GGS:บทที่ 976 สั่นสะเทือนทั่วโลกา

“…ฉันคิดไปเองรึเปล่าว่าเห็นไอ้แคระนี่สูงขึ้น”
“ฉันไม่ได้คิดไปเองคนเดียวสินะ”
“ต้องเป็นเพราะหมอนี่ใส่รองเท้าเสริมส้นแน่ๆ”
ภายใต้การจับจ้องของผู้ชม ซูจิ้งและหนุ่มร่างเตี้ยต่างก็ทำการถอดรองเท้าของตัวเองออกจนเหลือแค่เท้าเปล่า นอกจากนั้นยังทำการพับขากางเกงเพื่อจะแสดงให้เห็นว่าขาทั้งสองข้างของทั้งสองคนเป็นขาจริงๆและไม่ได้เสริมด้วยอะไรทั้งนั้น
หลังจากนั้นทั้งสองได้ทำการเปรียบเทียบความสูงกันเช่นเดียวกับเมื่อวาน และนี่ทำให้ความสูงของชายร่างเตี้ยแตกต่างจากเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด
“อย่างที่เห็นกันนะครับ ผมไม่ได้ใส่รองเท้าเสริมส้นนะ ดูเหมือนผมจะสูงขึ้นจริงๆ” ชายร่างเตี้ยพูดออกมาในวิดีโอ
“…เป็น…เป็นไปได้ยังไง…นี่แค่วันเดียวนะ”

“หมอนี่ต้องทำอะไรแน่ๆ…อะไรสักอย่าง”
เหล่าคนที่ไม่เชื่อต่างก็พยายามหาร่องรอยเพื่อดูว่ามีเทคนิคอะไรรึเปล่า แต่ไม่ว่าดูยังไงก็ไม่พบอะไรเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้นซูจิ้งยังได้กดเล่นวิดีโอของเมื่อวานในตอนที่ทำการวัดความสูงเทียบกันเช่นนี้ไว้ที่มุมขวาของการสตรีมเท่านั้น
โดยในระหว่างกระบวนการ ซูจิ้งไม่ได้ทำการสลับฉากหรืออะไรทั้งนั้น เขาได้ทิ้งลิ้งไว้ให้ผู้ชมเพื่อใช้เปรียบเทียบกัน และยิ่งผู้ชมในตอนนี้กดเทียบมากเท่าไหร่ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็เห็นเพียงความสูงที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าหลายเซ็นเลยทีเดียว
หลังจากที่ซูจิ้งและชายร่างเตี้ยได้เทียบความสูงกันเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองคนได้ทำการไปวัดความสูงออกมาจนเป็นตัวเลข
ตอนนี้ซูจิ้งยังมีความสูงอยู่ที่ 183 เซนติเมตร แต่ชายร่างเตี้ยนั้น ตอนนี้เขามีความสูงเพิ่มขึ้น จากเดิมเขาเสียงที่ 162 เซนติเมตร แต่ในตอนนี้เขานั้นกับวัดความสูงได้ 165.5เซนติเมตร
นี่หมายความว่าเพียงวันเดียวเขาก็สามารถสูงขึ้นมาได้ถึง 3.5 เซนติเมตร
“พระเจ้า นี่มันน่ามหัศจรรย์ไปเลยไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไม่เชื่อหรอก ต้องมีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน”
“มันมีวิธีการอย่างผ่าตัดเสริมความสูงไม่ใช่เหรอ ฉันว่าหลังจากสตรีมเมื่อวาน ซูจิ้งจะต้องให้คนของเขาจัดการผ่าตัดไอ้เตี้ยนี่อย่างแน่นอน”

