บทที่ 644 งานราชการควรให้รัฐจัดการ + บทที่ 645 เปรียบเทียบกัน โดย Ink Stone_Romance
บทที่ 644 งานราชการควรให้รัฐจัดการ
มีนักเรียนบางคนเมื่อได้ยินสตาฟเรียกเข้าไป แม้จะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อาจจะคัดค้านได้ ดูจากลักษณะคงต้องปล่อยตามน้ำไป
สีหน้าของหวงอวี้เหลียนแสดงออกถึงความพึงพอใจ เธอรู้ดีว่าเด็กๆ พวกนี้ไม่กล้าทำอะไร รอให้การแข่งขันสิ้นสุดลง เธอค่อยหาวิธีจัดการกับจ้าวเหมย!
อย่าคิดว่าเป็นเจ้าหญิงของตระกูลจ้าว แล้วเธอจะไม่กล้าจัดการ!
จัดการซื่อๆตรงๆต่อหน้าในที่แจ้งไม่ได้ เธอก็ทำในที่ลับได้ เธอมีวิธีที่จะจัดการยัยเด็กชั่วช้าคนนี้!
เหมยเมหยมองเห็นสีหน้าพึงพอใจของหวงอวี้เหลียนได้อย่างชัดเจน เธอโกรธแค้นในใจ ถือไมโครโฟนแล้วตะโกนใส่ “ทุกคนอย่าเข้าไป เรื่องราวทุกอย่างถ้ายังไม่เคลียร์ให้ชัดเจนก็ไม่ต้องแข่ง พวกเธอลองคิดดูดีๆสิ เรียนวาดรูปมาอย่างยากเย็นแสนเข็ญ แต่จะเข้าแข่งขันกับคนฝีมือระดับอนุบาล พวกเธอไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องอับอายขายขี้หน้าเหรอ?”
มีนักเรียนบางคนหยุดฝีเท้าที่ก้าวเดินลง เกิดความคิดสองจิตสองใจ เหมยเหมยพูดถูก เป็นเรื่องอับอายขายขี้หน้า!
แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ถ้าไม่เข้าร่วมแข่งจะทำอะไรอีก?
เหมยเหมยจึงพูดขึ้นเสียงดังอีกครั้ง “เลขาหร่วน เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าลูกศิษย์ของคุณไม่ได้ใช้เส้นสาย ตอนนี้ขอให้เธอวาดภาพเหมือนเป็นคุณเลขาหร่วนต่อหน้าพวกเราทุกคน ฉันเชื่อว่าการวาดภาพอาจารย์ตัวเอง คงไม่ใช่เรื่องยากนักใช่ไหม?”
“ใช่ หากว่าภาพอาจารย์ตัวเองยังวาดไม่ดี มีสิทธิ์อะไรที่จะเข้าแข่งขันระดับประเทศ? กลับไปวาดข้างกำแพงบ้านตัวเองไป!” จ้าวเสวียกงตะโกนขึ้น
หร่วนหวาไฉ่เองก็สองจิตสองใจ เพราะเขามองออกว่าเหมยเหมยและพวกไม่ได้มีฐานะที่ธรรมดา คงไม่ดีที่จะโต้กลับ จึงทำทีหูหนวกตาบอด อีกทั้งยังได้ออกคำสั่งกับสตาฟคนข้างๆ ให้เข้าไปเรียกตัวหัวหน้าที่ดูแลการแข่งขันออกมา
ตอนนี้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เขาไม่อาจรับมือได้ ให้คนอื่นออกมาช่วยเช็ดก้นก็แล้วกัน !
สำหรับเรื่องที่โอหยางซานซานใช้เส้นสาย หร่วนหวาไฉ่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจสักเท่าไหร่ การใช้เส้นสายให้ลูกศิษย์ของตัวเองไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร และจากที่เขารู้มา การแข่งขันครั้งนี้รางวัลใหญ่ๆ ครึ่งหนึ่งถูกตัดสินไปแล้ว ครึ่งหนึ่งเหลือไว้สำหรับผู้เข้าแข่งขันที่เป็นคนนอก
นี่เป็นการแข่งขันที่ไม่มีกฏเกณฑ์ที่เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งทุกคนต่างทราบดี ไม่มีใครโง่พอที่จะกล้าเปิดโปง!
แต่เป็นเพราะการแข่งขันในครั้งนี้โชคไม่ดีนัก นึกไม่ถึงว่าจะเจอเด็กที่เอาจริงเอาจังแบบนี้ ทั้งยังเป็นเด็กที่มีภูมิหลังไม่ธรรมดาอีกด้วย ให้ตายเถอะ!
