GGS:บทที่ 975 เปลี่ยนไปเพียงวันเดียว
เพียงแค่เริ่มต้นสตรีม ผู้ชมต่างก็เข้ามาชมช่องของซูจิ้งกันอย่างหนาแน่นโดยในตอนนี้เกินกว่าสี่แสนคนเข้าไปแล้วและจำนวนยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เขาและหนุ่มร่างเตี้ยในตอนนี้กำลังทำการวัดสัดส่วนร่างกายเทียบกันอยู่ โดยชายร่างเตี้ยคนนี้มีเข่าและเท้าที่สั้นกว่าเมื่อเทียบกับซูจิ้งที่มีความสูงกว่า 183 เซนติเมตรอย่างเห็นได้ชัด โดยชายร่างเตี้ยมีความสูงรวมเพียง 162 เซนติเมตรเท่านั้น
ทั้งสองยังหันหลังชนกันเพื่อจะเทียบให้เห็นความต่างอย่างชัดเจนและนี่เองทำให้ผู้ชมได้เห็นชัดยิ่งขึ้นว่าหนุ่มร่างเตี้ยมีความสูงเพียงไหล่ของซูจิ้งเท่านั้น
“ดังที่เห็นนะครับ ความสูงของสุภาพบุรุษท่านนี้ทุกคนก็ได้เห็นประจักษ์กับตาตัวเองกันแล้ว ตอนนี้ผมจะเริ่มการรักษา
แต่กระบวนการรักษาของผมนั้นถือว่าเป็นความลับทางการรักษาของหมอเทวดา นี่จึงเป็นเหตุให้ผมไม่อาจเปิดเผยขั้นตอนการรักษาได้
แต่ถึงจะบอกแบบนั้นผมเองจะแสดงให้เห็นผลการรักษาในแต่ละวันแทนครับ และอยู่ในเวลาเดียวกันทุกวัน
โดยผมจะทำการวัดความสูงเทียบกับสุภาพบุรุษท่านนี้แบบนี้ในทุกๆวันเพื่อที่จะให้ทุกท่านได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
หากคุณคิดว่ามันไม่น่าสนใจล่ะก็ ผมสามารถบอกได้เลยว่าคุณพลาดแล้วล่ะ” ซูจิ้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ไม่สนเฟ้ย นี่มันไม่เห็นมีอะไรเลยสักอย่างนี่หว่า”
“นี่มันเหมือนกับที่เขาเรียกว่าตะโกนใส่ฝนเรียกสายฟ้าแล้วอ้างตนเป็นผู้วิเศษไม่ใช่เหรอ มันน่าลึกลับตรงไหนกันเนี่ย”
“ทำไมฉันรู้สึกว่าตัวเองโดนหลอกล่ะ ลองคิดดูดีๆแล้วจะเป็นไปได้ยังไงที่จะทำให้คนๆหนึ่งที่มีอายุเกินพอที่จะสูงเพิ่มได้สามารถสูงเพิ่มได้อีก 15 เซนติเมตรนี่จะเป็นไปได้ยังไงกัน
อย่าไปใส่ใจเลยดีกว่า พวกเราไม่โง่พอที่จะเล่นปืนที่มีกระสุนแบบนี้หรอกนะ”
“ไม่ว่าคุณจะคิดว่ามันดูลึกลับหรือไม่ก็ตาม ผมจะทำให้ประจักษ์กับสายตาคุณเอง ในเมื่อพูดไปก็ไม่สามารถสู้กับข้อความได้ล่ะก็ งั้นผมจะไม่พูดอะไรมากก็แล้วกัน เจอกันพรุ่งนี้นะ” ซูจิ้งทำการกล่าวจบแบบง่ายๆก่อนที่จะปิดการสตรีมไปเฉยๆ
ตอนนี้เหล่าผู้ชมที่เพิ่งจะตามเข้ามาดูเพราะได้ยินข่าวการสตรีมของซูจิ้ง เมื่อเห็นว่าซูจิ้งปิดสตรีมหนีไปดื้อๆก็ได้แต่นึกสับสนอยู่ในใจ พลางนึกถามไปว่าไม่ใช่ว่าเขาต้องการสตรีมการเพิ่มความสูงหรอกเหรอ ทำไมถึงปิดไปเร็วขนาดนี้ล่ะ แต่เมื่อเห็นข้อความที่มีเหล่าผู้ชมที่เข้ามาก่อนพิมพ์ทิ้งเอาไว้ พวกเขาก็ไม่แปลกใจอะไรสักนิด
ถึงแม้การสตรีมของซูจิ้งจะหยุดลงแล้ว แต่ข่าวที่ซูจิ้งจะทำการแสดงผลการเพิ่มความสูงให้กับชายคนหนึ่งนี้กลับแพร่สะพัดไปบนโลกอินเตอร์เนตอย่างไม่หยุดยั้ง และนี่ทำให้หลายๆคนเลือกที่จะไม่ใส่ใจกับการสตรีมของซูจิ้งอีกต่อไป