“ฉันเคนเห็นคนที่เคยผ่าตัดเสริมความสูงมาแล้วนะว่าหลังจากที่ผ่าตัดจะหลงเหลือรอยแผลจำนวนมากเหลือทิ้งไว้ แต่ชายคนนี้กลับไม่มีเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างนี่มันเพียงแค่วันเดียวเองนะ ต่อให้ผ่าตัดเก่งขนาดไหนก็ตามแต่ไม่มีทางที่คนที่เข้ารับการผ่าตัดจะยืนได้และเดินจนเป็นปกติแบบนี้ได้เพียงวันเดียวหรอก”
ตอนนี้ได้เกิดการวิพากษ์เกี่ยวกับความสูงที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของชายร่างเตี้ยในช่องคอมเมนต์กันแทบจะเป็นไฟ โดยมีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ

ซูจิ้งเองก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะอธิบายเพิ่มเติม ราวกับว่าเขาขี้เกียจจะพูดกับคนพวกนี้แล้วจริงๆ เขาทำเพียงแค่บอกว่าเจอกันพรุ่งนี้เวลาเดิมเท่านั้นก่อนจะปิดสตรีมไปเฉยๆ
และเมื่อถึงวันต่อมา ตอนนี้ผู้ชมเพิ่มขึ้นจากวันแรกประมาณหนึ่งแสนคนหรือก็คือผู้ชมที่กำลังตั้งตารอดูช่องของซูจิ้งในตอนนี้มีอยู่ประมาณห้าแสนคนและยังเพิ่มขึ้นอย่างแต่เนื่อง
ทันทีที่ซูจิ้งเปิดสตรีม เขาไม่ได้พูดอะไรแม้แต่น้อย เขาทำเพียงเดินไปเทียบความสูงกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนกับสองวันแรกทุกประการ เพียงแต่ตอนนี้เขาดูสูงขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น
นี่ทำให้เหล่าผู้ชมที่เฝ้ารอต่างก็ตกตะลึง และเมื่อเห็นการเทียบความสูงกับซูจิ้งในวันนี้ทำให้พวกเขาต่างก็พิมอะไรกันไม่ออก และเมื่อสิ้นสุดการเทียบความสูง ซูจิ้งได้เข้าไปวัดความสูงกับที่วัด ตามด้วยชายหนุ่มคนนั้น
ในตอนนี้ซูจิ้งยังคงมีความสูงอยู่ที่ 183 เซนติเมตรเช่นเดิม แต่ชายหนุ่มคนนั้น ในตอนนี้ความสูงของเขาอยู่ที่ 168.5 เซนติเมิตร

วันที่สามชายหนุ่มวัดความสูงได้ 171 เซนติเมตร
วันที่สี่ชายหนุ่มวัดความสูงได้ 173.5 เซนติเมตร
วันที่ห้าชายหนุ่มวัดความสูงได้ 176 เซนติเมตร
วันที่หก ความสูงของชายหนุ่มอยู่ที่ 177 เซนติเมตร หากนับจากวันแรกที่มีการเริ่มการสตรีมเขาสูง 162 เซนติเมตร นี่หมายความว่าในตอนนี้เขาสูงเพิ่มจากเดิมถึง 15 เซนติเมตรไปแล้ว
อย่าว่าแต่พื้นที่ภาคใต้ของประเทศเลย ต่อให้พื้นที่ทางเหนือที่กล่าวกันว่ามีแต่คนตัวสูงๆนั้น หากเทียบกับชายหนุ่มคนนี้แล้วก็ไม่สามารถเรียกเขาได้ว่าคนตัวเตี้ยอีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงขาเท่านั้นที่ยาวขึ้น ดูเหมือนว่าโครงสร้างร่างกายของชายหนุ่มก็ใหญ่ขึ้นมาราวกับเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย ไหล่กว้างขึ้น ร่างกายผอมเพรียวแต่ดูมีกล้าม เมื่อเขายืนอยู่ข้างซูจิ้งในตอนนี้แล้วความสูงของเขาอยู่ที่ระดับสายตาของซูจิ้งไปแล้ว
มาจนถึงตอนนี้ ไม่ใครสักคนที่กำลังชมอยู่พิมข้อความที่บอกว่าเขานั้นสูงขึ้นเพราะการผ่าตัดเพิ่มความสูงเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ไม่ใครคิดว่าสิ่งที่ซูจิ้งทำเป็นเพียงการผ่าตัดเพิ่มความสูงอีกต่อไป