ผู้ดูแลหลักคือข้าราชการแซ่จู ทุกคนต่างเรียกเขาว่าผู้อำนวยการจู หากพูดตามความจริงก็คือเพื่อนร่วมงานของสามีหวงอวี้เหลียน ถือว่ามีพื้นฐานทางบ้านที่ดี เพราะงั้นเขาไม่ค่อยจะสนใจต่อหวงอวี้เหลียนเท่าไหร่นัก
ครั้นผู้อำนวยการที่ได้ฟังคนที่ด้านล่างพูดถึงเรื่องก่อนหน้าที่เกิดขึ้น จึงแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าที่ควร และจ้องมองหร่วนหวาไฉ่อย่างตำหนิ
ช่างเป็นพวกไร้ประโยชน์นัก!
เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ หากว่ามีนักข่าวเผยแพร่ไปยังช่องสถานีหรือบนหนังสือพิมพ์ เขาเองก็คงจะติดร่างแหไปด้วย!
สำหรับเรื่องเส้นสายภายในเป็นไปไม่ได้ที่ผู้อำนวยการจูจะไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เขาทำทีหลับหูหลับตาไปบ้างก็เท่านั้น เรื่องเล็กน้อยที่ไม่ได้รับผลกระทบกระเทือนมากมาย เหตุใดจึงต้องเอาจริงเอาจังด้วยล่ะ!
แต่ตอนนี้เรื่องราวบานปลายจนอาจมีผลกระทบกับระดับผลประโยชน์ของเขาได้ แบบนั้นเขาก็ไม่อาจหลับหูหลับตาต่อไปได้!
“วัตถุประสงค์ของการแข่งขันในครั้งนี้มีแต่ความยุติธรรม ในเมื่อมีผู้เข้าแข่งขันยื่นเสนอออกมา ถ้าอย่างนั้นก็ทำตามที่ผู้เข้าแข่งขันคนนี้เสนอแล้วกัน เชิญโอหยางซานซานวาดภาพโชว์ต่อหน้าทุกคน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ”
ผู้อำนวยการจูถือว่าเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือ เมื่อได้ฟังที่ลูกน้องพูดถึงเหตุการณ์ต่างๆก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จึงตัดสินใจในทันที
หวงอวี้เหลียนมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาก ในใจคิดอยากจะเข้าไปพูดกับผู้อำนวยการจูให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่มี แต่เมื่อเห็นท่าทีเอาจริงเอาจังขนาดนี้ ทั้งยังแสดงออกว่าไม่รู้จักเธอ จึงทำให้เธอไม่มีแม้แต่คำพูดที่จะยกขึ้นมาพูดได้
………………………………………………….
บทที่ 645 เปรียบเทียบกัน
หวงอวี้เหลียนไม่สามารถทำอะไรได้ จึงพูดกำชับที่ข้างหูของลูกสาวไปเพียงไม่กี่ประโยค โอหยางซานซานจึงตะโกนขึ้นเสียงดัง “จ้าวเหมยเธอเอาแต่พูดว่าฉันใช้เส้นสาย พ่อของเธอเป็นถึงรองผู้ว่าประจำเมืองจิน ใครจะรู้ว่าเธอเองก็ไม่ได้ใช้เส้นสาย?”
ผู้อำนวยการจูหันมองเหมยเหมยครู่หนึ่งจึงทำให้เข้าใจได้ ที่แท้ก็เป็นเจ้าหญิงตัวน้อยของตระกูลจ้าว ไม่แปลกที่จะอาจหาญได้ถึงเพียงนี้ !
เริ่มมีเสียงฮือฮาดังขึ้นมาจากผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ พวกเขาต่างรู้สึกอิจฉาริษยาเหมยเหมย และเริ่มมีบางคนเกิดความสงสัยเช่นเดียวกับโอหยางซานซาน ที่คิดว่าเหมยเหมยเองก็เป็นเด็กเส้น
จ้าวเสวียกงตะโกนด่าอย่างโกรธจัด “เธอคิดว่าทุกคนต้องเป็นเหมือนเธอเหรอ ที่วันๆ เอาแต่พึ่งพาเส้นสายเพื่อทำมาหากิน เหมยเหมยของพวกเราใช้ความสามารถแท้จริงที่มีอยู่!”
โอหยางซานซานจึงตะโกนร้องเสียงหลง “ใช้ความสามารถที่แท้จริงหรือไม่ก็ต้องวาดออกมาให้เห็นสิ แคคำพูดใครก็พูดได้!”
หวงอวี้เหลียนมองลูกสาวด้วยความพึงพอใจ ในสายตาเธอเหมยเหมยไม่น่าจะมีความสามารถและฝีมือที่ดีเท่าไหร่นัก เมื่อก่อนครอบครัวสามัญชนคนธรรมดาชุบเลี้ยงเธอให้เติบโตมา พวกเขาจะยอมเสียเงินเพื่อนส่งเธอเรียนวาดภาพได้อย่างไร ?
จ้าวเหมยต้องสู้ซานซานของเธอไม่ได้แน่!
เหมยเหมยหัวเราะเยาะไปทีหนึ่ง “มีคนบางคนมักจะถือเอาความคิดของตัวเองมาตีค่าในตัวอื่น คิดว่าคนอื่นๆ ก็หน้าไม่อายเหมือนกับตัวเอง เหอะ ในเมื่อเธอสงสัยว่าฉันใช้เส้นสาย งั้นเรามาวาดรูปแข่งกัน แล้วก็มาดูกันว่าใครกันแน่ที่ใช้เส้นสาย!”