“ไอ้ซูจิ้งนี่มันจริงๆเลย สร้างข่าวว่ารักษาโรคกระจกตาเสื่อมได้ยังไม่พอ นี่หมอนี่ยังทำแบบเดิมอยู่อีก คิดจะเพิ่มความสูงให้ผู้ใหญ่เหรอ แกคิดว่าตัวเองเป็นเพราะเจ้ารึไงกัน” หลังจากได้ยินข่าวของซูจิ้ง หวังกังหยุนอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีโกรธออกมา
ตอนนี้เขามีแต่ความคิดที่ว่าซูจิ้งคือปลาเน่าของวงการแพทย์และต้องกำจัดออกไปให้จงได้
“เหอะ ถ้าแกหยุดทำตัวแบบนี้ก็คงจะพออยู่ในวงการนี้ได้ แต่ในเมื่อแกไม่หยุดก็คงมีแต่เพียงการหาที่ตายในวงการนี้ล่ะนะ
เมื่อถึงเวลาล่ะแก ทั่วทั้งโลกจะเล่นงานแกอย่างแน่นอน ฉันอยากรู้จริงๆว่าเมื่อถึงตอนนั้นแกจะมีทำหน้าเป็นยังไงในเมื่อชื่อเสียงแกเน่าเหม็นไปแล้ว
เมื่อถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่วงการแพทย์เลย แม้แต่ธุรกิจของแกก็ต้องไปไม่รอด ถ้าจะให้ดีที่สุดขอให้แกถูกจับเพราะทำตัวอวดอ้างมากไปก็แล้วกัน” เมื่อฉิวจิ้งได้ยินข่าวของซูจิ้ง เขาก็ได้สบถออกมาในทันที
“สตรีมการรักษาผู้ใหญ่ให้สูงเพิ่มขึ้นได้เหรอ” ณ โรงพยาบาลฮัวกังจงหยุน หลิวเว่ยที่เห็นข่าวนี้ได้แต่นิ่งอึ้งไป
“ฮ่าฮ่า เรื่องหลอกลวงแหงๆอยู่แล้ว ไม่เห็นมีอะไรน่าสนเลย” หมอในโรงพยาบาลจำนวนหนึ่งที่ได้ยินข่าวนี้ต่างก็หัวเราะออกมาดังลั่น
หลิวเว่ยนั้นหาได้สนใจหมอเหล่านี้ไม่ เขาสนใจเรื่องนี้มากและคิดว่าจะไปหาข้อมูลเพิ่มหลังจากเลิกงานแล้ว เหมือนกับตอนที่อีกหลายๆคนไม่เชื่อว่าซูจิ้งสามารถรักษาผู้ป่วยที่มีอาการกระจกตาเสื่อมคนนั้นได้
ก่อนหน้านี้เขาได้ตามเรื่องนี้มาแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูน่าเหลือเชื่อจนไม่มีทางเป็นไปได้ก็ตาม แต่เขาแน่ใจแล้วว่าซูจิ้งนั้นมีฝีมือทางด้านการแพทย์ตามที่เขาบอกจริงๆ และนี่ทำให้เขาสนใจในช่าวที่เกี่ยวกับซูจิ้งในทันที
“คุณซูสตรีมล่ะ เราควรจะเข้าไปช่วยเขายืนยันความสามารถรึเปล่าอ่ะ” ณ บริษัทหยันหยินเอนเตอร์เทนเมนต์ ลูจิงยี่ที่เห็นข่าวของซูจิ้งก่อนหน้านี้นั้น
เขาอยากจะช่วยเหลือซูจิ้งให้มีชื่อเสียงในด้านนี้จริงๆ นั่นก็เพราะด้วยการผ่าตัดศัลยกรรมขั้นเทพของซูจิ้งได้ทำให้เขานั้นมายืนอยู่ในจุดๆนี้ได้
เทียบกับคนในวงการดาราแล้วเขานั้นเปรียบได้ดั่งเนื้อ ที่สด ใหม่ และมีค่าตัวสูงล้ำ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเทียบกับเนื้อทั่วๆไปที่วางขายแล้ว เขาถือได้ว่าเป็นนื้อที่ดูดีมีความเอร็ดอร่อยเก็บงำไว้อยู่ภายในชนิดที่ว่าเมื่อลิ้มรสแล้วยากที่จะลืม
เขาเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้สตรีมให้กับชาร์คทีวีและทำให้เขานั้นฝึกฝนความสามารถในการแสดงได้จนตอนนี้เขาแสดงได้เก่งกว่ากวนจูจิวไปแล้ว จะบอกว่าตัวเขานั้นเป็นสตรีมเมอร์ดังของเว็บไซต์ชาร์ทีวีเลยก็ว่าได้ในขณะนี้