เพราะไม่มีทางเลยที่การผ่าตัดจะเพิ่มความสูงได้ถึง 15 เซนติเมตร แถมไม่มีทางที่ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงตามให้สมกับรูปร่างแบบนี้แน่นอน
“พระเจ้าเถอะ นี่เขาสูงเพิ่มขึ้น 15 เซนติเมตรจริงๆอย่างนั้นเหรอ”
“เป็นไปได้ด้วยเหรอ ได้ยังไงกัน”
“ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมองยังไงเขาก็ทำได้จริงๆ”
“ไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่จะไม่สามารถเพิ่มความสูงได้แล้วหรอกเหรอ หรือว่าฉันเข้าใจผิดไป”
“มันก็อาจจะสูงขึ้นได้จริง แต่ไม่ใช่กับกรณีนี้อย่างแน่นอน”
“ฉันผิดเอง ฉันไม่น่าไปสบประมาทซูจิ้งไว้เลย ก่อนหน้านี้ฉันถึงกับด่าทอเขาลับหลังเลยอ่ะ”
“ซูจิ้งเป็นพระเจ้าในร่างมนุษย์จริงๆ นี่ฉันลืมไปได้ยังไงว่าเขาเป็นคนแบบนั้น”

“เดี๋ยวนะ หากว่าซูจิ้งสามารถเพิ่มความสูงให้ชายคนนี้ได้ตามที่เขาพูด งั้นก็หมายความว่าเรื่องที่ว่าเขารักษาโรคกระจกตาเสื่อมในสามวันนั่นก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ ถ้าเอาเรื่องนั้นมาเทียบกับเรื่องนี้แล้วการรักษาในสามวันนั่นยังง่ายซะกว่า แถมเขายังรักษาระดับการมองเห็นให้ดีกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ”

“ฉันเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องที่ว่าพ่อแม่ของเด็กที่ไปรักษาโรคกระจกตาเสื่อมนำหลักฐานการตรวจจากที่ต่างๆไปแถลงข่าวที่โรงพยาบาลกังเฟิงจงหยุนแล้วนะ
พอฉันได้เห็นหลักฐานเหล่านั้นแล้วมันแน่นหนาและน่าเชื่อถือมากๆ ไม่มีทางเลยที่จะเป็นเรื่องแต่งขึ้นมา เป็นพวกเราหลงคารมของคนแสร้งทำตัวดีแต่จิตใจชั่วช้าพวกนั้นได้ยังไงกัน นี่ฉันหลงเชื่อไปแล้วจริงๆนะว่าข่าวของซูจิ้งเป็นเพียงแค่การอวดอ้าง”

“ฮ่าฮ่าฮ่า พี่จิ้งช่างทรงพลังจริงๆ ไอ้พวกคนที่ออกมากล่าวหาพี่จิ้งก่อนหน้านี้ ฉันขอถามหน่อยเถอะว่าตอนนี้รู้สึกหน้าชากันบ้างรึเปล่า”
“เฮ้เฮ้ ทุกครั้งที่ฉันเห็นคนประเภทนี้สร้างปัญหาแบบเดิมๆให้กับพี่จิ้งซ้ำๆนั้น ฉันยิ้มออกมาเลยนะและก็ไม่ได้คิดจะทัดทานพวกนั้นแม้แต่น้อย
เพราะฉันรู้ดีว่าไม่นาน พี่จิ้งจะหาวิธีตบหน้าคนพวกนั้นกลับไปได้ทุกคน แต่ฉันก็ยังสงสัยอยู่นะว่าเมื่อไหร่คนพวกนี้จะหลายจำกันสักที หรือว่าหน้าหนาจนไม่รู้สึกกันแล้วก็ไม่รู้”

