจะเจ็บน้อยกว่าหน่อย

แต่ในขณะนั้นเองนักฆ่าชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกริชสั้นในมือ เขาพุ่งจ้วงแทงไปที่อกของหม่าชาวโดยตรง

“พรึ่บ!”

หม่าชาวที่ไม่สามารถหลบหลีกได้ทันจึงถูกกริชแทงไปที่แขนจนเป็นรู

อย่างไรก็ตามยังไม่ทันมีโอกาสที่เขาจะได้ตอบสนอง กริชก็พุ่งเข้ามาโจมตีเขาอีกครั้ง

เขาทำเพียงแต่ยกเลิกการโจมตีและหลบหลีกอย่างรวดเร็ว

อีกฝ่ายสวมใส่ชุดคลุมปกปิดใบหน้าทั้งหมดไว้ในผ้า ซึ่งนั่นทำให้ไม่เห็นใบหน้าเลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นหยางเฉินขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องไปที่ท่านถังและพูดอย่างโกรธแค้น “นี่ท่านจ้างนักฆ่ามาเหรอ?”

นักฆ่าในชุดคลุมสีดำนี้มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วว่องไวเป็นอย่างมาก ทุกๆการเคลื่อนไหวแฝงเจตนาฆ่า ต้องเป็นนักฆ่าระดับนานาชาติเท่านั้นถึงมีความสามารถในการสังหารที่ทรงพลังเช่นนี้

“หากนายยังไม่ช่วยพี่น้องของนายล่ะก็เกรงว่าเขาก็คงตายอยู่ที่นี่” ท่านถังพูดพร้อมกับยิ้มเยาะ

รวมถึงสไปเปอร์ก่อนหน้านี้ก็เป็นเขานี่แหละที่จ้างมาเล่นงานหยางเฉิน

แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายของเขาก็คือแม้จะเป็นการโจมตีของสไปเปอร์หลายคนแต่หยางเฉินก็ยังสามารถไล่ตามพวกเขามาได้ทัน

“ในเมื่อนายรนหาที่ตาย ฉันก็จะอนุเคราะห์ให้!”

เจตนาฆ่าในดวงตาของหยางเฉินแกร่งกล้าขึ้นเรื่อยๆ

เดิมทีเขาไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลเฉา เพียงแค่อยากจะรู้ความลับเกี่ยวกับแม่ของเขาผ่านปากของอวี๋เหวินปิงก็เท่านั้นและเขาก็จะปล่อยให้อวี๋เหวินปิงมีชีวิตรอดไป

แต่ในตอนนี้ เขาจะไม่ยอมให้ท่านถังมีหนทางในการรอดชีวิตอีกต่อไป

“อีกฝ่ายเป็นถึงนักฆ่าอันดับสามระดับโลกของพายุหิมะเลยนะ หากนายยังไม่รีบไปช่วยพี่น้องของนายล่ะก็นายจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน”

ท่านถังที่รับรู้ได้ถึงเจตนาการฆ่าของหยางเฉินก็ได้รีบพูดออกมา

หยางเฉินยิ้มอย่างเหยียดหยาม “หากฉันจะบอกกับท่านว่านักฆ่าอันดับหนึ่งของพายุหิมะนั้นถูกพี่น้องของฉันฆ่าตายไปล่ะ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของท่านถังก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก “เป็นไปไม่ได้!”

หากบอกว่านักฆ่าอันดับหนึ่งนั้นตายในน้ำมือของหยางเฉิน เขาอาจจะยังพอเชื่อได้

แต่ถ้ามาพูดว่าคนที่ติดตามมากับหยางเฉินฆ่านักฆ่าอันดับหนึ่งของพายุหิมะล่ะก็เขาไม่เชื่อแน่ๆ

หยางเฉินเหลือบมองไปที่ท่านถังอย่างเย็นชาและไร้ซึ่งการอธิบายใดๆ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาออกไปว่า “จัดการให้ดีล่ะ!”

เมื่อเสียงสิ้นสุดลง หยางเฉินขยับเท้าพร้อมกับหายไปจากตรงนั้นทันที

ในเวลานี้เองมีลมมากมายอันทรงพลังปะทุออกมาจากร่างของหยางเฉินราวกับคลื่นที่โหมซัดสาดอย่างบ้าคลั่งได้พุ่งตรงไปยังร่างของท่านถัง