“ฉันว่าไม่ต้องหรอก ถึงแม้ว่าตอนนี้เราสองคนจะมีชื่อเสียงแล้ว แต่ยังไงซะก็เทียบกับคุณซูไม่ได้อยู่ดี
อีกอย่างคุณซูไม่ได้ขอให้เราเข้าไปช่วยแสดงว่าเขาน่าจะมีแผนอยู่แล้ว การที่เราเข้าไปมีส่วนอาจจะทำให้แผนเขาเสียไปเปล่าๆ
ฉันว่าตอนนี้เราแค่นั่งดูอะไรสนุกๆกันดีกว่าน่า” หยินหนิงหนิงพูดเสร็จก็ได้หัวเราะออกมา
“หนิงหนิงพูดถูกแล้วล่ะ นายไม่ควรจะเคลื่อนไหวตามใจชอบนะ ต่อให้นายไม่อยากจะอยู่เฉยๆแต่ฉันว่านายควรจะตั้งใจทำงานตามที่คุณซูหวังไว้ก็พอแล้ว นี่สิจะทำให้อาจิ้งมีความสุขมากกว่า” หวังซือหยาได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” ลูฉินหมิงได้เคาะประตูหน้าห้องคลีนิกพิเศษเบาๆ
“เข้ามา” เมื่อเขาได้ยินเสียงของซูจิ้งจากด้านใน เขาจึงได้เปิดประตูเข้าไป ตอนนี้เขาได้เห็นว่าทั้งซูจิ้งและชายร่างเตี้ยพึ่งจะทำการใส่รองเท้า ก่อนที่ซูจิ้งจะให้ขวดยาที่มีของเหลวอยู่ข้างในแล้วก็ได้ให้ชายร่างเตี้ยดื่มในทันที
“เอาล่ะ กลับไปได้ แล้วพร่งุนี้เราก็มาพบกันเวลานี้นะ” ซูจิ้งพูดกับชายร่างเตี้ย
“ได้ครับ” ชายร่างเตี้ยได้ตอบกลับอย่างมีพลัง นี่เป็นผลพวงหนึ่งที่ได้จกการดื่มยาที่ซูจิ้งมอบให้เขาเมื่อครู่นี้ ตอนนี้เขามีความรู้สึกสดชื่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างมากจนอดไมได้ที่จะแสดงท่าทีดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ผลของยานี้ดีจนทำให้เขานึกประหลาดใจเหมือนกันพร้อมกับคิดว่านี่ต้องเป็นยาวิเศษอย่างแน่นอน จนในที่สุดใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และออกไปอย่างมีความสุข
“อาจิ้ง เรื่องที่ว่าสามารถทำให้คนที่หยุดสูงไปแล้วสามารถสูงเพิ่มได้อีก 15 เซนติเมตรนั่นเป็นไปได้ด้วยเหรอ” หลังจากเห็นชายร่างเตี้ยจากไป ลูชินหมิงก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
เขานั้นเพิ่งจะคุยกับพ่อแม่ของเด็กน้อยที่เป็นโรคกระจกตาเสื่อมแล้วซูจิ้งเพิ่งจะรักษาหายไปว่าควรจะทำยังไงถึงจะช่วยเหลือซูจิ้งได้ดี
ไม่คิดว่าอยู่ๆเขาจะได้ยินข่าวว่าซูจิ้งทำการสตรีมและบอกว่าจะทำให้ชายร่างเตี้ยคนเมื่อกี้สูงขึ้นมากกว่าเดิมอีก 15 เซนติเมตร
หากเขากลั้นความสงสัยนี้ไว้อยู่ก็แปลกแล้ว เพราะเรื่องนี้มีโอกาสที่จะทำให้เรื่องแย่กว่าเดิมได้อีกหากผิดพลาดทำไม่สำเร็จขึ้นมา
ถ้าให้บอกจริงๆล่ะก็เขานั้นคิดว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้แม้แต่น้อย สิ่งที่เรียกว่ากระดูกนั้นโดยปกติแล้วเมื่อถึงช่วงอายุหนึ่งพวกมันจะเคลือบตัวให้แข็งเพื่อที่จะทำให้ตัวเองแข็งแรงยิ่งขึ้นโดยมันถูกเรียกว่ากระดูกปิด