“โอ้ย ฉันว่าหนายังก็ไม่พอหรอก ตอนนี้ต้องมีใครบางคนอยากจะบีบคอพวกเราและตะโกนใส่ด้วยความเดือดดาลเป็นแน่”
เหล่าแฟนคลับของซูจิ้งที่ก่อนหน้านี้พยายามจะออกมาพูดช่วยเหลือแต่ถูกตอกกลับไปนั้น ในตอนนี้พวกเขาได้กลับมาด้วยความองอาจอีกครั้ง บางคนถึงกับตอกหน้ากลับด้วยข้อความชนิดที่คนที่ดูถูกซูจิ้งก่อนหน้านี้กลับต้องมาโกรธจนแทบคลั่งแทน
แต่พวกเขานั้นก็ไม่สามารถพิมข้อความอะไรโต้ตอบออกมาได้ เพราะการกระทำสวนกลับของซูจิ้งในครั้งนี้ช่างรุนแรงพอที่จะทำให้หลายๆคนต้องยอมคารวะในความสามารถของเขา

“คุณหมอหวัง ผมได้ยินมาว่าซูจิ้งคนที่เปิดคลีนิกพิเศษแพงหูฉี่ที่โรงพยาบาลกังเฟิงนั่นสามารถทำให้คนไข้ที่เป็นผู้ใหญ่สูงขึ้นได้อีก 15 เซนติเมตรเลยนะ” ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หมอกลุ่มหนึ่งจับกลุ่มคุยกันเกี่ยวเรื่องนี้ด้วยอาการตกตะลึงและมีหนึ่งในนั้นหันไปบอกหวังกังหยุนที่กำลังเดินผ่านมาพอดี

“เป็นไปไม่ได้ มันต้องแค่สร้างเรื่องอวดอ้างแน่นอน” หวังกังหยุนได้ตอบออกมาด้วยคิ้วที่ขมวดเข้ม พลางนึกไปถึงข่าวที่เขาได้ยินมาว่าซูจิ้งได้ทำการสตรีมการเพิ่มความสูงให้กับคนไข้รายหนึ่ง
ไม่ว่าฟังยังไงก็ไม่ใช่เรื่องจริงอยู่แล้วและสมควรที่จะทำให้ชื่อเสียงของเขาแย่ลงได้โดยเขาไปต้องทำอะไรเลย แล้วนี่ทำไมถึงกลายเป็นว่าเรื่องของเขาเป็นที่พูดถึงแม้กระทั่งในกลุ่มหมอแบบนี้ได้กัน นี่หมอพวกนี้หลงเชื่อจริงๆเหรอ

“ไม่ใช่การคุยโวอวดอ้างหรอกครับ ครั้งนี้มีหลักฐานเป็นวิดีโอยืนยัน น่าจะไม่ใช่สร้างเรื่องลวงแบบที่ว่ามาหรอก” หมอคนนั้นพูดออกมา
“ผมได้ให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบวิดีโอนั้นแล้วด้วยนะ เขาพูดว่าวิดีโอนั้นเป็นวิดีโอที่ได้มาจากการสตรีมจริงๆและไม่มีการใช้เทคนิคพิเศษอะไรทั้งสิ้น” หมออีกคนหนึ่งพูดออกมา
“…ขอดูก่อน” หวังกังหยุนในตอนนี้ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดวิดีโอที่กำลังเป็นที่ร่ำลือกันในทันที เมื่อเขาเห็นฉากที่เกิดขึ้นก็ทำได้แต่นิ่งอึ้งไป
หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาจากร่างอยู่แล้วและยากที่จะทำให้มันสงบลงได้ พลางคิดอยู่ในใจว่าเป็นไปได้ยังไงกัน ทำให้ผู้ใหญ่สูงขึ้นอีก 15 เซนติเมตรด้วยเวลาอันสั้น นี่ทักษะการแพทย์ของเขาสูงล้ำเกินกว่าความรู้ทางการแพทย์ในปัจจุบันไปแล้วเหรอ