โอหยางซานซานพูดขึ้นอย่างทะนง “แข่งก็แข่ง เธอจะวาดอะไร?”
เหมยเหมยลูบจมูกตัวเองไปมา และจงใจพูดขึ้น “ฉันจะยอมเสียเปรียบให้หน่อย วาดเหมือนกับเธอก็ได้ แต่นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาแข่งแล้ว เราจะทำให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ เสียเวลาไม่ได้ งั้นก็กำหนดเวลาแค่ห้านาทีละกัน เธอกล้าที่จะแข่งกับฉันไหม?”
หร่วนหวาไฉ่เตรียมจะพูดห้าม แต่โอหยางซานซานกลับตกปากรับคำในทันที “ห้านาทีก็ห้านาที มีอะไรถึงจะไม่กล้าล่ะ!”
“ดีเลย ง่ายดี คุณเลขาหร่วนคะ ช่วยหาโต๊ะให้พวกเราสักตัวสิคะ!”
เหมยเหมยมองหร่วนหวาไฉ่เหมือนกับยิ้มให้แต่ก็ไม่เชิง กำจัดลูกศิษย์ให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยจัดการกับไอ้แก่ชาติชั่วนี่ และยังเหลือไอ้พวกชาติชั่วอีกสองคน ต้องเผาทิ้งไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว!
หร่วนหวาไฉ่รีบสั่งให้คนไปหาโต๊ะพร้อมกับกระดาษและดินสอมา ผู้อำนวยการจูจะเป็นกรรมการให้เอง เหมยเหมยจดจำรูปลักษณ์หน้าตาของหร่วนหวาไฉ่ได้อย่างแม่นยำ เมื่อผู้อำนวยการจูสั่งเริ่ม เธอก็วาดลงไปอย่างรวดเร็ว
โอหยางซานซานก็ไม่ได้ช้าไปกว่ากันนัก เพียงแต่เธอวาดได้ไม่กี่เส้นจำต้องได้เงยหน้าขึ้นมองอาจารย์ของตน หันกลับมามองเหมยเหมยที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาวาดอย่างตั้งใจ ต่อให้เป็นคนนอกก็รับรู้ได้ว่าเป็นคนที่มีฝีมือจริงๆ
เรียนกับอาจารย์มาตั้งสามปี วาดภาพเหมือนง่ายๆ ยังต้องมองตัวแบบตั้งหลายครั้งหลายครา ฝีมือการวาดก็ยังคงย่ำแย่เช่นเคย!
“ฉันวาดเสร็จแล้ว!”
ยังไม่ถึงสามนาทีด้วยซ้ำ เหมยเหมยทิ้งดินสอลงด้วยใบหน้าที่มีแต่ความมั่นใจ
แต่โอหยางซานซานกลับวาดต่อไป แม้แต่ดวงตาเธอยังวาดมันไม่เสร็จ บนหน้าผากเริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมา การที่เหมยเหมยส่งก่อนเวลายิ่งทำให้เธอเริ่มกังวล พร้อมทั้งวาดผิดไปหลายถึงหลายจุด จนเอาแต่หายางลบมาลบแก้ ในขณะเดียวกันก็เหลือบมองทุกคนก็เห็นว่าเอาแต่ส่ายหน้าไปมา จึงทำให้เธอรู้สึกโมโห
ผู้แข่งขันฝีมือแค่นี้ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าเข้าแข่งสนามเดียวกับพวกเขาได้ ช่างเป็นอะไรที่น่ารังเกียจนัก!
“หมดเวลา!”
ใบหน้าของผู้อำนวยการจูไร้ซึ่งความปรานี แม้แต่นาทีเดียวเขาก็ไม่คิดจะเผื่อให้โอหยางซานซานเลย ยิ่งตอนนี้ต้องอยู่ต่อหน้าทุกคนแบบนี้ เขาจะต้องรักษาภาพพจน์ที่ดีของความเป็นข้าราชการ
“ให้เวลาหนูอีกหนึ่งนาที หนูวาดใกล้จะเสร็จแล้ว!”
โอหยางซานซานใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ มือโบกปัดป่ายไปมาไม่หยุด ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่ยอมส่งกระดาษผู้อำนวยการจูจึงแย่งกระดาษไปเองกับมือ ถ้าความเร็วในการวาดมีแค่นี้ ลูกสาวของผู้อำนวยการโอหยางก็แพ้แล้ว!
ผู้อำนวยการจูดูภาพวาดของเหมยเหมยก่อน มุมปากกระตุกยกยิ้มไม่หยุด เจ้าหญิงน้อยของตระกูลจ้าวมีวิธีการวาดที่น่าสนใจนัก ช่างมีความเป็นเอกลักษณ์ยิ่ง!
…………………………………………………