เมื่อกระดูกอยู่ในภาวะนี้แล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อีกต่อไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขานั้นคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เขาเองก็ไม่กล้าด่วนสรุปเหมือนคราวก่อน นั่นก็เพราะว่าซูจิ้งคือคนที่รักษาอาการกระจกตาเสื่อมที่ไม่มีใครรักษาได้มาแล้ว
“น่าๆ เป็นไปได้หรือไม่เดี๋ยวคุณลุงก็จะได้เห็นเองนั่นแหล่ะ” ซูจิ้งพูดออกมา
“ก็ได้” ถึงแม้ว่าลูฉินหมิงจะมีความกังวลอยู่บ้าง แต่เมื่อเขาได้เห็นท่าทางของซูจิ้งแล้วก็มีความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าควรจะกังวลเพิ่มหรือความหมดห่วงจริงๆดี
จริงๆแล้วอย่าว่าแต่ลูฉินหมิงเลย แม้แต่หมอคนอื่นเองที่อยู่ในโรงพยาบาลกังเฟิงจงหยุนแห่งนี้ก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน
นั่นก็เพราะว่าเรื่องที่ซูจิ้งพึ่งจะบอกไปตอนสตรีมนี้มันช่างดูเวอร์วังเสียจนไม่น่าเชื่อเช่นเดียวกับตอนที่รักษาอาการกระจกตาเสื่อมของเด็กน้อยคนนั้น
แต่กับเด็กน้อยที่มีอาการร้ายแรงไร้ทางแก้แบบนั้นแล้วยังทำได้ นับประสาอะไรกับแค่ความสูงนี้กัน นี่กลายเป็นว่าพวกเขานั้นกลับรู้สึกแอบเชียร์ซูจิ้งให้สร้างปาฏิหารย์ทางวงการแพทย์ได้อีกครั้งไปทุกคน
นี่จึงเป็นเหตุผลที่จะบอกได้ว่าพวกเขานั้นทำตัวไม่ถูกกันอยู่นั่นเอง
เพียงชั่วพริบตาเดยว หนึ่งวันได้ผ่านเลยไป ซูจิ้งได้ทำการสตรีมที่ช่องของเขาอีกครั้งด้วยหัวข้อคอนเทนต์เดิม ตอนนี้ได้มีหลายๆคนที่สนใจตามเรื่องนี้กันอย่างใกล้ชิด
ตอนแรกที่เขาได้ข่าวนี้ต่างก็เชื่อกันว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ทุกคนก็อดที่จะติดตามผลการรักษาของซูจิ้งไม่ได้อยู่ดี
ส่วนใหญ่แล้วในตอนนี้เหล่าผู้ชมของซูจิ้งนั้นเป็นคนที่คาดหวังให้ซูจิ้งทำผิดพลาด และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้ซูจิ้งล่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าให้ดังอั่ก พวกเขาจะได้ใช้โอกาสนี้จิกทึ้งซูจิ้งได้อย่างหนำใจและไม่มีใครด่าทอพวกเขาได้
“ซูจิ้งสตรีมอีกแล้ว ไปดูกันเถอะ”
“เขาก็แค่ทำตัวอวดอ้างล่ะน่า ไม่เห็นมีอะไรน่าสนเลย”
“นี่พึ่งจะวันเดียวเองนะ สมควรจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกน่า ฉันว่ามาดูวันหลังๆดีกว่า”
“แฟนคลับของซูจิ้งนี่ไม่มีหัวสมองกันเลยสินะ มีแต่พวกสิ้นคิดเท่านั้นที่คอยหนุนหลังหมอนั่น”
“ฉันจะดูล่ะ ไม่ยังไงก็จะดู”
“ฮ่า ฮ่า ฉันจะรอจนกว่าจะเห็นมันพลาดนี่แหล่ะ ดูซิว่าคราวนี้แฟนคลับของหมอนั่นจะกล้ามาทับถมกันอีกรึเปล่า”
อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่ได้เห็นซูจิ้งและช่ายร่างเตี้ยเปรียบเทียบความสูงกันเมื่อวานได้แต่นิ่งอึ้งไป พลางนึกตั้งคำถามอยู่ในใจว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพลวงตาเหรอ ทำไมชายร่างเตี้ยนั่นถึงได้ดูสูงขึ้นล่ะ