“…เอ่อ ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าเขานั้นรักษาคนที่มีอาการกระจกตาเสื่อมได้ที่พวกเราคิดไปว่าเป็นแค่เรื่องแต่งเพื่อสร้างชื่อเสียงของเขานั้นเองก็สมควรจะเป็นความจริงนะ
ตอนนี้สาธารณชนได้เผยแพร่หลักฐานต่างๆของเด็กน้อยคนนั้นก่อนที่จะไปรักษาที่นั่นแล้วและมันเป็นของจริงๆทั้งหมดและยืนยันว่าเด็กน้อยคนนั้นมีอาการกระจกตาเสื่อมจริง

ยิ่งไปกว่านั้นผมได้ลองติดต่อคนที่เคยตรวจเด็กนั่นและเขายืนยันว่าเด็กนั่นมีอาการกระจกตาเสื่อมจริงๆ การที่เด็กนั่นหายก็ยังทำให้เขาต้องสงสัยไม่น้อยไปกว่าเราเช่นเดียวกันเมื่อเห็นข่าวว่าเด็กน้อยคนนั้นหายแล้วจริงๆ นี่จึงน่าจะพอเพียงต่อการยืนยันได้แล้วว่าเป็นเรื่องจริง” หมออีกคนหนึ่งก็ได้พูดออกมา

“…นี่…ฉัน…ไปดูถูกหมอ…ทักษะระดับนั้น…” ใบหน้าของหวังกังหยุนในตอนนี้มีสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแม้แต่น้อย จะบอกว่าไม่เชื่อก็ไม่ใช่ จะบอกว่าสำนึกก็ไม่เชิง
เขาพลางคิดไปว่า นี่เป็นเพราะตัวเขาไม่เข้าใจการรักษาของคนอื่นเลยไปใส่ร้ายเขาอย่างนั้นเหรอ หากว่าซูจิ้งเป็นหมอเทวดาแล้วตัวเขายังกล้าไปใส่ร้ายคนที่มีทักษะระดับนี้ไม่ต่างอะไรกับการที่เขาได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงเลยสักนิด

แล้วต่อแต่นี้ตัวเขาที่ตั้งปณิธานว่าจะเสาะแสวงหาคนหนุ่มที่มีความสามารถให้เป็นหมอรุ่นใหม่แห่งยุคมาโดยตลอด…. เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน ในเมื่ออยู่วงการเดียวกันแล้ว หากต้องเจอหน้ากันแล้วเขาจะกล้าสู้หน้าได้ยังไง

“อย่างที่คิด เขานั้นไม่ธรรมดาจริงๆ” หลิวเว่ยที่กำลังทำงานอยู่ในโรงพยาบาลฮัวกังจงหยุนในตอนนี้ถึงกับอุทานออกมาในทันทีที่เห็นข่าวนี้
“นี่เรา…ไปดูถูกเขาได้ยังไงกัน ฮืม เดี๋ยวนะ หมอหลิว คุณรู้จักเขาด้วยเหรอ ผมก็ว่าอยู่ว่าทำไมคุณทำเหมือนจะคาดหวังกับการรักษาของเขานัก” หมอที่อยู่ข้างหลิวเว่ยนั้นมีท่าทีกระดากอายก่อนจะหันไปถามหลิวเว่ยที่มีท่าทีตื่นเต้นยินดี
“อืม ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นลูกของคนไข้ผมป่วยเป็นโรคเบื่ออาหาร…” หลิวเว่ยค่อยๆอธิบายช้าๆ นี่ทำให้หมอทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมหลิวเว่ยถึงไม่เคยเล่าให้ฟัง นั่นก็เพราะว่าในมุมมองของหมอแล้วต่อให้เห็นด้วยตาก็ยังยากจะเชื่อถือได้

“เป็นไปได้ยังไง…เป็นไปได้ยังไงกัน..แม่…เอ๊ย” ฉิวจิงที่กำลังติดตามผลการเพิ่มความสูงของซูจิ้งในช่วงหลายวันมานี้ได้แต่สบถออกซ้ำๆ
เมื่อไม่กี่วันก่อนเขานั้นไม่ได้ตามดูเพราะว่าไม่เชื่ออยู่แล้วว่าซูจิ้งจะเพิ่มความสูงให้ผู้ใหญ่อย่างที่เขากล่าวอ้างได้
เขานั้นมัวแต่ยุ่งอยู่กลับการเตรียมตัวหาทางที่จะกลบถมซูจิ้งไม่ให้มีโอกาสลุกขึ้นยืนมาในวงการเดียวกับเขาได้อีกต่อไปหลังจากที่โลกได้รู้ว่าซูจิ้งก็แค่คนปลอมๆที่ใฝ่หาชื่อเสียงเท่านั้น

แต่ในวันถัดๆมา เขาเองก็เริ่มเห็นสาธารณชนได้เริ่มพูดถึงซูจิ้งด้วยแนวโน้มที่ดีมากจนเขาเองก็เริ่มจะรู้สึกได้ว่ามีอะไรผิดจากที่เขาคาดไว้อย่างแน่นอน
ในวันนี้เขาจึงอดไม่ได้ที่จะมานั่งดูเพื่อจะยืนยันว่าสิ่งที่เขาคิดไว้ยังถูกต้องอยู่รึเปล่าและผลที่ออกมาคนละเรื่องกับที่เขาคาดไว้ก่อนหน้านี้
แถมการที่ซูจิ้งออกมาสตรีมแบบนี้แน่นอนว่าต้องกลายเป็นหลักฐานที่ส่งต่อกันไปอีกนาน และวิดีโอทุกอันล้วนแล้วมาจากการสตรีมทั้งสิ้น มันชัดเจนมากชนิดทีว่าต่อให้เขาเอาชื่อเสียงตัวเองมาเป็นประกันว่าวิดีโอพวกนี้เป็นของที่ใช้เทคนิคพิเศษก็ไม่มีทางเลยที่ใครจะเชื่อได้ ตอนนี้ฉิวจิงที่เห็นฉากนี้รู้สึกราวกับว่าตัวเองอยู่ในนรกโลกันต์

เขานั้นหวังไว้เต็มเปี่ยมว่าซูจิ้งนั้นจะสร้างเรื่องโอ้อวดออกมาเยอะแยะมากมายเพื่อที่เขาจะได้ใช้เป็นข้อมูลในการฝังกลบซูจิ้งไม่ให้มีโอกาสเฉิดฉายอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป
แต่ผลที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขานี้ช่างต่างจากที่เขาคิดอย่างสิ้นเชิง นี่ไม่เพียงจะทำให้เรื่องที่เขากล่าวหาซูจิ้งไว้ก่อนหน้านี้จะตีตกไปแล้ว ยังจะทำให้ซูจิ้งกลายเป็นหมอเทวดาไปจริงๆอีกด้วย

“ดูเหมือนว่าผลจะออกมาแล้วนะ” หวังหยานไม่แปลกใจเลยสักนิดเมื่อเห็นข่าวนี้
“ฮ่าฮ่า ถ้าเป็นกับคนอื่นแล้วสิ่งที่ฉิวจิงพูดมานั้นก็คงทำให้เขาดูดีขึ้นล่ะนะ แต่คราวนี้คนที่หมอนี่มีเรื่องด้วยกลายเป็นซูจิ้งไปซะก็เท่านั้นเอง เรื่องในครั้งนี้ยิ่งทำให้ทุกคนเชื่อว่าซูจิ้งเป็นหมอเทวดาไปแล้วจริงๆ”มู่ติงทำได้เพียงส่ายศรีษะแล้วถอนหายใจออกมาสั้นๆ

เรื่องการเพิ่มความสูงให้ผู้ใหญ่คนหนึ่งจนสูงเพิ่มขึ้นไปกว่า 15 เซนติเมตรนี้ได้กลายเป็นข่าวที่แพร่กระจายส่งต่อๆกันไปไม่เพียงแต่ทั่วประเทศเท่านั้น
ในตอนนี้ เรื่องของซูจิ้งได้ดังออกไปไกลจนเป็นที่ตกตะลึงในวงการแพทย์ทั่วโลกเรียบร้อยแล้ว